เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

สืบเนื่องจากกรณีที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค ได้เข้าตรวจสอบ บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ ทย.6 (เขาพูล) หลังทางอุทยานฯ ได้รับแจ้งจากสายข่าวเมื่อคืนที่ผ่านมาว่ามีคนลักลอบเข้าไปในเขตอุทยาน เป็นกลุ่มออฟโรดจำนวน 6 คัน จึงวางแผนเข้าไปตรวจสอบนั้น 
 

 

 

 

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

 

 

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

 

โดยในเพจเฟซบุ๊กทีมพญาเสือ ซึ่งเป็นเพจของศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ศปก.พป.) ได้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยติดแฮชแท็กว่า #ส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ด่วน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค เข้าตรวจสอบ บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ ทย.6 (เขาพูล) พบกลุ่มรถออฟโรดจำนวน 6 คัน ตรวจสอบโดยละเอียด คันที่ 5 พบ 1.อาวุธปืนไรเฟิล ติดกล้องและอุปกรณ์เก็บเสียง พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง 2.อาวุธปืนพก จำนวน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 3.ซากสัตว์ป่า (หมีขอ) กลุ่มออฟโรดดังกล่าวนำทีมโดยปลัดอำเภอ. และ อส. แห่งหนึ่ง จนท.ไทรโยค นำตัวกลุ่มออฟโรดดังกล่าวไปทำบันทึกจับกุมที่ที่ทำการ อช.ไทรโยค

 

 

จากการตรวจสอบพบกลุ่มรถออฟโรดจำนวน 6 คัน ตรวจสอบโดยละเอียด คันที่ 5 พบ 1.อาวุธปืนไรเฟิล ติดกล้องและอุปกรณ์เก็บเสียง พร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง 2.อาวุธปืนพก จำนวน 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 3.ซากสัตว์ป่า โดย กลุ่มออฟโรด ดังกล่าวนำทีมโดยปลัดอำเภอแห่งหนึ่ง และ อส.ในทีม ขณะนี้อยู่ระหว่างควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค

 

 

และในทวิตเตอร์ของ อาจารย์บอม ยังมีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า "ปลัดอำเภอฯ นำทีม อส. ขับออฟโรดนำไรเฟิลติดกล้อง ลักลอบ ล่าสัตว์ป่า ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค โดนจับได้พร้อมซากหมีขอ" นับเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่มีการจับแก๊งล่าสัตว์ หลังก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่อุทยานได้จับนายเปรมชัย และพวกในคดียิงเสือดำ ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
 

 

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ลงโทษให้หนัก ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนบุกป่าไทรโยค จนท.เจอซากหมีโดนล่าคาออฟโรด

 

 

 

ล่าสุดในเพจเฟซบุ๊ก ทีมพญาเสือ ได้โพสต์รายงานความคืบหน้า หลังมีการจับกุมแก๊งปลัดอำเภอ พร้อมด้วยซากหมีขอ ระบุว่า "เบื้องต้น คณะ ปลัด มากัน 5คัน 12คน ปฏิเสธ" นอกจากนี้ยังมีภาพขอวงอาวุธปืนและมีดต่างๆ ที่นำเข้าไปล่าสัตว์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมหลักฐานทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว

 

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

 

 

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

 

 

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

 

 

 

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

 

 

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

 

อาวุธที่ใช้ล่าหมีขอ

 

 

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

 

เปิดภาพล่าสุด! ปลัดอำเภอพาอส.ขนปืนไล่ล่าสัตว์ป่าไทรโยคของกลางอื้อ

 

 

ซึ่งหมีขอถือเป็นสัตว์เริ่มหายากในประเทศไทยแล้ว เดิมทีมันมีชื่อในภาษามลายูว่า บินตุรง (Binturong) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม แม้จะดูคล้ายหมีจนได้ชื่อว่าหมี แต่เป็นสัตว์จำพวกชะมดและอีเห็นที่ใหญ่ที่สุด  มันมีหางยาวเป็นพวงคล้ายกระรอก จึงเป็นที่มาของชื่อ “หมีกระรอก” ขนตามตัวค่อนข้างยาว สีดำและหยาบ สีขนบริเวณหัวอาจมีสีเทา หูกลม บริเวณขอบหูมีสีขาว หางยาวสามารถใช้เกาะเกี่ยวต้นไม้ได้เป็นอย่างดี  มีความยาวลำตัวและหัว 61-96.5 เซนติเมตร ความยาวหาง 50-84 เซนติเมตร น้ำหนัก 9-20 กิโลกรัม

 

ถิ่นอาศัย  พบในภูฏาน, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย, ภาคตะวันตกของพม่า, ไทย, ลาว, กัมพูชา, พรมแดนเวียดนามติดกับลาวและกัมพูชา, มาเลเซีย, เกาะสุมาตรา, เกาะบอร์เนียวในอินโดนีเซีย และเกาะปาลาวันในฟิลิปปินส์

 

อุปนิสัย หมีขอเป็นสัตว์หากินในเวลากลางคืน ชอบอยู่ตามลำพัง แต่บางครั้งอาจอยู่รวมเป็นกลุ่มเล็ก ๆ เช่น แม่และลูก ในเวลากลางวันจะใช้โพรงไม้เป็นที่นอน อาหารได้แก่ ผลไม้และแมลงรวมทั้งสัตว์เลื้อยคลานเล็ก ๆ มันปีนต้นไม้ได้เก่ง โดยใช้หางเกาะเกี่ยวกิ่งไม้จากต้นหนึ่งไปยังอีกต้น นอกจากนี้ยังว่ายน้ำได้อีกด้วย

 

 

การสืบพันธุ์  หมีขอมีการผสมพันธุ์กันได้ตลอดทั้งปี ตั้งท้องนาน 92 วัน ออกลูกครั้งละ 1-3 ตัว หมีขอตัวเมียจะมีเต้านมทั้งหมด 2 คู่ ลูกที่เกิดใหม่ยังไม่สามารถใช้หางเกี่ยวกิ่งไม้ได้เหมือนพ่อแม่

 

 

สถานภาพ หมีขอเป็นสัตว์ที่สามารถนำมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กให้เชื่องได้ จนสามารถนำมาฝึกให้ทำการแสดงต่าง ๆ ได้ตามสวนสัตว์ ปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองประเภทที่ 2 ของไทยและอยู่ในบัญชีชนิดพันธุ์ที่ไม่มั่นคงของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN)

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : ทีมพญาเสือ