ยังวางใจไม่ได้ อุตุฯ เตือนอันตรายจากฝนตกหนัก เฝ้าระวังระดับน้ำในเขื่อนยังคงวิกฤต 10-14 ต.ค. บางภาคอุณหภูมิลดลง

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประจำวัน ที่ 9 ตุลาคม 2561 ลักษณะอากาศทั่วไป ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ มีฝนตกต่อเนื่อง

ยังวางใจไม่ได้ อุตุฯ เตือนอันตรายจากฝนตกหนัก เฝ้าระวังระดับน้ำในเขื่อนยังคงวิกฤต 10-14 ต.ค. บางภาคอุณหภูมิลดลง    

 

    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประจำวัน ที่ 9 ตุลาคม 2561 ลักษณะอากาศทั่วไป ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ มีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งจะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน มีฝนน้อย

 

นอกจากนี้ จากสถานการณ์ระดับน้ำล่าสุดยังพบว่า มี 1 สายที่ระดับเตือนภัยอยู่ในระดับวิกฤติ และอีก 10 สาย ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ แต่ถือว่าสถานการณ์ในภาพรวมดีขึ้นจากเมื่อวาน โดยสายที่อยู่ในระดับวิกฤติ คือ

1. แม่น้ำ ตาปี จ.สุราษฎร์ธานี อ.พระแสง ต.ไทรขึง ระดับตลิ่ง (ม.รทก) 11.22 ระดับน้ำ (ม.รทก) 11.81

 

ส่วนสถานการณ์เขื่อนพบว่ามีทั้งหมด 6 เขื่อน ที่ปริมาณน้ำอยู่ในระดับวิกฤต ได้แก่

1. เขื่อนแก่งกระจาน ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 92% ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 6.63 (ล้าน ม.3) 
2. เขื่อนกิ่วลม ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 83% มากกว่าเมื่อวาน 1% ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 3.02 (ล้าน ม.3) 
3. เขื่อนปราณบุรี ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 89% มากกว่าเมื่อวาน 1%  ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 10.26 (ล้าน ม.3)
4. เขื่อนหนองปลาไหล ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 97% มากกว่าเมื่อวาน 2% ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 3.96 (ล้าน ม.3)
5. เขื่อนขุนด่าน ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 99%  มากกว่าเมื่อวาน 3%  ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 1.85 (ล้าน ม.3)
6. เขื่อนประแสร์ ปริมาตรน้ำในอ่างฯ 96% ปริมาตรน้ำไหลเข้าอ่าง 1.14 (ล้าน ม.3)

 

    อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาถึงประเทศจีนตอนกลางแล้ว คาดว่าในช่วงวันที่ 10-14 ต.ค. 2561 จะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ยังคงทำให้มีลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ มีฝนตกต่อเนื่อง และจะมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้

 

ยังวางใจไม่ได้ อุตุฯ เตือนอันตรายจากฝนตกหนัก เฝ้าระวังระดับน้ำในเขื่อนยังคงวิกฤต 10-14 ต.ค. บางภาคอุณหภูมิลดลง

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อน แต่ยังคงมีลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ในขณะที่ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้

 

ยังวางใจไม่ได้ อุตุฯ เตือนอันตรายจากฝนตกหนัก เฝ้าระวังระดับน้ำในเขื่อนยังคงวิกฤต 10-14 ต.ค. บางภาคอุณหภูมิลดลง

 

ภาคเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆบางส่วน กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.