รวบแล้วหนุ่มแสบหลอก 2 เด็กสาวขืนใจ อ้างมีเคราะห์พาเข้าม่านรูด พ่อแม่ซักถึงรู้เหตุ

ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สะเทือนความรู้สึก เกี่ยวกับกรณีที่มีหนุ่มรายหนึ่ง หลอกลวงเด็กอายุ 14 ปี และเด็กอายุ 12 ปี ไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ ก่อนจะทำทีออกอุบายว่า เด็กทั้งคู่นั้นมีเคราะห์กรรม ต้องทำพิธีสะเดาเคราะห์ จนสุดท้ายหลอกลวงไปข่มขืน

ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม สามารถจับตัวนายดุสิต บุญฤทธิ์ หรือโน อายุ 34 ปี ชาวจ.มุกดาหาร ซึ่งผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาธนบุรี  ลงวันที่ 10 ต.ค. ในข้อหา “พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี” โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จับกุมตัวได้ ที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่ง ย่านถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม.
 

 

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมา นายดุสิตล่อลวงด.ญ.  อายุ 14 ปี และ ด.ญ.บี อายุ 12 ปี โดยชักชวนไปดูหนังที่โรงภาพยนตร์ในห้างสรรพสินค้าย่านถนนพระราม 2   จากนั้น ใช้อุบายหลอกผู้เสียหายว่ากำลังมีเคราะห์ ต้องทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ก่อนจะพาไปข่มขืนกระทำชำเรา ที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง  จากนั้น ได้พาตัวไปส่งที่ตลาดนัดอินดี้ ย่านดาวคะนอง

 

และหลังเกิดเหตุผู้ปกครองของผู้เสียหายทั้ง 2 คน พบความผิดปกติ จึงสอบถามจนทราบความจริง ก่อนพาเข้าแจ้งความ ต่อมาเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นอาสาสมัครของกู้ภัยแห่งหนึ่ง และเป็นลูกจ้างอยู่ที่อู่ซ่อมรถดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัว
 

 

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนนายดุสิต เจ้าตัวได้ให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับผู้เสียหายทั้ง 2 คนผ่านทางด.ญ.เอ ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับผู้เสียหาย โดยมีการติดต่อกันผ่านทางแชทแอพพลิเคชั่นไลน์ และในวันเกิดเหตุหลังจากดูหนังเสร็จแล้ว ตนก็ชักชวนผู้เสียหายทั้ง 2 ไปนั่งเล่นต่อที่สวนหย่อมใกล้ๆ กับห้าง 

 

 

 

 

โดยตนได้ขอดูลายมือของเด็กผู้เสียหายทั้ง 2 อ้างว่าสามารถดูดวงทำนายชะตาได้ เพราะตนเคยศึกษากับพระอาจารย์ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.มุกดาหาร ทำให้ผู้เสียหายเชื่อว่าตนดูดวงแม่นจริง จึงได้ทำนายไปว่าผู้เสียหายทั้งสองกำลังจะมีเคราะห์  จากนั้นก็พาผู้เสียหายไปทำพิธีแก้กรรมที่โรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง  

 

 

 

 

ระหว่างนั้นตนเกิดอารมณ์ทางเพศจึงลงมือข่มขืนเหยื่อทั้ง 2 คนจนสำเร็จความใคร่ เสร็จแล้วก็นำตัวไปส่งที่ตลาดย่านดาวคะนอง ก็ไม่คิดว่าจะถูกตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว ภายหลังการสอบสวน ตำรวจได้นำตัวนายดุสิตส่งตัวไปยังสน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป