ร้อยเคสก็ไม่สู้เจอกับตัว รู้ให้ทันก่อนศัลยกรรมทำพิษ ถอดบทเรียนสวยด้วยแพทย์อย่างปลอดภัย

ความเจริญทางวัตถุ นำมาซึ่ง "นวัตกรรมทางการแพทย์" ในรูปแบบของการ "ศัลยกรรม" สิ่งนี้ได้เข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งยวดในสภาพสังคมปัจจุบัน เมื่อลักษณะทางกายภาพเชิงอุดมคติ ได้ถูกผูกโยงกับสถานภาพทางสังคมอย่างปฏิเสธมิได้

ร้อยเคสก็ไม่สู้เจอกับตัว รู้ให้ทันก่อนศัลยกรรมทำพิษ ถอดบทเรียนสวยด้วยแพทย์อย่างปลอดภัย

 

    ความเจริญทางวัตถุ นำมาซึ่ง "นวัตกรรมทางการแพทย์" ในรูปแบบของการ "ศัลยกรรม" สิ่งนี้ได้เข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งยวดในสภาพสังคมปัจจุบัน เมื่อลักษณะทางกายภาพเชิงอุดมคติ ได้ถูกผูกโยงกับสถานภาพทางสังคมอย่างปฏิเสธมิได้ ในอดีตการทำศัลยกรรมเป็นเพียงการ "แก้ไข" อวัยวะบางส่วนที่มีความผิดปกติเท่านั้น แต่ต่อมาการแพร่ของค่านิยมที่พยายามปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรม ทำให้การทำศัลยกรรม มิได้จำกัดวงอีกต่อไป

 

    ประจักษ์ชัดจากการทำศัลยกรรมในปัจจุบัน ล้วนมีวัตถุประสงค์เพื่อ "เสริมความงาม" ทั้งสิ้น อีกทั้งยังพบว่าเหล่าประชากรที่นิยมใช้บริการเสริมความงามนั้น ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจด้านความงาม กลายเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าทางตลาดสูง และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศไทย ทางข้อมูลของสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทยเผยว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีการศัลยกรรมมากเป็นอับดับที่ 20 ของโลก

 

    อย่างไรก็ตาม "คุณภาพ" ของสถานให้บริการ กลับสวนทางต่อ "ปริมาณ" ของกิจการที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดอย่างสิ้นเชิง ด้วยพบว่ามีรายงานผู้เสียชีวิตหรือชีวิตต้องพังทลายลง จาก "มีดหมอ" เช่นเดียวกับเหตุการณ์ดังต่อไปนี้

 

ร้อยเคสก็ไม่สู้เจอกับตัว รู้ให้ทันก่อนศัลยกรรมทำพิษ ถอดบทเรียนสวยด้วยแพทย์อย่างปลอดภัย

 

    วันที่ 12 ต.ค. 2561 มีรายงานเหตุสลด เมื่อหญิงชราวัย 72 ปี เข้าเสริมความงามกับหมอศัลยกรรมในย่านทาวน์อินทาวน์ ที่เพิ่งเปิดบริการได้เพียง 3 วัน ด้วยวิธีร้อยไหมบริเวณใบหน้า ซึ่งการร้อยไหมนั้นเป็นเทคนิคทางการแพทย์แขนงหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ผิวหน้าเต่งตึง ผู้ใช้บริการส่วนมากจึงเป็นผู้ที่มีอายุในระดับหนึ่ง โดยปกติการเสริมความงามในรูปแบบนี้จะไม่มีการรมยาสลบ แต่จะใช้วิธีฉีดยาชาเพียงเท่านั้น

 

 

ร้อยเคสก็ไม่สู้เจอกับตัว รู้ให้ทันก่อนศัลยกรรมทำพิษ ถอดบทเรียนสวยด้วยแพทย์อย่างปลอดภัย

    ทว่าหญิงชราคนดังกล่าวได้เสียชีวิตคาเตียงศัลยกรรม ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเร่งชันสูตรหาสาเหตุ ก่อนดำเนินการตรวจสอบว่าคลินิกมีการขออนุญาตเปิดอย่างถูกต้องหรือไม่ ด้วยพบว่าก่อนหน้านี้ทางสำนักงานเขตวังทองหลาง เคยสั่งระงับการสร้างคลินิกแห่งนี้ แต่แพทย์เจ้าของคลินิกยังคงเปิดให้บริการ จากการสอบสวนเบื้องต้น คาดว่าผู้ตายแพ้ยาชาจนเสียชีวิต แต่ในเวลาต่อมา ผลทางการแพทย์สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ได้ออกมาเผยถึงสาเหตุของการเสียชีวิต ว่า เกิดจากตับแตก และพบว่ามีซี่โครงหัก ส่วนสารเคมีอื่นๆ ที่พบภายในร่างกาย ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากห้องปฏิบัติการ (ห้องแล็ป) อีกประมาณ 15 วัน

 

    ก่อนหน้านี้ เม จีระนันท์ อดีตนักร้องดังสังกัด RS ได้ออกมาเผยประสบการณ์เฉียดตายจากการศัลยกรรมที่ประเทศเกาหลีใต้เช่นกัน โดยวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 เม จีระนันท์ ได้เผยแพร่เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกครั้งแรกในชีวิต แต่เกือบเอาชีวิตไม่รอด เพราะการผ่าตัดที่ผิดพลาดจนทำให้เลือดออกมาก จนถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือด อีกทั้งทางโรงพยาบาลประเทศเกาหลีใต้ยังตัดช่องน้อยแต่พอตัว โดยการส่งตัวนักร้องสาวกลับประเทศไทยทั้งที่มีถุงระบายเลือด เพื่อกลับไปรักษาตามยถากรรมต่อไป

 

 

ร้อยเคสก็ไม่สู้เจอกับตัว รู้ให้ทันก่อนศัลยกรรมทำพิษ ถอดบทเรียนสวยด้วยแพทย์อย่างปลอดภัย

 

    ย้อนกลับไปในปี 2557 ได้มีอุทาหรณ์หญิงสาวเสียชีวิตภายหลังใช้บริการหมอกระเป๋า จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2557 น้องหญิงหรือเฟิร์นพริตตี้สาวสวยเข้ารับการผ่าตัดทำศัลยกรรมบริเวณใบหน้า แต่เกิดแพ้ยาสลบทำให้เป็นเหตุให้เธอต้องจบชีวิตลงอย่างกะทันหัน จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ในเวลาต่อมาบนโลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวอุทาหรณ์ของสาวสวยรายหนึ่งซึ่งเธอเคยได้ไปทำการศัลยกรรมฉีดเสริมความงามกับหมอกระเป๋าเช่นกัน แต่เกิดความผิดพลาด จนเสียโฉมมีอาการบวมอักเสบอย่างรุนแรง จนไม่สามารถทำงานได้ พร้อมแจ้งเตือนว่าไม่ควรฉีดเสริมความงามกับหมอกระเป๋าหรือพวกที่ชอบแอบอ้างว่าเป็นแพทย์ เพราะการฉีดสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกายถือเป็นอันตราย ซึ่งมีทางออกเพียงทางเดียวคือการผ่าตัด แต่ก็อาจไม่กลับมาเหมือนเดิม 100% แต่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานจากผลข้างเคียงของการใช้ยา ทำให้เธอสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้

 

 

ร้อยเคสก็ไม่สู้เจอกับตัว รู้ให้ทันก่อนศัลยกรรมทำพิษ ถอดบทเรียนสวยด้วยแพทย์อย่างปลอดภัย

 

 

    ปัจจุบันมีสถานบริการด้านความงามให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย แต่วิธีเลือกใช้บริการให้ปลอดภัยแและคุ้มค่า ควรยึดหลักการดังต่อไปนี้

1. มีแพทย์ที่ชำนาญและได้รับการรับรอง สำคัญที่สุดคือ สถานให้บริการและแพทย์ต้องมีใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฏหมาย เพราะหากไม่มีใบอนุญาตสถานบริการแห่งนั้นจะเข้าข่ายเป็น "คลินิกเถื่อน" นำมาซึ่งความผิดพลาดจนอาจเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ วิธีการตรวจสอบโดยง่ายคือ นำชื่อแพทย์ผู้ให้บริการกรอกในเว็ป https://www.tmc.or.th/check_md/ ก็จะทำให้ทราบประวัติรวมถึงคุณสมบัติของแพทย์ผู้นั้น

 

2. คลินิกต้องได้มาตรฐานตามกระทรวงสาธารณสุข สถานเสริมความงามที่ให้บริการจะต้องมีเครื่องมือพื้นฐานทางการแพทย์และอุปกรณ์พร้อมสำหรับกรณีฉุกเฉิน อย่างเช่นเครื่องวัดความดันโลหิตและเครื่องตรวจสอบคลื่นหัวใจหรืออุปกรณ์กู้ชีพ รวมทั้งจะต้องผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทางคลินิกต้องนำเอกสารรับรองนี้ติดไว้ในบริเวณที่ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ชัดเจน

 

3. มีข้อตกลงหลังการใช้บริการ สถานเสริมความงามควรมีการระบุข้อตกลงหรือเงื่อนไขที่เป็นประโยชน์กับลูกค้า กรณีถ้าเกิดความผิดพลาดหลังเข้ารับการใช้บริการ อย่างเช่นการรับผิดชอบและการดูแลต่างๆ ข้อนี้ควรอยู่ในเงื่อนไขที่รับได้ โดยไม่เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

 

4. มีราคาที่เหมาะสม หากพบสถานเสริมความงามที่มีราคาในการให้บริการถูกกว่าที่อื่น อาจเข้าใจได้ว่า ตัวยาที่ให้บริการอาจจะไม่ใช่ของแท้ 100 %  อีกทั้งการใช้บริการกับผู้ที่ให้บริการนอกสถานที่ก็อาจไม่ใช่ผู้ชำนาญอย่างแท้จริง หากเกิดอันตรายหรือมีผลข้างเคียงหลังการใช้บริการการเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นอาจทำได้ยาก 

 

5. สถานที่สะอาดถูกสุขลักษณะ เป็นภาพลักษณ์ภายนอกที่เราสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้โดยง่าย สะท้อนโดยนัยถึงการให้ความสำคัญกับการทำงาน การใส่ใจและดูแลรายละเอียด หรืออุปกรณ์ที่ให้บริการก็มีความเป็นไปได้ว่าจะสะอาด

 

    อย่างไรแล้วเหล่านี้ก็เป็นเพียงวิธีควรปฏิบัติเบื้องต้น ท้ายสุดก็อยู่ในดุลยพินิจของเหล่าผู้ใช้บริการ แต่พึงระลึกไว้เสมอว่าการเอาชีวิตตนเองไปแขวนไว้กับ "มีดหมอ" โดยที่ร่างกายมิได้มีความ "ผิดปกติ" แต่อย่างใด ถือเป็นความเสี่ยงประการหนึ่งเช่นกัน

 

 

ร้อยเคสก็ไม่สู้เจอกับตัว รู้ให้ทันก่อนศัลยกรรมทำพิษ ถอดบทเรียนสวยด้วยแพทย์อย่างปลอดภัย