กำทองไว้ให้ดี ขึ้น-ลงต่อเนื่องทองไทยราคาผันผวนทั้งสัปดาห์ นักลงทุนชี้ อาจแตะระดับเกือบ 20,000 บาท

 

   นับว่าเดือนตุลาคม 2561 นี้ถือเป็นเดือนแห่งการผันผวนของราคาทองในตลาดโลกกันอย่างแท้จริง เห็นได้จากราคาทองที่ลงอย่างต่อเนื่องในช่วงกลาง - สิ้นเดือนกันยายน 2561 ซึ่งมีการปรับลดลงกว่า 500 บาท ตลอดทั้งเดือน จนมาถึงช่วงต้นเดือนตุลาคม ราคาทองตลาดโลกก็กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังราคาทองมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 8 - 13 ตุลาคม มีการปรับขึ้นมาถึง 600 บาท โดยแยกเป็นวันที่ 8 - 13 ตุลาคม ได้ดังนีh

 

 

 

วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม 2561 ราคาทองปรับขึ้นลง 2 ครั้ง ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 18,600 ขายออกบาทละ 18,700 ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,267.80 ขายออกบาทละ 19,200 บาท ทั้งนี้มีการปรับเพิ่มราคาทอง 50 บาท ในครั้งที่ 2 หลังจากราคาทองร่วง 50 บาท ในครั้งที่ 1

วันอังคาร ที่ 9 ตุลาคม 2561 ราคาทองร่วง 100 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 18,500 ขายออกบาทละ 18,600 ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,161.68 ขายออกบาทละ 19,100 บาท

วันพุธ ที่ 10 ตุลาคม 2561 ราคาทองร่วง 50 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 18,450 ขายออกบาทละ 18,550 ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,116.20 ขายออกบาทละ 19,050 บาท

วันพฤหัสบดี ที่ 11 ตุลาคม 2561 ราคาทองปรับขึ้นลง 4 ครั้ง รวมแล้วปรับเพิ่ม 150 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 18,600 ขายออกบาทละ 18,700 ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,267.80 ขายออกบาทละ 19,200 บาท

วันศุกร์ ที่ 12 ตุลาคม 2561 ปรับขึ้นลง 4 ครั้ง รวมแล้วปรับเพิ่ม 200 บาท โดยทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 18,800 ขายออกบาทละ 18,900 ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,464.88 ขายออกบาทละ 19,400 บาท

วันเสาร์ ที่ 13 ตุลาคม 2561 ทองไทยไม่ขยับ โดยสรุปราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 18,800 ขายออกบาทละ 18,900 ส่วนทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,464.88 ขายออกบาทละ 19,400 บาท

 

     อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 8-13 ต.ค.61 ทองไทยผันผวน มีการปรับขึ้นลง 12 ครั้ง รวมแล้วราคาพุ่งขึ้น 250 บาท จากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในวันที่ 14 ต.ค. 2561 นี้นักลงทุนต้องสังเกตการณ์ดีๆ ราคาทองจะดำเนินไปในทิศทางใด ซึ่งราคาทองคำในขณะนี้ (14 ต.ค. 2561) ยังอยู่ในราคาทองของวันที่ 13 ต.ค. 2561 ซึ่งยังคงตัวอยู่ที่ ทองคำแท่ง รับซื้อ 18,800 บาท ขายออก 18,900.00 บาท ทองคำรูปพรรณ รับซื้อ 18,464.88  บาท ขายออก 19,400บาท

 

 

 

 

    ทั้งนี้ราคาทองคำ spot ปิดปรับตัวลดลงเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ส่วนทองคำในประเทศประกาศราคาวันเสาร์เท่าประกาศครั้งที่ 4 ของวันศุกร์ ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของเดือน

 

 

    สัปดาห์นี้ราคาทองคำ spot ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และแรงเทขายตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นนิวยอร์กเพียง 2 วัน พฤหัสและศุกร์ ร่วงลงรวมกว่า 1,400 จุด จากความกังวลที่ว่า สงครามการค้าอาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 

สำหรับปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำในสัปดาห์หน้า (15-19 ต.ค.) มี 7 ปัจจัย ดังนี้

1. ดัชนียอดขายปลีกเดือน ก.ย. สหรัฐ
2. ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ของ JOLTs เดือนส.ค. สหรัฐ
3. จำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง เดือนก.ย. สหรัฐ
4. รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ครั้งล่าสุด
5. ดัชนีภาคการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือน ต.ค. สหรัฐ
6. ยอดขายบ้านมือสองเดือน ก.ย. ของสหรัฐ
7. ตัวเลขจีดีพีไตรมาสที่ 3 ของจีน

 

      ราคาทองคำในประเทศไทยประกาศราคาวันเสาร์คงที่ 13 ต.ค. 2561 โดยตลอดสัปดาห์นี้ราคาปรับขึ้นรวม 200 บาท และเป็นการปรับขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 รวมแล้ว 2 สัปดาห์ปรับขึ้นรวม 600 บาท โดยราคาทองที่ปรับขึ้นในสัปดาห์นี้ เป็นผลมาจากปัจจัยสำคัญๆ ต่างประเทศ ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ของสหรัฐ และความตึงเครียดในตลาดพันธบัตรอิตาลี ส่วนปัจจัยในประเทศ ธปท. มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายก่อนสิ้นปีนี้ หลังมีสัญญาณย้ำป้องกันความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ จากรายงานการประชุมรอบล่าสุดของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของ ธปท.

 

 

    ทั้งนี้มองว่า หากทิศทางเงินบาทยังอ่อนค่าบริเวณ 33 บาท ต่อดอลลาร์หรืออ่อนค่ามากกว่านั้น ประกอบกับทองคำ Gold spot ยังเคลื่อนไหวตามกรอบทางเทคนิค 1,190-1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสเห็นทองคำในประเทศมีโอกาสปรับตัวขึ้นแตะระดับเกือบ 20,000 บาทก็เป็นได้

หากเปรียบเทียบราคาทองคำในปี 61 นั้น ตั้งแต่งเดือนมกราคม - เดือนตุลาคม จะเห็นได้ว่าราคาทองตั้งแต่เดือนตุลาคม นั้นมีการปรับเพิ่มของราคาทองคำถึง +600 บาท จากที่ราคาปรับลดลงในเดือนกันยายน 2561 อย่างต่อเนื่องจนจบเดือนปรับลด - 450 บาท และหากย้อนกลับไป 7 ปี ก่อนหน้าปี 2561 จะเห็นได้ชัดว่ามีอัตราการปรับขึ้นของทองคำตลอดทั้งปีดังนี้

1. ปี 2555 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ +1,150 บาท เห็นได้ว่าถือเป็นปีที่ราคาทองคำนั้นปรับขึ้น โดยเฉพาะเดือนมกราคม ที่ปรับขึ้น 1,900 บาท อาจมีลดลงบางในเดือนมีนาคม ที่ 1,250 บาท จนจบตลอดทั้งปีที่การปรับขึ้น 1,150 บาท

2. ปี 2556 ปรับลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -5,300 บาท ในปี 2556 เป็นปีของการปรับตัวลงของราคาทองคำ สูงสูดใน 7 ปีนี้

3. ปี 2557 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -400 บาท ถือว่ายังคงที่ในการปรับลดลง ในแต่ละเดือน แต่จะปรับขึ้นในเดือน กุมภาพันธ์ มากที่ 1,050 บาท จากนั้นจึงค่อยๆ ลดลงตามลำดับ
        
4. ปี 2558 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -300 บาท ปี 2558 นั้น ยังเป็นปีที่คงที่ของราคาทองปรับขึ้นไม่มากไม่น้อยจนเกินไป 

5. ปี 2559 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ +1,450 บาท เป็นปีที่มีการปรับราคาทองขึ้นมากที่สุดอีกปีหนึ่ง โดยจะปรับขึ้นมากที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ ถึง 1,900 บาท 

6. ปี 2560 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ + 350 บาท ราคาทองที่ปรับขึ้นในปีนี้ยังอยู่ในขั้นทรงตัว ไม่ขึ้นมากและไม่ลงมาก โดยเดือนสิงหาคม ปรับขยับขึ้นที่ 550 บาท ถือว่าสูงสุดในปี 2560

7. ปี 2561 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ - 1,200 บาท ยังต้องจับตามองกันอยู่ตลอดกับราคาทองคำผันผวนตลอดทั้งปี 2561 ซึ่งในเดือนตุลาคม 2561 มีการปรับเพิ่มขึ้นของราคาทอง อย่างต่อเนื่องถึง 600 บาท หลังจากมีการติดลบในเดือนกันยายน ถึง 500 บาท โดยติดลบอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายน จนเริ่มมาคึกคักในเดือนตุลาคม 2561 นี้

 

      ทั้งนี้่เมื่อรวมกันจึงเป็นตัวแปลงสำคัญในการที่ทำให้ราคาทองนั้นขึ้นลงตามลำดับ สำหรับประเทศไทยในช่วงนี้ถือเป็นโอกาสทองของหลายคนที่มีการซื้อทองเก็บไว้อย่างตลอด จากราคาทองที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมากถึง 600 บาท ในเดือนตุลาคม 2561 ในการเทขายออกเพื่อนำมาลงทุนในด้านอื่นๆ หรือจะยังเก็บทองไว้เก็งกำไร ในระยะยาวก็ดี

 

ขอบคุณข้อมูล ทองคําราคา