สรุปข่าวเด่นรอบวัน 15 ต.ค. 2561

    กลับมาพบกับการสรุปข่าวเด่นรอบวัน ประจำวันจันทร์ ที่ 15  ต.ค. 2561 กันอีกแล้ว ในวันนี้ มีหลายประเด็นที่น่าสนใจเช่นเคยซึ่งสำนักข่าวทีนิวส์ได้รวบรวมมา 5 ประเด็นหลักใหญ่ด้วยกันดังนี้

 

    มาเริ่มกันที่ข่าวแรก กับกระแสข่าวว่า มีผู้ผลิตภาพยนตร์รายหนึ่ง ได้รับสิทธิ์สร้างภาพยนตร์กรณี 13 ชีวิตทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง และได้ทำการตกลงเซ็นสัญญา พร้อมรับส่วนแบ่งลิขสิทธิ์เป็นเงินคนละ กว่า 3 ล้านบาท จนเป็นเหตุให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในสังคมบางส่วนว่ามีความเหมาะสมหรือไม่อย่างไร 

 

 

 

 

    เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ล่าสุดคณะทำงานโฆษกคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย ได้ออกมาให้ความกระจ่าง โดยแจ้งว่า คณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ฯ อยู่ระหว่างพิจารณากรอบแนวทางและหลักเกณฑ์การดำเนินงาน โดยจะนำเสนอคณะกรรมการสื่อสร้างสรรค์ กรณีถ้ำหลวง จังหวัดเชียงราย พิจารณาให้ความเห็นชอบ ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 17 ต.ค. 2561 ขณะนี้ยืนยันว่ายังไม่มีการพิจารณาให้สิทธิ์ผู้ผลิตภาพยนตร์รายใด

 

    ขณะเดียวกัน นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก ซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินทางไปร่วมกิจกรรม 13 ชีวิตหมูป่า ขอบคุณชุมนุมชนโลก ที่อาร์เจนตินา และสหรัฐอเมริกา ได้ให้ข้อมูลไปในทิศทางเดียวกันว่ายังไม่มีใครเซ็นสัญญากับผู้ผลิตรายใดทั้งสิ้น

 

    ต่อมากับข่าวที่สอง กับเหตุสลดจากปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัว กรณีเด็กชายอายุ 14 ปี นร.ชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ถูกพ่อแท้ๆ และแม่เลี้ยงทำร้ายจนเป็นแผลทั่วทั้งตัว จนผู้เป็นแม่แท้ๆ ทนไม่ไหว ทำการเข้าแจ้งความที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

    จากการตรวจสอบอย่างละเอียดของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ร่างกายของเด็กชายมีบาดแผลจากการถูกทารุณ ตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงเท้าทั้ง 2 ข้าง โดยเฉพาะตามร่างกายมีรอยคล้ายถูกของมีคมทำร้าย และมีบาดแผลทั่วร่างกาย ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับพ่อและแม่เลี้ยงเพื่อมาดำเนินคดีต่อไป

    ถัดมากับข่าวที่สาม โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ บิ๊กตู่ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)  ประกาศว่า "สนใจงานทางการเมือง" ผ่านสื่อ ด้วยคล้ายว่าจะเป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนถึงบทบาทและทิศทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ ในอนาคตอันใกล้

 

 

 

 

 

    ความเคลื่อนไหวล่าสุด กับยุทธวิธีการเดินเกมการเมืองเชิงรุก พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิด เฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ เปิดรับความคิดเห็นจากประชาชนบนโลกออนไลน์ ทั้งนี้ในเพจระบุว่า "สวัสดีครับพี่น้องประชาชนที่รักทุกท่าน จากการที่ พวกเราส่วนใหญ่ นิยมสื่อสารกันผ่าน facebook อยู่เป็นประจำ ผมจึงถือโอกาสเปิด Facebook ส่วนตัวของผมเพื่อใช้เป็นอีกช่องทางในการสื่อสารแนวนโยบายการทำงานของผม และรัฐบาลรวมถึงเล่าสู่กันฟังถึงข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ และเป็นช่องทางที่ผม และพี่น้องประชาชนจะเข้าถึงกันได้ดียิ่งขึ้นหากท่านมีข้อเสนอแนะต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือต้องการให้ผมลงไปดูแลแก้ปัญหาก็สามารถเขียนเข้ามาเล่าสู่กันฟังได้เพื่อที่ผมและทีมงานจะได้มีข้อมูล และดูแลช่วยเหลือได้โดยตรง"

    สำหรับข่าวที่สี่ กับประเด็นดราม่าอันร้อนแรงในหมู่ผู้นิยมการวิ่งออกกำลังกาย จากกรณีการจัดงานวิ่งการกุศลและคอนเสิร์ตเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา ณ สวนเฉลิมพระเกียรติราชินี 60 พรรษาชลบุรี ซึ่งภายในงานมีนักวิ่งจำนวนกว่า 10,000 รายที่ทำการสมัคร 

 

 

    แต่กลับมีปัญหาน้ำดื่มสำหรับนักวิ่งหมดและไม่เพียงพอต่อจำนวนนักวิ่งจนกระทั่งมีการนำน้ำมาเทใส่มือให้นักวิ่งดื่ม รวมถึงให้นักวิ่งอมน้ำแข็ง จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่พร้อมและความไม่เป็น "มืออาชีพ" ของทางผู้จัดงาน ซึ่งสภาวะการขาดน้ำนั้น อาจก่อให้เกิดอันตรายกับตัวนักวิ่งอย่างร้ายแรง

 

 

 

    ความคืบหน้าล่าสุด นายแพทย์สุริยา ผอ.โรงพยาบาล ม.บูรพา เปิดเผยว่า เนื่องจากทางโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยบูรพาขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์เป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีผู้จัดการวิ่งท้องถิ่นแห่งหนึ่ง มาเสนอโครงการดังกล่าวให้กับทางโรงพยาบาล ซึ่งทางโรงพยาบาลก็คาดไม่ถึงว่าจะมีปัญหาการจัดการ จนกลายเป็นการสร้างความเสื่อมเสียให้กับทางโรงพยาบาล จึงขอกราบขออภัยพี่น้องประชาชนที่มาร่วมวิ่งในงานดังกล่าวด้วย

 

    เดินทางมาถึงข่าวสุดท้าย กับ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า 15 ต.ค. 2561 กรมอุตุฯ รายงานว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ ส่วนภาคเหนือตอนบน มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

 

 

 

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ส่งผลให้มีลมตะวันออก และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ในระยะนี้

ภาคเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝน ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

สรุปข่าวเด่นประจำวันขอจบไว้เพียงเท่านี้ สำหรับพรุ่งนี้จะมีประเด็นใดน่าสนใจก็ต้องติดตามกันต่อไป