"สนธิรัตน์" ติวเข้มทูตพาณิชย์ หวังยกตัวเลขส่งออกโค้งสุดท้ายปี 61 ยันพร้อมรับมือการค้าโลกที่ผันผวน

"สนธิรัตน์" ติวเข้มทูตพาณิชย์ ปั่นตัวเลขส่งออกโค้งสุดท้ายปี 61 

 

"นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์"  รมว.พาณิชย์ ติวเข้มทูตพาณิชย์ทั่วโลก ก่อนประชุมใหญ่ ทำแผนผลักดันการส่งออกอในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2561 เน้นทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น เพื่อรับมือสถานการณ์ทางการค้าที่มีความผันผวน

 

"นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานในการประชุมเตรียมการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) จาก 64 แห่งทั่วโลก เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ เพื่อเจาะลึกสถานการณ์รายภูมิภาคกับทูตพาณิชย์ ประเมินวิกฤตและโอกาสทางการตลาดของพื้นที่ที่รับผิดชอบดูแล วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างไร และให้จัดทำแผนการรับมือรวมถึงแผนผลักดันการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันยอดส่งออกในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2561 พร้อมวางแผนการขับเคลื่อนการส่งออกรวมทั้งขยายการค้าและการลงทุนในปี 2562 ก่อนการประชุมใหญ่ในวันที่ 18 ตุลาคม 2561 โดยมีรองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธาน


นายสนธิรัตน์ ยังระบุว่า “หลายภูมิภาคยังมีลู่ทางสำหรับสินค้าไทย โดยใช้โอกาสจากประเทศที่มีการเจรจา FTA กับไทย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ อินเดีย เป็นต้น และประเทศในเขตการค้าเสรี นอกจากนั้น ยังมีภูมิภาคและประเทศต่างๆ ที่มีความน่าสนใจทางด้านเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว เช่นภูมิภาคอัฟริกา ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ยังมีโอกาสมากในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นอัฟริกาใต้ โมซัมบิก และแองโกลา ตลาดตะวันออกกลาง และ CIS รวมถึงกลุ่มประเทศฮาลาล นอกจากนี้ ยังมีประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่น่าจับตามองอย่างอินเดีย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน คาดว่า เศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวมากขึ้น พร้อมกับโอกาสของสินค้าไทยที่เพิ่มขึ้นในตลาดอินเดีย ซึ่งมีประชากร ถึง 1,300 ล้านคน"

 

การประชุมในครั้งนี้ จะปรับเพิ่มบทบาทใหม่ของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.)ในการทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น เพื่อรองรับสถานการณ์ทางการค้าที่มีความผันผวนได้อย่างทันท่วงที และรูปแบบใหม่ของธุรกิจที่มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ รวมทั้งเพิ่มบทบาทในการจัดทำแผนส่งเสริมและขยายตลาดแก่ธุรกิจบริการไทยอย่างเป็นรูปธรรม นอกเหนือจากส่งเสริมการส่งออกสินค้า นอกจากนั้น ยังได้มอบหมายให้ สคต. ทุกแห่งกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าและนักธุรกิจรายสำคัญในประเทศเขตดูแลของตน เพื่อสร้างแนวร่วมในการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาทางการค้า ตลอดจนสคต. ต้องบูรณาการการทำงานและเชื่อมโยงการทำงานกับระดับจังหวัด โดยมีสำนักงานพาณิชย์ 18 กลุ่มจังหวัดเป็นกลไกในภูมิภาค เพื่อสร้างโอาสทางธุรกิจการค้าระหว่างประเทศให้แก่เกษตกรรุ่นใหม่ ผู้ประกอบการท้องถิ่นที่เป็นรายย่อย ( MSMEs) และผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ที่มีศักยภาพซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญและมีเป้าหมายที่จะเร่งผลักดันการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก โดยภายใต้นโยบาย Local 2 Global

 

ทั้งนี้ การประชุมทูตพาณิชย์ครั้งนี้ จะมีการประเมินแนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยมั่นใจว่าเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ที่ 8%เป็นไปได้อย่างแน่นอน รวมถึงจะประเมินแนวโน้ม ทิศทาง และเป้าหมายการส่งออกปี 2562 ด้วย ซึ่งจะประเมินจากภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจคู่ค้าในปัจจุบัน ผลกระทบจากสงครามการค้า ราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยน โดยจะรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

 

การส่งออกของไทยใน 8 เดือนแรก มีมูลค่า 169,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 10% โดยตลาดส่งออกสำคัญมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ได้แก่เอเชียใต้ เพิ่มขึ้น 20.8 % อาเซียน ขยายตัว 17.7% จีน เพิ่มขึ้น 6.3 %ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 16.7% สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.5% สหภาพยุโรป เพิ่มขึ้น 8.4 % มีเพียงตะวันออกกลางเท่านั้นที่ลดลงเล็กน้อยที่ 2.3 %เนื่องจาก ปัญหาความไม่สงบในภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า มูลค่าการส่งออกในปี 2561 จะเป็นไปตามเป้าหมายกำหนด โดยมีมูลค่าถึง255,565 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯได้อย่างแน่นอน