กนก เดือดขั้นสุด ด่าแรงร.ต.อ. เมาชนพยาบาลสาว สมควรแล้วถูกย้ายไปให้พ้นๆ

จากกรณีในเฟสบุ๊ก ริน โพเท โพสต์ข้อความระบุว่า"น้องดา" สุดารัตน์ เชื่อมาก(25ปี) พยาบาลวิชาชีพ รพ.สต.เขาคอก ได้จากพวกเราไปอย่างไม่มีวันกลับเวลา02.00 น. เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ พยาบาล Refer.ขณะส่งผู้ป่วยไปรพ.บุรีรัมย์ 

 

 

รถส่งต่อผู้ป่วยประสบอุบัติเหตุเฉี่ยวชนกับรถปิคอัพพลิกคว่ำระหว่างทางพยาบาลได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คนหนึ่งในนั้นมีน้องของพี่ น้องดา น้องผู้มีจิตใจโอบอ้อมอารีย์กับทุกคน น่ารัก จิตอาสา พูดจาไพเราะ ทำงานดี ประชาชนที่นี่รักน้องดา เสียใจสุดซึ้งกับการจากไปของน้อง จนไม่อยากเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ขอให้น้องหลับให้สบาย ไปสุ่สุขคติในสัมปรายภพ เป็นนางฟ้าในสรวงสวรรค์นะคะน้องดา

 

 

 

 

 

ต่อมาในเฟสบุ๊ก Bhanupong Chayswai โพสต์ข้อความว่า ท่านนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ นายวิทิต สฤษฎีชัยกุลได้เชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ฯ สสจ.บุรีรัมย์ร่วมไว้อาลัยให้กับนางสาวสุดารัตน์ เชื่อมาก พยาบาลวิชาชีพ รพ.สต.เขาคอก สสอ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ที่เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ในการส่งต่อผู้ป่วยจาก รพ.ประโคนชัย ไปยัง รพศ.บุรีรัมย์ จากการที่รถรีเฟอร์ ถูกชน

 

 

จากนั้นวันที่ 17 ต.ค. 2561 พ.ต.ท.สุทิน หวังกลับ รักษาราชการแทน ผู้กำกับการ สภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับ ถูก ร.ต.อ.เดชา เปรียบสม รองสารวัตรปราบปราม สภ. ประโคนชัย ที่ก่อเหตุ รถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ชนเข้ากับรถพยาบาล ของโรงพยาบาลประโคนชัย พลิกคว่ำจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน และเสียชีวิต 1 ราย ว่า หลังจากที่ ร.ต.อ.เดชา เข้ารับการรักษาพยาบาล แล้วมีอาการดีขึ้น ทางพนักงานสอบสวนจึงเดินทางเข้าแจ้งข้อกล่าวเบื้องต้น 3 ข้อหา ประกอบด้วย  ฐานขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ทรัพย์สินเสียหาย , ขับรถโดยไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และขับรถขณะมึนเมาสุรา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกำลังดำเนินการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม

ซึ่งการแจ้งข้อกล่าวหา ขับรถขณะมึนเมาสุรา กับ ร.ต.อ.เดชา นั้น พ.ต.ท.สุทิน ชี้แจงว่าเป็นการแจ้งข้อหาโดยไม่รอผลการตรวจยืนยัน ผลการตรวจเลือดว่ามี แอลกอฮอล์ในร่างกายไม่ เนื่องจากในวันเกิดเหตุ เจ้าตัวได้ปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ จึงทำให้เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้ในทันที

ต่อมาในวันเดียวกันนี้ เพจดังอย่าง อยากดังเดี๋ยวจัดให้return ได้มีการเปิดเผยคลิปร.ต.อ. เดชา ไม่ยอมเป่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ อ้างว่าเจ็บหน้าอก แม้ผู้กำกับจะบอกว่า แขนหัก เลือดคั่งในสมองต้องผาตัด คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับวิดีโอนี้??

 

 

สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ลงนามในคำสั่ง ย้าย พันตำรวจโท สุทิน หวังกลับ รักษาการผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรประโคนชัย โดยให้ขาดจากตำแหน่งและหน้าที่จากสังกัดเดิม

 

 

ล่าสุดบนเฟซบุ๊กของนักข่าวชื่อดัง กนก รัตน์วงศ์สกุล ได้โพสต์ถึงกรณีข่าวที่เกิดขึ้นนี้โดยได้มีการต่อว่าร.ต.อ.ผู้ก่อเหตุและบอกว่าสมควรแล้วที่ถูกย้ายเพราะทำเรื่องที่เลวร้ายแล้วยังไม่มีสำนึก

 

 

ปกติเมาแล้วขับ เป็นเรื่องที่แย่มากอยู่แล้ว นี่ยิ่งแย่ถึงขีดสุด! เมื่อคนที่เมาแล้วขับเป็น "ตำรวจยศ ร.ต.อ."

แม้ขับไปแล้วไม่เกิดอุบัติเหตุ ก็แย่อยู่แล้ว

ตำรวจเมาแล้วขับ..ขับไปชนรถชาวบ้านพังยับ นับว่าเลวร้าย..

นี่ขับข้ามเลนไปชน "รถพยาบาล" ที่กำลังนำคนท้องแก่ส่งโรงพยาบาล ถือว่าเลวร้ายมาก..

และมีพยาบาลสาวต้องมาจบชีวิต! ขณะที่พยาบาลอีกท่าน และคนอื่นๆในรถเจ็บหนัก! กลายเป็นความเลวร้ายสุดบรรยาย

ยังไม่พอ..

ร.ต.อ.คนนี้ ขับรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน แถมไม่ยอมเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ อ้างว่าเจ็บอก!

มิหนำซ้ำ! พอเกิดอุบัติเหตุ มีการนำตำรวจเมาแล้วขับคนนี้ ขึ้นรถกระบะออกไปจากที่เกิดเหตุ.. ไปเป่าวัดแอลกอฮอล์ที่โรงพัก ซึ่งมันก็โยกโย้ ทำเป็นจะตาย เป่าไม่ได้

ยังดีที่ตำรวจมีการบันทึกวีดิโอไว้
ยังดีที่ รักษาการ ผู้กำกับ สภ.ประโคนชัย บอกว่า "มีกลิ่นเหล้า" ชัดเจน

แต่ไม่ดี ที่ตอนเราสัมภาษณ์ รักษาการ ผู้กำกับ ซึ่งตอนนี้ถูกย้ายไปแล้ว ท่านบอกว่า ตั้งข้อหา ร.ต.อ.คนนี้ ณ ตอนนั้นไม่ได้ เพราะยังไม่ได้สอบปากคำ เนื่องจากเจ็บหนัก เข้ารับการผ่าตัดสมอง เพราะเลือดคั่ง!

แท้จริง..มันไม่ได้เป็นหนักขนาดนั้น ที่หนักคือพยาบาลอีกคน และยังหัวหมอ ไม่ยอมให้เจาะเลือดหาแอลกอฮอล์ ผู้กำกับก็บอกว่า เป็นสิทธิ์ของผู้ป่วย!

เป็นการแอบอ้างสิทธิ์ทำทีเป็นเจ็บหนัก ของคนที่เมาแล้วขับมากกว่า

สมควรแล้วที่ผู้กำกับจะถูกย้ายไปให้พ้นๆ

ขณะที่เขารณรงค์เรื่อง "เมาไม่ขับ" มาหลายปี แต่เรื่องนี้..

ตำรวจเมาแล้วขับ..รถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน..ไปชนรถโรงพยาบาล..มีพยาบาลเสียชีวิต..แล้วโยกโย้ ไม่ยอมให้เป่าวัดแอลกอฮอล์

จึงเป็นความเลวทราม ระยำซ้ำซ้อน ก่อกรรมทำเข็ญเกินกว่าจะให้อภัย

 

 

 

ขอบคุณ  

Kanok Ratwongsakul Fan Page