ยังไม่จบ คดี "น้องเมย" เผยความคืบหน้าล่าสุด ครอบครัวตามเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวพันในเหตุการณ์ โยง 4 คดี

จากเหตุการณ์สลด นักเรียนเตรียมทหารปี 1 รุ่นที่ 60 นาม นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาและมีเงื่อนงำ หลังจากกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้เพียง 1 วัน

ยังไม่จบ คดี "น้องเมย" เผยความคืบหน้าล่าสุด ครอบครัวตามเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวพันในเหตุการณ์ โยง 4 คดี

 

    จากเหตุการณ์สลด นักเรียนเตรียมทหารปี 1 รุ่นที่ 60 นาม นตท.ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาและมีเงื่อนงำ หลังจากกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้เพียง 1 วัน เหตุการณ์ดังกล่าวได้เป็นที่โจษจันไปทั่ว เพราะเป็นการ "ตาย" ของบุคลากรทางทหาร ที่ยังอยู่ในความดูแลของ "กองทัพ" อ่านต่อเพิ่มเติม : ครบรอบ 1 ปี ย้อนคดี "น้องเมย" การจากไปที่สังคมยังคาใจ ไขรหัส ซ่อม หรือ ซ้อม

 

    เป็นเวลากว่า 1 ปี ที่คดีไม่มีความคืบหน้า จากคดีที่ปรากฏหน้าหนึ่งบนสื่อ ผู้คนต่างลุกฮือเร่งล่ารายชื่อเพื่อหวังฟื้นคืนความ "ยุติธรรม" ให้แก่อดีตว่าที่ผู้หมวด "น้องเมย" ผู้วายชนม์ แต่แล้วกระแสสังคมก็มอดดับลงในที่สุด เช่นเดียวกับอีกหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหลือแต่เพียงเปลวไฟแห่งความหวังของครอบครัวตัญกาญจน์ ด้วยคล้ายจะริบหรี่หากยังไม่มืดมนไปเสียทีเดียว

 

    ความคืบหน้าล่าสุด นางสาวสุพิชา ตัญกาญจน์ พี่สาวของน้องเมยเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานับตั้งแต่น้องเมยเสียชีวิต ได้พยายามดำเนินการทางกฎหมายมาโดยตลอด ซึ่งมีการกล่าวโทษบุคคลที่ทางครอบครัวเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของน้องชาย ซึ่งมีทั้งหมด 4 คดี ประกอบไปด้วย

 

 

ยังไม่จบ คดี "น้องเมย" เผยความคืบหน้าล่าสุด ครอบครัวตามเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวพันในเหตุการณ์ โยง 4 คดี

 

    คดีแรก คือ คดีทำร้ายร่างกายเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2560 จากการที่นักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่ชั้นปีที่ 2 สั่ง "ธำรงวินัย" จนร่างกายน้องเมยรับไม่ไหวต้องเข้าโรงพยาบาล คดีนี้มีจำเลย 1 คน ซึ่งขณะนี้ได้จบการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร และทำการขึ้นเหล่าเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามคดียังอยู่ในความรับผิดชอบของศาลทหาร มณฑลทหารบกที่ 12 ค่ายจักรพงษ์ และจะตัดสินในวันที่ 26 ธ.ค. 2561 ที่จะถึงนี้

    คดีที่สอง เกี่ยวพันกับคดีแรกว่าด้วยการ "ธำรงวินัย" ภายหลังที่น้องเมยเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2560 และมีใบสั่งแพทย์ให้ทุเลาการฝึกจนกระทั่งวันที่ 30 ส.ค 2560 มีรุ่นพี่สั่งลงโทษด้วยการ "ปล่อยม้า" เป็นภาษาทหารหมายถึงการสั่งให้วิ่งเร็วที่สุดจนกว่าจะสั่งให้ "หยุด" บางกรณีอาจมีการ "จับคนช้า" ซึ่งจะกำหนดตามดุลยพินิจของ "ผู้สั่ง" อาทิ จับคนช้า 3 นาย เป็นต้น คดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างชั้นพนักงานสอบสวนของสภ.บ้านนา จ.นครนายก

 

    คดีที่สาม และคดีที่สี่ นั้น เป็นคดีเกี่ยวเนื่องตั้งแต่วันที่ 15-17 ต.ค. 2560 ซึ่งก่อนที่น้องเมยจะเสียชีวิต มีคดีทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาคือ นักเรียนเตรียมทหารรุ่นพี่ และคดีละเมิดอีก 1 คดี ผู้ต้องหาคือเจ้าหน้าที่กองแพทย์ของโรงเรียนเตรียมทหาร ทั้งสองคดีนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะเข้าสู่กระบวนการส่งฟ้องต่อไปหรือไม่ และที่น่าเศร้ายิ่งคือยังไม่มีการแจ้งความคืบหน้าจากทางตำรวจแต่อย่างใด

 

 

ยังไม่จบ คดี "น้องเมย" เผยความคืบหน้าล่าสุด ครอบครัวตามเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวพันในเหตุการณ์ โยง 4 คดี

 

    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2560 จากผลสอบของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิตของน้องเมยโดยมี พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในขณะนั้น นั่งเป็นประธานกรรมการ ได้ระบุว่าการตายของน้องเมย ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดสั่งลงโทษหรือทำร้าย อันเป็นเหตุให้เสียชีวิต พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าก่อนเสียชีวิต นักเรียนเตรียมทหารคนดังกล่าวมีอาการคล้าย โรคหอบจากอารมณ์ (hyperventilation) ซึ่งพบบ่อยในนักเรียนทหารที่ยังไม่คุ้นชินกับระบบทหาร จนเกิดเป็นความเครียดทำให้มีอาการเกร็ง ชา หายใจถี่และเร็วมาก จนออกซิเจนในเลือดมีระดับเพิ่มมากขึ้น จนหมดสติ

    มีการเปิดเผยเรื่องราวในวันที่ 15 ต.ค. 2560 สองวันก่อนที่น้องเมยจะเสียชีวิต ว่านักเรียนบังคับบัญชา (รุ่นพี่ชั้นปีที่ 2) ปลุกนักเรียนมาธำรงวินัยในช่วงเที่ยงคืน โดยให้ออกกำลังกายใน "ห้องซาวน่า" ซึ่งเป็นห้อง ขนาดประมาณ 8X8 เมตร ถือเป็นส่วนหนึ่งของ "การฝึก" ที่ปฏิบัติกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งน้องเมยได้แจ้งว่าป่วย จึงถูกแยกออกมาขณะที่เพื่อนคนอื่นถูกธำรงวินัย แต่ยังคงถูกสั่งให้ทำท่า "ดันพื้นท่าเตรียม" คือ การยันแขนค้างไว้กับพื้น

 

    ต่อมาในวันที่ 16 ต.ค. 2560 หลังจากธำรงวินัยประจำวัน น้องเมยแสดงอาการไม่พอใจและไม่ยอมขอบคุณนักเรียนบังคับบัญชา ซึ่งถือว่าเป็นประเพณีการปฏิบัติของโรงเรียนเตรียมทหาร ในฐานะ "ผู้ใต้บังคับชา" ที่ต้องแสดงความเคารพต่อ "ผู้บังคับบัญชา" เหล่านี้เป็นการแสดงออกถึงการต่อต้าน ระบบเกียรติศักดิ์และระบบอาวุโสของสังคมทหารอย่างชัดเจนแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ "ยอมรับไม่ได้" นักเรียนบังคับบัญชาจึงสั่งให้น้องเมย ทำการ "พุ่งหลัง" ต่ออีกประมาณ 1-2 นาที จนน้องเมยฟุบลงไปและมีอาการคล้ายกับโรคหอบจากอารมณ์ ซึ่งทางโรงเรียนเตรียมทหารได้มีมาตรการลงโทษเบื้องต้นโดยการตัดคะแนนความประพฤตินักเรียนบังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 คน

 

 

ยังไม่จบ คดี "น้องเมย" เผยความคืบหน้าล่าสุด ครอบครัวตามเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวพันในเหตุการณ์ โยง 4 คดี

 

    จนกระทั่งวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งเป็นวันทีน้องเมยเสียชีวิต พล.อ.อ.ชวรัตน์ ได้เผยว่า น้องเมยมีอาการคล้ายโรคหอบจากอารมณ์ แต่ก็เข้ารับการรักษาจากกองแพทย์โรงเรียนเตรียมทหารจนอาการเป็นปกติ แต่ในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน น้องเมยเอามือกุมหน้าอกซ้ายคล้ายคนมีอาการเจ็บหน้าอก จน 4 โมงเย็น อาการก็ทรุดจนล้มลง ทางโรงเรียนเตรียมทหารจึงเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งแพทย์ได้พยายามช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถด้วยการทำซีพีอาร์ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ชม. โดยใช้เจ้าหน้าที่เกือบ 20 คน จน 20.20 แพทย์จึงลงความเห็นว่า "เสียชีวิต"

 

    ขณะนี้ครอบครัวตัญกาญจน์ยังคงรอเอกสารและข้อมูลจากทางกองทัพไทย และทางโรงเรียนเตรียมทหารตามที่ได้ร้องขอไปก่อนหน้านี้ เพื่อนำมาให้ทนายประกอบคดีความ แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับแต่อย่างใด จึงตัดสินใจทำหนังสือร้องเรียนกับสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (สขร.) เพื่อให้ออกคำสั่งให้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ได้ออกคำสั่งเพื่อให้หน่วยงานทั้งสองเปิดเผยข้อมูลแล้ว

 

ส่วนความคืบหน้าของคดีนี้จะเป็นอย่างไรนั้น ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

ยังไม่จบ คดี "น้องเมย" เผยความคืบหน้าล่าสุด ครอบครัวตามเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวพันในเหตุการณ์ โยง 4 คดี

 

 

ยังไม่จบ คดี "น้องเมย" เผยความคืบหน้าล่าสุด ครอบครัวตามเบาะแสบุคคลที่เกี่ยวพันในเหตุการณ์ โยง 4 คดี