ศาลให้ประกันตัว! "แก๊งโจ๋ชะอำ" ยกพวกทำร้าย ไขขวงปักหัว "น้องปอนด์"

ศาลให้ประกันตัว! "แก๊งโจ๋ชะอำ" ยกพวกทำร้าย ไขขวงปักหัว "น้องปอนด์"

จากกรณี ที่ห้องพิจารณา 701 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฆ่าไขควงแทงขมับ “นักศึกษาชาย ม.ศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี” หมายเลขดำ อ.1756/2560 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ และ เจ้าของหอพัก , ผู้บาดเจ็บ 2 ราย และมารดาของนายธีรพงศ์ หรือปอนด์  ฐิติฐาน ผู้ตาย เป็นโจทก์ร่วมที่ 1-4 ยื่นฟ้อง

สำหรับจำเลย ประกอบด้วย นายกรกนก หรืออาร์ท วรัญญสาธิต อายุ 23 ปี ที่ 1 , นายเดชาธรหรือไบร์ท มูลมณี อายุ 21 ปี ที่ 2 บุตรชายนายตำรวจคนหนึ่งที่ไม่ได้ประกันตัว , ส.ต.ชรินทรหรือบิ๊ก แก่นสาร อายุ 21 ปี ที่ 3 , นายญาณวัฒน์ หรือปาล์ม ทิพย์เที่ยงแท้ อายุ 20 ปี ที่ 4 , นายเรวัติ หรือเต้ย วงศ์ขยาย อายุ 21 ปี ที่ 5 , นายกฤตนันท์ หรือปาล์ม เนียมเงิน อายุ 21 ปี ที่ 6 , นายเศรษฐาหรือเติ้ล อุปถัมภ์ อายุ 27 ปี ที่ 7 , นายธีราพัฒน์หรืออั้ม โพธิ์สุทธิ์ อายุ 20 ปี ที่ 8 , นายธีรธานนท์ หรือนนท์ ทัพนาค อายุ 21 ปี ที่ 9 , นายภาคินหรือมิค เสือนาค อายุ 19 ปีเศษ ที่ 10 , นายศุภสิทธิ์ หรือแป้ง ดีท้วม อายุ 21 ปี ที่ 11 , นายอธิบดี หรือซีม กุญแจทอง อายุ 22 ปี ที่ 12 , นายชินกิตติ์ หรือกิต อรรถวรรธน อายุ 22 ปี ที่ 13 และ น.ส.มาริสา หรือลูกหมี เงินทอง อายุ 21 ปี ที่ 14 เป็นจำเลยที่ 1-14

ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 , ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นบาดเจ็บได้รับอันตรายแก่กายและจนถึงแก่ความตาย มาตรา 290  , ร่วมกันบุกรุกฯลฯโดยมีอาวุธและใช้กำลังประทุษร้าย มาตรา 362,365 (1)(2)(3) และพกพาอาวุธมีดไปในเมืองฯ โดยไม่มีเหตุอันควร รวม 4 ข้อหา ซึ่งเจ้าของหอพักโจทก์ร่วมที่ 1 ได้ยื่นคำขอให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายได้ และมารดาของน้องปอนด์ ผู้ตาย ขอให้ชดใช้เงินรวม 7,200,000 บาท

คดีนี้ อัยการยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.60  ระบุพฤติการณ์ความผิสรุป ว่า เมื่อวันที่ 25 ก.พ.60  จำเลยทั้ง หมดร่วมกันใช้มีดพกไปที่หอพักบ้านเกรียงไกรเลขที่ 153/2 ต.สามพระยา อ.ชะ จ.เพชรบุรี บุกเข้าไปที่ห้องพักเลขที่ 13 ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้มีดฟันแขน “นายศิวรักษ์ นาโค” ชกต่อยไปตามร่างกายหลายครั้ง กับใช้ขวดตีที่ศีรษะ 1 ครั้ง ใช้มีด 1 เล่มฟันแขนขวาของนายศิวรักษ์ได้รับอันตรายและที่หน้าผาก กับใช้กำลังประทุษร้าย “นายธนพล พุทธมา” โดยใช้ไขควงซึ่งวางอยู่ในห้องที่เกิดเหตุแทงที่โหนกแก้มซ้ายหนึ่งครั้ง ได้รับอันตรายแก่กาย และพวกจำเลยยังได้ทำร้ายร่างกาย “นายธีรพงศ์ หรือน้องปอนด์ ฐิตะฐาน” อายุ 24 ปีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรีหลายครั้ง

โดยจำเลยที่ 1, 2 ,4, 7, 8 ,9 ,11 , 13 มีเจตนาฆ่า “นายธีรพงศ์”  ใช้ไขควงปลายแหลมเป็นอาวุธแทงนายธีรพงศ์ที่ขมับศีรษะด้านขวาทะลุผ่านกะโหลกศีรษะเข้าไปในเนื้อสมองจนฉีกขาด และมีเลือดออกในสมอง ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดด้ามไขควงสีเหลือง-ดำ จากที่เกิดเหตุ  ชั้นสอบสวนจำเลยทั้ง 14 ให้การปฏิเสธ

ส่วนชั้นพิจารณาจำเลยที่ 1 ได้รับสารภาพว่าบุกรุกเข้าไปในห้องพักแต่บ่ายเบี่ยงว่าไม่ได้ฆ่า ส่วนจำเลยที่ 2 ก็ให้การรับสารภาพ ขณะที่จำเลยอื่นบางคนก็ให้การรับสารภาพบุกรุกเช่นกัน ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 1 ล็อกคอผู้ตาย แล้วจำเลยที่ 2 ใช้ไขควงแทงขมับจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจเบิกความเป็นขั้นตอนโดยมีเอกสารรองรับการเบิกความทุกขั้นตอน ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองพวกกับจำเลยมาก่อน นอกจากนี้ยังมีภาพวงจรปิด จับภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน

ส่วน “น.ส.มาริสา” จำเลยที่ 14 ได้ความว่า ขณะเกิดเหตุ แม้นั่งมาในรถกับจำเลยที่ 1-13 ด้วย แต่ก็ไม่ได้ลงจากรถยนต์

ศาลจึงพิพากษา จำเลยที่ 1,2,4,5,6,7,8,911,13 ผิดฐานบุกรุกในเวลากลางคืนฯ ตามมาตราม.364,365 (1)(2)(3)ส่วนจำเลยที่ 3,10,12 มีความผิดตาม ม.364,365 (2)(3)

ทั้งจำเลยที่ 1,2 ยังมีความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาตามมาตรา 288 และ จำเลยที่4,5,6,7,8,9,11,13 มีความผิดฐานร่วมกันกระทำการซึ่งไม่ได้มีเจตนาฆ่าแต่ได้ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป  พิพากษา จำคุกตลอดชีวิต “นายกรกนก หรือ อาร์ท” จำเลยที่1 ฐานฆ่าผู้อื่นฯตามมาตรา288 ส่วน“นายเดชาธรหรือไบร์ท” จำเลยที่ 2 ให้จำคุกตลอดชีวิตฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ เช่นกัน และจำคุกฐานร่วมกันบุกรุกฯ อีก 1 ปี  จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 2 เป็นเวลา 25 ปี 6 เดือน

ส่วน ส.ต.ชรินทรหรือบิ๊ก จำเลยที่ 3 , นายภาคินหรือมิค จำเลยที่ 10 , นายอธิบหรือซิม จำเลยที่ 12  ให้จำคุกคนละ 1 ปี ฐานร่วมกันบุกรุกโดยมีเหตุฉกรรจ์ตาม มาตรา 364 และ 365 (2)(3)

สำหรับนายญาณวัฒน์หรือปาล์ม  จำเลยที่ 4,นายเรวัติหรือเต้ย  จำเลยที่5, นายกฤตนันท์หรือปาล์ม จำเลยที่ 6 , นายศุภสิทธิ์หรือแป้ง จำเลยที่ 11 ให้จำคุกคนละ 10 ปี ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตาม มาตรา 290 และข้อหาบุกรุกฯ ให้จำคุกอีกคนละ 1 ปี รวมจำคุกทั้งสิ้นคนละ 11 ปีโดยส่วนของนายญาณวัฒน์ จำเลยที่4 นั้นให้บวกโทษจำคุก 1 เดือนของศาลจังหวัดหัวหินเข้ากับคดีนี้ด้วยรวมจำคุกจำเลยที่ 4 ไว้ 11 ปี 1 เดือน

นายเศรษฐาหรือเติ้ล จำเลยที่ 7 , นายธีราพัฒน์หรืออั้ม จำเลยที่ 8 , นายธีรธานนท์หรือนนท์ จำเลยที่ 9 ,นายชินกิตติ์หรือกิต จำเลยที่ 13 ให้จำคุกคนละ 10 ปี ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนได้รับอันตรายฯ ม.290 และบุกรุกฯ อีกคนละ 1 ปี ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพฐานร่วมกันบุกรุกจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเฉพาะข้อหาบุกรุกให้จำคุกไว้คนละ 6 เดือน เมื่อรวมโทษทุกกระทงความผิดคงจำคุกจำเลยที่ 7,8,9,13 ไว้คนละ 10 ปี 6 เดือน โดยพิพากษายกฟ้อง น.ส.มาริสา หรือลูกหมี จำเลยที่ 14 เพียงคนเดียวในทุกข้อหา

นอกจากนี้ยังให้จำเลยที่1-13 ร่วมกันชดใช้เงินค่าเสียหายแก่เจ้าของหอพักโจทก์ร่วมที่ 1  ด้วย 150,000 บาท และให้จำเลยที่ 1,2,4,5,6,7,8,9,11,13 ชดใช้ผู้บาดเจ็บโจทก์ร่วมที่ 2 จำนวน 125,000 บาท , โจทก์ร่วมที่ 3 จำนวน 95,000 บาท และมารดาผู้ตาย โจทก์ร่วมที่ 4 จำนวน 6,870,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่25 ก.พ.60 (วันเกิดเหตุ)

ภายหลังฟังคำพิพากษา นางอรุณี ดีสุวรรณ ป้าของน้องปอนด์ ผู้ตาย กล่าวว่า วันนี้ศาลได้ให้ความยุติธรรมที่สุดแล้ว เบื้องต้นครอบครัวพอใจกับผลโดยจะไม่ยื่นอุทธรณ์คดีต่อ แต่หากฝ่ายจำเลยยื่นอุทธรณ์ ก็เป็นเรื่องของอีกฝ่าย โดยขอให้คนที่ฆ่าหลานตนเองไปรับโทษตามกฎหมายซึ่งยังไม่ขออโหสิกรรมให้

ส่วนศพน้องขณะนี้ยังแช่อยู่ในโลงเย็นที่บ้าน จ.ชุมพร ก็ยังรอดูจนกว่าคดีจะสิ้นสุดจริงในชั้นศาลแล้วจะพิจาณาเรื่องการฌาปนกิจต่อไป โดยแม่เขายังทำใจไม่ได้ ทุกวันกลับจากทำงานยังกลับมาเปิดดูหน้าลูกชายในโลงทุกวัน ซึ่งหากน้องปอนด์ฟังอยู่อยากบอกว่าให้น้องไปสู่สุขคติ และไปยังภพภูมิที่ดี ชาติหน้ามีจริงขอให้เกิดมาเป็นคนในครอบครัวอีก

 

 

ต่อมาในวันเดียวกัน ศาลพิจารณาแล้ว ในส่วนของนายกรกนก หรืออาร์ท วรัญญสาธิต  จำเลยที่ 1 เห็นควรส่งคำร้องขอปล่อยชั่วคราวให้ศาลอุทธรณ์ พิจารณาสั่งประกันต่อไป ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 11 คน คือ จำเลยที่ 3 - 13 ศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวคนละ 7 แสนบาท ระหว่างอุทธรณ์