แค่พริบตาเดียว เก๋งเสียหลักพุ่งอัดเสาไฟเมืองนนท์  3 ชีวิตดับคาซากรถ ผู้สูงวัยตั้งใจจะไปเดินวิ่งมินิมาราธอนการกุศล

แค่พริบตาเดียว เก๋งเสียหลักพุ่งอัดเสาไฟเมืองนนท์ 3 ชีวิตดับคาซากรถ ผู้สูงวัยตั้งใจจะไปเดินวิ่งมินิมาราธอนการกุศล

อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเหตุการณ์ที่เราพบเจอได้ทุกวัน ทุกเวลา เนื่องจากผู้ขับขี่ขับรถโดนประมาทหรือแม้แต่ขับรถเกินกว่าความเร็วที่กฎหมายกำหนด การที่เราขับรถไม่ประมาท แต่บุคคลอื่นประมาทก็อาจจะก่อให้เกิดขึ้นได้เหมือนกัน เรื่องราวดังกล่าวส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุต่างๆบ่อยมากๆ ถึงแม้ว่าจะมีกฎหมายควบคุมการขับขี่แต่ก็ยัง มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอยู่เสมอในสังคมปัจจุบัน 

 


ล่าสุด (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 05.30 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุทางรถยนต์ จึงรีบเข้าตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู หลังจากได้รับแจ้งมีรถยนต์เก๋ง 2 คันชนกันมีผู้เสียชีวิต 3 รายแต่ก็ยังติดอยู่ภายในรถ เหตุการณ์เกิดบนถนนรัตนาธิเบศร์ขาออกตรงข้ามหมู่บ้าน กฤษดานคร 10 ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จากนั้นจึงปาะสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เข้าตรวจสอบโดยเร็ว

 

 

แค่พริบตาเดียว เก๋งเสียหลักพุ่งอัดเสาไฟเมืองนนท์  3 ชีวิตดับคาซากรถ ผู้สูงวัยตั้งใจจะไปเดินวิ่งมินิมาราธอนการกุศล

(ภาพที่เกิดเหตุ)


 

โดยที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งฮอนด้า รุ่นซีวิค สีเขียว ทะเบียน พห 6042 กทม. สภาพชนอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้า ตรงเกาะกลางถนน ซึ่งภายในรถพบผู้เสียชีวิต 3 ราย เป็นผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถคันดังกล่าวมา ต่อมาทราบชื่อ คือนายนิวัฒน์ ชาญประสิทธิ์ผล อายุ79 ปี (ผู้ขับขี่) นางอุไรวรณ ชาญประสิทธิ์ผล อายุประมาณ 80 ปี และนายนนทชัย ฤทธิบุตรสกุล อายุ 53 ปี  ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย สวมใส่ชุดกีฬา กำลังจะเดินทางไปร่วมโครงการ งานเดิน-วิ่ง เพื่อสุขภาพ ต้านยาเสพติด ที่บางใหญ่  มินิ-ฮาล์ฟมาราธอน ซึ่งงานดังกล่าวนั้นได้จัดขึ้นที่หน้าตลาดกลางบางใหญ่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

 

 

แค่พริบตาเดียว เก๋งเสียหลักพุ่งอัดเสาไฟเมืองนนท์  3 ชีวิตดับคาซากรถ ผู้สูงวัยตั้งใจจะไปเดินวิ่งมินิมาราธอนการกุศล

(ภาพที่เกิดเหตุ)

 

ใกล้ที่เกิดเหตุพบรถอีก 1 คัน เป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น พรีอุส สีดำ ทะเบียน ฆท 459 กทม. สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย กระจกหน้าด้านซ้ายมีรอยร้าว ไม่พบผู้ขับขี่ ซึ่งต่อมาอีก  1 ชม ผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งพรีอุสคันดังกล่าว ได้เข้ามายังที่เกิดเหตุ โดยทราบชื่อภายหลัง คือนายสุทธิชัย แก้วดี อายุ 40 ปี เข้ามาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้ให้การว่า "ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางไปบ้านเพื่อน เพื่อไปเอาของที่ลืมไว้ (กล้องส่องพระ) ซึ่งตนจะไปร่วมงานพระเครื่อง แต่ขณะขับมายังจุดเกิดเหตุนั้น จำเหตุการณ์ไม่ได้ เพราะกระจกรถดำทำให้มองเห็นเหตุการณ์ไม่ชัด"
 

 

 

แค่พริบตาเดียว เก๋งเสียหลักพุ่งอัดเสาไฟเมืองนนท์  3 ชีวิตดับคาซากรถ ผู้สูงวัยตั้งใจจะไปเดินวิ่งมินิมาราธอนการกุศล

(ภาพที่เกิดเหตุ)

 

 

ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้กล่าวว่า ขณะนี้เบื้องต้นได้ถ่ายภาพที่เกิดเหตุ และสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว แต่หลังจากที่ได้เข้ามามอบตัวก็ยังให้การสับสน วกวนไปๆมาๆ และได้อ้างว่าจำเหตุการณ์ไม่ได้ ทำให้ต้องนำผู้ขับขี่คนดังกล่าวไปให้ปากคำอีกครั้ง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิตเพื่อชันสูตร ต่อไป

 

 

แค่พริบตาเดียว เก๋งเสียหลักพุ่งอัดเสาไฟเมืองนนท์  3 ชีวิตดับคาซากรถ ผู้สูงวัยตั้งใจจะไปเดินวิ่งมินิมาราธอนการกุศล

(ภาพที่เกิดเหตุ)

 

 

แค่พริบตาเดียว เก๋งเสียหลักพุ่งอัดเสาไฟเมืองนนท์  3 ชีวิตดับคาซากรถ ผู้สูงวัยตั้งใจจะไปเดินวิ่งมินิมาราธอนการกุศล

(ภาพที่เกิดเหตุ)

 

 

แค่พริบตาเดียว เก๋งเสียหลักพุ่งอัดเสาไฟเมืองนนท์  3 ชีวิตดับคาซากรถ ผู้สูงวัยตั้งใจจะไปเดินวิ่งมินิมาราธอนการกุศล

(ภาพที่เกิดเหตุ)

 

 

แค่พริบตาเดียว เก๋งเสียหลักพุ่งอัดเสาไฟเมืองนนท์  3 ชีวิตดับคาซากรถ ผู้สูงวัยตั้งใจจะไปเดินวิ่งมินิมาราธอนการกุศล

(ภาพที่เกิดเหตุ)

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก กระแสข่าว