เปิดความหมายลึกซึ้งแห่งการบวช “เนกขัมมจาริณี” กุศลอันยิ่งใหญ่ “คุณน้ำผึ้ง” สละเพศฆราวาส

  ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับคุณน้ำผึ้ง ม.ล.สราลี กิติยากร พระขนิษฐา ใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ที่ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวการสร้างบุญครั้งใหญ่ เมื่อช่วงเย็น วันที่ 3 พ.ย. 61

 

      ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับคุณน้ำผึ้ง ม.ล.สราลี กิติยากร พระขนิษฐา ใน พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ที่ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวการสร้างบุญครั้งใหญ่ เมื่อช่วงเย็น วันที่ 3 พ.ย. 61ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวของคุณน้ำผึ้งเอง ใช้ชื่อว่า คุณน้ำผึ้ง-ม.ล.สราลี กิติยากร โดยข้อความที่คุณน้ำผึ้ง โพสต์ไว้ พร้อมบรรยายภาพการออกบวชเนกขัมมจาริณี หรือการบวชชีพราหมณ์  นั้นมีใจความว่า

 

เปิดความหมายลึกซึ้งแห่งการบวช “เนกขัมมจาริณี” กุศลอันยิ่งใหญ่ “คุณน้ำผึ้ง” สละเพศฆราวาส

 

      วันนี้ (๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๑) เวลา ๑๖:๐๐ น. คุณน้ำผึ้ง ได้ขอประทานกราบแทบฝ่าพระบาททูลลา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ในการออกบวชเนกขัมมจาริณี สละเพศฆราวาสหรือคฤหัสถ์ผู้ครองเรือน เพื่อเข้าสู่เพศนักบวชในพุทธศาสนา ด้วยการศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังเป็นเวลา 1 เดือน  ที่วัดป่านาคำน้อย ต.บ้านก้อง อ.นายูง จ.อุดรธานี โดยการออกบวชครั้งนี้เพื่อถวายพระบูรพมหากษัตริยธิราชเจ้าตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันทุกๆ พระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ทุกๆ พระองค์และทดแทนบุญคุณบิดา มารดา พร้อมทั้งพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ที่พระองค์มีความเมตตากรุณาแก่ข้าพเจ้าในทุกเรื่อง ดุจเช่นเดียวกับพระมารดา ข้าพเจ้ามีความสำนึก
ในพระคุณหาที่สุดมิได้ตลอดจนผู้มีพระคุณกับเราทุกๆ คน รวมถึงตัวเราให้เรามีจิตใจที่ผ่องใส รู้แจ้งเห็นธรรม หวังว่าในอนาคตถ้าเรายกระดับจิตได้สูง เราก็จะรู้จักตัดกิเลส ณ ถึงวันหนึ่งอาจจะเป็นไปในการนิพพานเป็นที่สุด หากข้าพเจ้าเคยล่วงเกิน กระทำกรรมหนึ่งกรรมใดด้วยกาย วาจา ใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลับ ทั้งที่รู้และไม่รู้ โดยเจตนาหรือมิเจตนาก็ดี ขอโปรดอโหสิกรรมนั้นแก่ข้าพเจ้าด้วย เทอญ

 

เปิดความหมายลึกซึ้งแห่งการบวช “เนกขัมมจาริณี” กุศลอันยิ่งใหญ่ “คุณน้ำผึ้ง” สละเพศฆราวาส

 

 

เปิดความหมายลึกซึ้งแห่งการบวช “เนกขัมมจาริณี” กุศลอันยิ่งใหญ่ “คุณน้ำผึ้ง” สละเพศฆราวาส

 

       ในการนี้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ พระเชษฐภคินี ของคุณน้ำผึ้งเข้าร่วมเป็นประธานในการบวชเนกขัมมจาริณี ของคุณน้ำผึ้ง ม.ล.สราลี  ผู้เป็นพระขนิษฐา ร่วมสายโลหิตครั้งนี้ด้วย 

เปิดความหมายลึกซึ้งแห่งการบวช “เนกขัมมจาริณี” กุศลอันยิ่งใหญ่ “คุณน้ำผึ้ง” สละเพศฆราวาส

 

เปิดความหมายลึกซึ้งแห่งการบวช “เนกขัมมจาริณี” กุศลอันยิ่งใหญ่ “คุณน้ำผึ้ง” สละเพศฆราวาส

 

    ด้านชีวิตส่วนตัวคุณน้ำผึ้ง ม.ล.สราลี  เกิดเมื่อวันที่  8 เมษายน พ.ศ. 2509 เป็นธิดาคนเล็กในหม่อมราชวงศ์อดุลกิติ์ กิติยากร กับท่านผู้หญิงพันธุ์สวลี กิติยากร และเป็นพระขนิษฐาของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ

 

ด้านการศึกษาสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนราชินี โรงเรียนจิตรลดา และระดับอุดมศึกษาจากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (สาขาวิชาดนตรีศึกษา) ชีวิตครอบครัว คุณน้ำผึ้ง ม.ล.สราลี  สมรสกับธีรเดช จิราธิวัฒน์บุตรชายคนโตของสุทธิเกียรติ จิราธิวัฒน์ กับแมรี แอน จิราธิวัฒน์ ภรรยาชาวอังกฤษ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536 ทั้งคู่มีบุตรชายฝาแฝด คือ คุณสุทธกิตติ์ ชื่อเล่น ปก และ คุณสิทธิกิตติ์  ชื่อเล่น ป้องต่อมาธีรเดช และคุณน้ำผึ้ง ม.ล.สราลี  ได้หย่าจากกัน โดยบุตรชายทั้งสองอยู่ภายใต้การดูแลของ คุณน้ำผึ้ง  ม.ล.สราลี 

 

เปิดความหมายลึกซึ้งแห่งการบวช “เนกขัมมจาริณี” กุศลอันยิ่งใหญ่ “คุณน้ำผึ้ง” สละเพศฆราวาส

 

    ส่วนของการบวชเนกขัมมจาริณี ที่คุณน้ำผึ้ง ม.ล.สราลี  บวชนั้นเป็นการบวชนุ่งขาวห่มขาว หรือบวชชีพราหมณ์ ที่หลายคนคุ้นเคย มีทั้งการบวชโดยโกนผม โกนคิ้ว หรือจะไม่โกนก็ได้  ซึ่งการบวชเนกขัมมจาริณี ถือเป็นการฝึกสมาธิปฎิบัติ ฟังธรรม เพื่อให้จิตใจสงบ และรู้สึกว่าได้สละทิ้งบ้านเรือนและทรัพย์สมบัติมาบวชอย่างแท้จริง นอกจากนี้ความหมายของคำว่า "เนกขัมมจาริณี" ยังมาจากศัพท์ 2 คำ คือ "เนกขัมมะ" และคำว่า "จารินี" ในคำภีร์พระไตรปิฎกให้ความหมาย "เนกขัมมะ" ว่า การออกจากกาม , การออกบวช ,ความปลอดโปร่งจากสิ่งล่อเร้าเย้ายวน  ส่วน "จารินี"  นั้นหมายถึง ผู้ประพฤติ เมื่อนำทั้งสองคำมารวมกันจึงได้ความหมายว่า การประพฤติปฎิบัติธรรมในแนวทางของนักบวชโดยการละเว้นการข้องเกี่ยวในกาม

 

 รูปแบบการบวชเนกขัมมจาริณี ถือเป็นการฝึกอบรมเพื่อสำรวมกาย วาจาและจิตใจโดยการใช้ชีวิตร่วมกันกับเหล่านักบวชท่านอื่น ในระยะการบวชนั้นๆ เนกขัมมจาริณีรักษาศีล 8  ได้แก่

1.ปาณาติปาตา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการฆ่าสัตว์
2.อทินฺนา ทานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการขโมยสิ่งของที่คนอื่นไม่ได้ให้
3.อพฺรหฺมจริยา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการประพฤติผิดพรหมจรรย์​ เว้นจากเรื่องที่ทำให้จิตเศร้าหมอง
4.มุสาวาทา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการพูดโกหก ไม่พูดหยาบคาย ส่อเสียด เพ้อเจ้อ ซึ่งเป็นสัมมาวาจา
5.สุราเมรยมชฺชปมาทฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการกินเหล้า ที่เป็นที่ตั้งของความไม่ระมัดระวัง
6.วิกาลโภชนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการกินในยามวิกาล (หลังเที่ยงวันถึงรุ่งเช้าของวันใหม่)
7.นจฺจคีตวาทิตวิสูกทสฺสนา มาลาคนฺธวิเลปนธารณมณฺฑนวิภูสนฏฺฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการฟ้อนรำขับร้อง ประโคมดนตรี และประดับร่างกายด้วยดอกไม้ของหอม เครื่องประดับ เครื่องทา เครื่องย้อม
8.อุจฺจาสยนมหาสยนา เวรมณี สิกฺขาปทํ สมาทิยามิ : เว้นจากการนั่งนอนเหนือเตียงตั่ง ที่เท้าสูงเกิน ภายในมีนุ่นหรือสำลี

     นอกจากนี้ยังรับประทานอาหารมังสวิรัติหรืออาหารเจ เพื่อความสะอาดทั้งกายใจ รักษาศีลโดยเคร่งครัดประคองจิตใหม่มีความสำรวมระวังบำเพ็ญประโยชน์ทั้งแก่ตนและผู้อื่นโดยแท้ 
  ปัจุบันสังคมไทยมีความเปิดกว้างในการปฎิบัติธรรมดำเนินชีวิตในรูปแบบคล้ายนักบวชแต่ไม่ต้องโกนผม โกนคิ้ว มากขึ้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีปัญหาและอุปสรรคต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องด้วยที่ไม่มีนักบวชหญิงคอยสอน
คอยแนะนำ อย่างแท้จริง หรือสถานที่เฉพาะของนักบวชหญิงเพื่อที่จะได้ความสะดวกแก่การบวชเนกขัมมจาริณี เหล่านี้มากยิ่งขึ้น เพราะผู้หญิงที่บวชเนกขัมมจาริณี เหล่านี้ยังต้องพึ่งพาอาศัยวัด อาศัยพระภิกษุ เป็นผู้สอน
แนะนำ อยู่นั้นเองในบางสถานที่

      สำหรับปัจจุบันแม่ชี ในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 
1.กลุ่มที่นุ่งห่มสีกลัก โกนผม โกนคิ้ว สมาทานศีล 10 ซึ่งเป็นศีลของสามเณร พวกนี้เอาแบบอย่างมาจากแม่ชีพม่า นุ่งห่มสีเดียวกัน เรียก ศีลจาริณี
2.กลุ่มนุ่งห่มสีเหลือง โกนผม โกนคิ้ว สมาทานศีล 8 และ ศีล 10  เรียกว่า สงฆนี
3.กลุ่มนุ่งขาวห่มขาว โกนผม โกนคิ้ว สมาทานศีล 8 เป็นนิจศีล บวชนาน เรียกว่า ชี
4.กลุ่มนุ่งขาว ห่มขาว ไม่โกนผม คิ้ว หรือโกนผม คิ้ว ก็ได้ แต่เป็นการบวชชั่วคราวจำเป็นต้องรักษา สมาทานศีล 8 เรียกว่า ชีพราหมณ์ , ธรรมจาริณี , เนกขันมจารินี  

 

      อย่างไรก็ตามการบวชชีทั้ง 4 กลุ่ม นี้ผู้หญิงที่จะบวชได้ต้องเริ่มจากความศรัทธาในพระพุทธศาสนา จนมีความประสงค์จะดำเนินชีวิตในรูปแบบของนักบวช รักษาศีล ประพฤติธรรมในคำสอนของพระพุทธองค์โกนผม โกนคิ้วนุ่งขาว ห่มขาว เข้าไปหาพระภิกษุณีขอบวชในพระพุทธศาสนา กล่าวคำขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก พร้อมทั้งสมาทานรักษาศีล 8 เป็นอันสำเร็จการเป็นแม่ชีในพระพุทธศาสนาสายเถรวาทในประเทศไทย

 

ขอบคุณภาพเฟซบุ๊ก  คุณน้ำผึ้ง-ม.ล.สราลี กิติยากร