- 05 พ.ย. 2561
สาธุการแซ่ซ้อง.. เปิดพินัยกรรม "หลวงปู่ลี" แสดงศรัทธาล้น "หลวงตามหาบัว" กำหนดถวายเพลิงอริยสงฆ์สุดเรียบง่าย
จากรณีที่หลวงปู่ลี กุสลธโร ลูกศิษย์ของ "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" ที่ได้อาพาธด้วยโรคชราตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 คณะศิษยานุศิษย์และพระอุปัฏฐากได้ดูแลอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ต่อมาทางวัดป่าเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (ภูผาแดง) อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ได้ออกหนังสือแจ้งมายังลูกศิษย์ของ หลวงปู่ลี และประชาชนทั่วไปว่า หลวงปู่ได้ละสังขารอย่างสงบ ณ ห้องปลอดเชื้อข้างศาลาใหญ่ เมื่อเวลา 15.15 น. รวมสิริอายุ 96 ปี 1 เดือน 11 วัน ทั้งนี้นับเป็นความเศร้าโศกแก่บรรดาลูกศิษย์เป็นอย่างมาก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ประกาศด่วน..สิ้น "หลวงปู่ลี กุสลธโร" หนึ่งในแม่ทัพธรรมแห่งวัดป่าภูผาแดง ละสังขารสงบแล้ว (รายละเอียด)
ขณะที่ทางด้านศิษยานุศิษย์และชาวบ้านจำนวนมาก ได้เดินทางมาที่วัดอย่างเนืองแน่น เพื่อร่วมรดน้ำที่พานดอกบัว โดยพระอุทาน จารุธมฺโม พระลูกศิษย์คนสนิทและผู้ดูแล “หลวงปู่ลี” มาตลอด ได้เปิดเผยว่า “หลวงปู่ลี” อาพาธตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. 2561 เป็นต้นมา ขณะดูแลท่านรู้ตัวดีว่าอาการเป็นอย่างไร ได้ปฏิเสธที่จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จึงต้องมาสร้างห้องปลอดเชื้อให้ท่านที่วัด กระทั่งท่านได้พูดเป็นครั้งสุดท้ายว่า ได้กำหนดอายุไขไว้แล้ว
โดยบอกว่า “อาตมาจะไม่เอาอายุเท่ากับอายุของหลวงตามหาบัว ซึ่งหลวงตามหาบัวนั้นอายุ 98 ปี อาตมาก็ขออยู่ที่อายุเท่านี้ 96 ปี เท่านั้นพอแล้ว ขอให้ทุกคนได้ปฏิบัติทำทุกอย่างตามพินัยกรรมที่เขียนไว้ เงินที่ญาติมาบริจาคให้ลงที่เจดีย์และที่วัดทั้งหมด งานศพให้เอาไว้เพียง 7 วันพอ จากนั้นก็ให้เผาเลย ให้ทำแบบง่ายๆ ไม่ต้องมีพิธีอะไรยุ่งยากมากนัก” ก่อนหลวงปู่จะละสังขารประมาณ 2 – 3 วัน พวกอีกาพากันส่งเสียงร้องดังจนก้องวัดไปหมด แต่พอหลวงปู่ละสังขารต่างพากันหยุดร้อง เป็นเหตุการณ์ที่น่าแปลกใจมาก
ล่าสุดทางด้านศิษย์เอกรุ่นแรกของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เปิดเผยว่า จะมีการถวายเพลิง “หลวงปู่ลี กุสลธโร” ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน นี้ หลังจากหลวงปู่ลี สะสังขารเมื่อเวลา 15.15 น. เมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ตามประเพณีและวิถีของพระวัดป่า โดยสรีระสังขารหลวงปู่ลี กุสลธโล บรรจุในหีบโลงเย็น อยู่ในศาลาใหญ่ ด้านหน้าศาลากำลังก่อสร้าง และตกแต่ง“จิตกาธาน” หรือเมรุชั่วคราว ซึ่งใกล้จะแล้วเสร็จ ได้มีลูกศิษย์ทั้งที่เป็นพระสงฆ์ และฆราวาส ทยอยเดินทางเข้ากราบสักการะตลอดเวลา โดยทางวัดได้เตรียมดอกบัว ไว้ให้ทุกคนที่เดินเข้าไปในศาลา สำหรับบริเวณหน้ากุฏิเดิม และกุฏิห้องปลอดเชื้อ ที่อยู่ด้านข้างศาลาใหญ่ ได้นำภาพถ่ายของหลวงปู่ลีฯ ประดับด้วยดอกไม้ไว้ด้านหน้า ไม่อนุญาตให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าออก
นอกจากนี้ยังมีการนำเอาพินัยกรรม ของหลวงปู่ลี เขียนลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 ลงลายมือของหลวงปู่ลี และพยานอีก 3 คน มาเปิดเผยให้ทราบโดยทั่วกัน ระบุว่า เมื่อหลวงปู่ลีมรณภาพ และมีปัจจัยที่ได้จากการร่วมบริจาคในงานศพ ทั้งหมดให้นำไปเข้าบัญชี ร่วมสร้างเจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าภุผาแดง โดยหลวงปู่ลี กุสลธโร เพื่อใช้จ่ายในการสร้างเจดีย์ฯ ณ วัดป่าภูผาแดง เท่านั้น มอบให้นพ.สุทธิพงษ์ ปิ่นแก้ว (หมออ้วน) และนายทวี หอบันลือกิจ เป็นผู้ดำเนินการรวบรวม นำปัจจัยทั้งหมดเข้าบัญชีโดยเร็วเมื่อเสร็จสิ้นงาน
พินัยกรรมของหลวงปู่ลี
ซึ่งทางด้านพระอัคคัญญู โชติปญโญ พระลูกวัดป่าภูผาแดง ผู้ดูแลความเรียบร้อยวัด ได้เปิดเผยถึงจำนวนเงินที่ญาติโยมนำมาบริจาค จะประกาศให้ทราบทุกบาททุกสตางค์ ไม่มีรั่วไหลไปไหน ซึ่งจะแบ่งนำไปใช้สร้างเจดีย์หลวงปู่ลีฉาบด้วยทองคำตีเป็นแผ่นบาง คาดว่าน่าจะใช้ทองคำประมาณ 100 กิโลกรัม ซึ่งขณะนี้ยอดบริจาคทองคำคาดว่าได้กว่า 200 กิโลกรัมแล้ว
อย่างไรก็ตามทางด้านพระอุทาน จารุธมโม พระอาวุโส วัดเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (วัดป่าภูผาแดง) ยังเปิดเผยเพิ่มเติมว่า กำหนดการถวายเพลิงมีการปรับเล็กน้อย และอาจะมีการปรับอีกเพื่อความสะดวก จากเดิมจะมีพิธีขอขมาสรีระสังขารหลวงปู่ลี และเคลื่อนสรีระสังขารสู่เมรุชั่วคราว ช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน และถวายเพลิงในบ่ายวันนั้น ได้เปลี่ยนเป็นการเคลื่อนมาเป็นวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน เพื่อเปิดโอกาสให้ศิษยานุศิษย์ วางดอกไม้จันทน์ได้ก่อน 2 วันตลอด 24 ชม. จนในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน ก็จะประกอบพิธีทางศาสนาปกติ และจะถวายเพลิงจริงเวลา 15.15 น. สำหรับอัฐิที่จะมีพิธีในเช้าอีกวัน จะนำอัฐิทั้งหมดมาเก็บรักษา ไว้ภายในอาคารกุฏิปลอดเชื้อ จะยังไม่มีการแบ่งแยก หรือแจกจ่ายให้ใครทั้งสิ้น อาจจะต้องรอไปจนกว่าการก่อสร้างพุทธมหาเจดีย์ หรือเจดีย์หลวงตาพระมหาบัว จะแล้วเสร็จสมบูรณ์
ขอบคุณภาพเฟซบุ๊ก : วัดภูผาแดง ตำบลหนองอ้อ อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี