เสียงผู้คร่ำหวอด‘ยัดห่วงไทย’ แนวทางสู่กีฬาอาชีพครบทุกมิติ

      วงการบาสเกตบอลอาชีพไทยถือกำหนดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2555 จากการเริ่มต้นของสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งได้ก่อตั้งการแข่งขัน "ไทยแลนด์ บาสเกตบอล ลีก" หรือเป็นที่รู้จักกันว่า  "ทีบีแอล" เป้าหมายของการจัดบาสเกตบอลลีกอาชีพในตอนแรก เพื่อเป็นการพัฒนานักบาสเกตบอลไทยให้พัฒนาฝีมือ แต่จากนั้นเริ่มค่อยๆ พัฒนาอย่างต่อเนื่องในมิติต่างๆ จนเริ่มทำให้บาสกลายเป็นกีฬาอาชีพมากยิ่งขึ้นกระแสตอบรับที่ดีของศึกยัดห่วงอาชีพ “ทีบีแอล” ทำให้บาสเกตบอลลีกชายได้รับการคัดเลือกเข้าเป็น 1 ใน 13 ชนิดกีฬาอาชีพ ภายใต้การกำกับดูแลของพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ. 2556 ที่มีส่วนเป็นกลไกช่วยขับเคลื่อนให้ไปสู่อาชีพอย่างแท้จริง

“เฮียต่าย” นายนิพนธ์ ชวลิตมณเฑียร ถือเป็นผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการบาสเกตบอลไทยมาต่อเนื่องยาวนาน และเป็นบุคคลที่ช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาขึ้นในวงการบาสเกตบอลไทย ซึ่งได้ออกสะท้อนแง่คิดที่สำคัญในการพัฒนาวงการบาสเกตบอลอาชีพไทยไปต่อเนื่อง
เฮียต่าย ระบุว่า ตั้งแต่ก่อตั้ง ไทยแลนด์ บาสเกตบอล ลีก ครั้งแรก เมื่อปี 2555 มาจนถึงปัจจันถือว่า วงการบาสเกตบอลอาชีพไทยเติบโตอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 6 ปี ซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปยังทีมชาติไทยที่เป็นตัวเลือก และช่วยทำให้ทีมสร้างผลงานได้ดีในการแข่งขันระดับนานาชาติ
ในตอนแรกแนวคิดการสร้างบาสเกตบอลลีกอาชีพขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทยนั้น เพื่อเป็นการต่อยอดให้นักบาสเกตบอลระดับรากหญ้าได้มีโอกาสพัฒนาขึ้นมาสู่ทีมชาติไทยได้อนาคต โดยจากการจัดแข่งขันศึก “ทีบีแอล” ที่ผ่านมานั้น แสดงให้เห็นว่านักกีฬาเหล่านั้นยังสามารถใช้เป็นอาชีพไว้เลี้ยงตัวเองได้อีกด้วยจากการเล่นบาสเกตบอล

จนกระทั่งเมื่อ พระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 บรรจุให้บาสเกตบอลเป็น 1 ใน 13 ชนิดกีฬาอาชีพ ยิ่งส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาบาสเกตบอลไทยให้เป็นกีฬาอาชีพที่ยั่งยืน ซึ่งจะทำให้มีรูปแบบ และแนวทางที่ชัดเจนอย่างเป็นระบบ สิ่งสำคัญคือ ทั้งตัวนักกีฬา และสโมสรต่างมีความมั่นใจว่าจะมีกฎหมายคุ้มครอง
เฮียต่าย บอกอีกว่า จากวันนั้นถึงวันนี้บาสเกตบอลไทยเติบโตขึ้นชัดเจน บาสเกตบอลลีก ทำให้ทีมชาติมีตัวเลือกมากขึ้น และทำให้นักกีฬายังสามารถมีลีกอาชีพที่สามารถเลี้ยงตัวเอง รวมทั้งครอบครัวได้
อีกทั้งในปี 2561 ภาคเอกชนอย่าง โมโน สปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ได้ทุ่มงบประมาณเข้ามาช่วยสนับสนุนวงการบาสเกตบอลอาชีพไทยให้เป็นระบบยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อทั้งภาครัฐ และเอกชน เล็งเห็นความสำคัญ เข้ามาร่วมกันส่งเสริมก็จะช่วยเป็นส่วนผลักดันให้บาสอาชีพไทยเติบโตเร็วยิ่งขึ้น
“พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ ยิ่งทำให้บาสเกตบอลลีกอาชีพพัฒนาขึ้นอย่างเป็นระบบ และมีทิศทางชัดเจน รวมทั้งทำให้สโมสรแน่ใจว่าลีกมีความแข็งแกร่งมากพอ และตัวนักกีฬาเองก็มั่นใจว่าจะมีกฎหมายมาคุ้มครองหากถูกเอาเปรียบจากสโมสร” นายนิพนธ์กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายนิพนธ์ มองว่า พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 คัดเลือกเพียงแค่บาสเกตบอลลีกอาชีพของทีมชายไว้เป็นกีฬาอาชีพเพียงเท่านั้น ขณะเดียวกันบาสเกตบอลลีกอาชีพของทีมหญิงยังไม่ได้เป็นรายการที่บรรจุเป็นกีฬาอาชีพ
นายนิพนธ์กล่าวว่า บาสเกตบอลทีมหญิงไทยที่ผ่านมาก็ถือว่าทำผลงานได้ดีในการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งล่าสุดในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ทีมแม่นห่วงหญิงก็ทำผลงานได้ดีกว่าทีมชายด้วย ทำให้คิดว่าน่าจะมีการส่งเสริมให้บาสเกตบอลลีกหญิงได้บรรจุเป็นกีฬาอาชีพด้วย

สำหรับบาสเกตบอลลีกอาชีพหญิงไทยเริ่มต้นจัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี 2555 เช่นกัน ซึ่งลีกมีพัฒนาการต่อเนื่องมาโดยตลอด และมีการเพิ่มจำนวนทีมที่เข้าร่วมการชิงชัยจนปัจจุบันมีถึง 8 ทีมแล้ว
แม้ลีกบาสเกตบอลหญิงจะมีกระแสนิยมไม่เทียบเท่ากับลีกชาย แต่หากจะมีการพัฒนาขึ้นไปอีกก็ควรที่จะได้รับรองให้เป็นรายการกีฬาอาชีพของพระราชบัญญัติส่งเสริมกีฬาอาชีพด้วย
เฮียต่าย ระบุว่า ความนิยมในกีฬาบาสเกตบอลแน่นอนว่า ทีมชายจะได้รับความนิยมมากกว่าทีมหญิงเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เช่นเดียวกับกีฬาอื่น แต่หากจะต้องการให้ลีกหญิงพัฒนาขึ้นมาใกล้เคียงกับลีกชายก็ควรที่จะได้รับการสนับสนุนในแนวทางเหมือนกัน เพื่อให้โอกาสการพัฒนาต่อไปในอนาคต
ข้อคิดเห็นเหล่านี้เป็นเสียงสะท้อนที่ออกจากปากของผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการบาสเกตบอลไทย ตั้งแต่ในอดีตที่เคยเป็นผู้ก่อตั้งสโมสรบาสเกตบอล มาจนสู่การเป็นผู้จัดการทีมชาติไทย ก่อนเข้ามาทำหน้าที่เป็นนายกสมาคมกีฬาบาสเกตบอลแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน...
ถือว่าเป็นแนวทางสำคัญในการต่อยอดยกระดับวงการบาสเกตบอลอาชีพไทยให้ก้าวหน้าพัฒนาทั้งลีกอาชีพชาย และลีกอาชีพหญิง ที่จะเป็นการพัฒนาสู่การเป็นกีฬาอาชีพครบทุกมิติได้อย่างยั่งยืน...