เตรียมโกยให้ดี ราคาทองร่วงหนักครั้งที่ 2 ในรอบวัน เล็งซื้อหาเป็นของขวัญ ลุ้นนาทีทองมีโอกาสปรับลดอีกครั้งที่ 3 ของวันนี้

  นับว่าเป็นจังหวะที่นักลงทุนต่างจับจ้องมานานหลังราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นเรื่องๆ จนมาหยุดอยู่ที่ราคาสูงสุดบาทละ 19,150 บาท จนนักลงทุนหลายคนไม่กล้าซื้อทองคำในช่วงเดือนตุลาคม เพราะถือเป็นช่วงที่ก้ำกึ่งอยู่ว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงสูงเมื่อซื้อแล้วอาจขายออกได้ราคาต่ำกว่าที่หวัง

 

    นับว่าเป็นจังหวะที่นักลงทุนต่างจับจ้องมานานหลังราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นเรื่องๆ จนมาหยุดอยู่ที่ราคาสูงสุดบาทละ 19,150 บาท จนนักลงทุนหลายคนไม่กล้าซื้อทองคำในช่วงเดือนตุลาคม เพราะถือเป็นช่วงที่ก้ำกึ่งอยู่ว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงสูงเมื่อซื้อแล้วอาจขายออกได้ราคาต่ำกว่าที่หวัง ทั้งยังหยุดอยู่ในสภาวะคงที่อยู่เกือบ 3 วัน ส่งผลให้ในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาตลาดทองไม่คึกคักเท่าไหร่ จนล่วงเลยมาถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 61 ราคาทองมีการปรับลงถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกในเวลา 09:29 น. ครั้งที่สองในเวลา 10:23 น. ถือเป็นการปรับลดลงในเวลาไม่ถึงครึ่งวัน จนสร้างความคึกคักขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดในหมู่นักลงทุน โดยราคาทองคำ เปิดตลาดครั้งที่ 2 เมื่อเวลา 10:23 น. ทองราคาขยับลงครั้ง 50 บาท ถึง 2 ครั้ง รวมแล้ว 100 บาท  ในส่วนทองแท่งรับซื้อบาทละ 19,050 ขายบาทละ 19,150 รูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,707.44 ขายบาทละ 19,650 บาท

 

เตรียมโกยให้ดี ราคาทองร่วงหนักครั้งที่ 2 ในรอบวัน เล็งซื้อหาเป็นของขวัญ ลุ้นนาทีทองมีโอกาสปรับลดอีกครั้งที่ 3 ของวันนี้


   
      โดยปัจจัยที่ทำให้ราคาทองลดมาจากราคาทองคำ spot ปรับตัวลดลงจากแรงเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่สอง ขณะที่ตลาดจับตาผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันนี้ ทองคำในประเทศเปิดตลาดเงินบาทยังอ่อนค่าหนุนราคาปรับลดลงไม่มาก ตลาดทองคำโคเม็กซ์เมื่อคืนที่ผ่านมาปิดปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ

 

 

เตรียมโกยให้ดี ราคาทองร่วงหนักครั้งที่ 2 ในรอบวัน เล็งซื้อหาเป็นของขวัญ ลุ้นนาทีทองมีโอกาสปรับลดอีกครั้งที่ 3 ของวันนี้

 

       ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองในวันนี้ จับตาผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าพรรคเดโมแครตจะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนพรรครีพับลิกันคาดยังคงครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงทางการเมืองของสหรัฐเพิ่มขึ้น เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลักดันนโยบายต่างๆ กระตุ้นเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำได้ยากขึ้น ซึ่งจะส่งผลเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ทำให้ราคาทองในประเทศเปิดตลาดเช้าปรับตัวลดลง 50 บาท จนถึง 100 ในครั้งที่สอง โดยมีปัจจัยเงินบาทอ่อนค่ามากกว่าระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ เป็นแรงหนุนให้ราคาทองในประเทศปรับลดลงได้ไม่มากดังกล่าว
 
        แนวโน้มราคาทองคำ spot ซึ่งทาง ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส คาดราคาทองจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,220-1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,220 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากหลุดแนวรับดังกล่าวจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,210 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,240 และ 1,247 ดอลลาร์ต่อออนซ์
   

เตรียมโกยให้ดี ราคาทองร่วงหนักครั้งที่ 2 ในรอบวัน เล็งซื้อหาเป็นของขวัญ ลุ้นนาทีทองมีโอกาสปรับลดอีกครั้งที่ 3 ของวันนี้


      สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 6.00 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,226.30 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 14.5 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 14.50 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 871.50 ดอลลาร์/ออนซ์  สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลง 26.30 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 1095.30 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาทองคำปิดปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง เช่นหุ้น หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐ

 

เตรียมโกยให้ดี ราคาทองร่วงหนักครั้งที่ 2 ในรอบวัน เล็งซื้อหาเป็นของขวัญ ลุ้นนาทีทองมีโอกาสปรับลดอีกครั้งที่ 3 ของวันนี้

     ทั้งนี้มองว่า หากทิศทางเงินบาทยังอ่อนค่ามากกว่า 33 บาท ต่อดอลลาร์หรืออ่อนค่ามากกว่านั้น ประกอบกับทองคำ spot ยังเคลื่อนไหวตามกรอบทางเทคนิค 1,220 - 1,240 ดอลลาร์ เราจะมีโอกาศเห็นราคาทองในช่วงเดือนพฤศจิกายน 61 ลดลงเกือบ 500 บาท ได้ 

  หากเปรียบเทียบราคาทองคำในปี 61 นั้น ตั้งแต่เดือนมกราคม - เดือนพฤศจิกายน จะเห็นได้ว่าราคาทองตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน มีการปรับเพิ่มของราคาทองคำตั้งแต่เปิดเดือนมา 4 ครั้งลดครั้งละ 50 บาท รวมแล้วได้ 200 บาท จากที่ราคาปรับขึ้นถี่ๆ ในเดือนตุลาคม 2561 อย่างต่อเนื่องจนจบเดือนปรับขึ้นกว่า + 850 บาท ถือเป็นเดือนที่ปรับขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือนมกราคม 61 และหากย้อนกลับไป 7 ปี ก่อนหน้าปี 2561 จะเห็นได้ชัดว่ามีอัตราการปรับขึ้นของทองคำตลอดทั้งปีดังนี้

1. ปี 2555 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ +1,150 บาท เห็นได้ว่าถือเป็นปีที่ราคาทองคำนั้นปรับขึ้น โดยเฉพาะเดือนมกราคม ที่ปรับขึ้น 1,900 บาท อาจมีลดลงบางในเดือนมีนาคม ที่ 1,250 บาท จนจบตลอดทั้งปีที่การปรับขึ้น 1,150 บาท

2. ปี 2556 ปรับลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -5,300 บาท ในปี 2556 เป็นปีของการปรับตัวลงของราคาทองคำ สูงสูดใน 7 ปีนี้

3. ปี 2557 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -400 บาท ถือว่ายังคงที่ในการปรับลดลง ในแต่ละเดือน แต่จะปรับขึ้นในเดือน กุมภาพันธ์ มากที่ 1,050 บาท จากนั้นจึงค่อยๆ ลดลงตามลำดับ
        
4. ปี 2558 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -300 บาท ปี 2558 นั้น ยังเป็นปีที่คงที่ของราคาทองปรับขึ้นไม่มากไม่น้อยจนเกินไป 

5. ปี 2559 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ +1,450 บาท เป็นปีที่มีการปรับราคาทองขึ้นมากที่สุดอีกปีหนึ่ง โดยจะปรับขึ้นมากที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ ถึง 1,900 บาท 

6. ปี 2560 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ + 350 บาท ราคาทองที่ปรับขึ้นในปีนี้ยังอยู่ในขั้นทรงตัว ไม่ขึ้นมากและไม่ลงมาก โดยเดือนสิงหาคม ปรับขยับขึ้นที่ 550 บาท ถือว่าสูงสุดในปี 2560

7. ปี 2561 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -900 บาท ยังต้องจับตามองกันอยู่ตลอดกับราคาทองคำผันผวนตลอดทั้งปี 2561 ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน  2561 มีการปรับลดราคาทอง ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 61 อย่างต่อเนื่องถึง 2 ครั้ง รวมทั้งหมด 400 บาท ตั้งแต่เริ่มเดือนมา หลังจากมีการปรับเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ถึงกว่า 850 บาท โดยบวกเพิ่ม อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม จนเริ่มมาคึกคักในเดือนพฤศจิกายน 2561 นี้

 

    อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงต้องติดตามราคาทองอย่างใกล้ชิดต่อไปว่าจบเดือนพฤศจิกายน

 

เตรียมโกยให้ดี ราคาทองร่วงหนักครั้งที่ 2 ในรอบวัน เล็งซื้อหาเป็นของขวัญ ลุ้นนาทีทองมีโอกาสปรับลดอีกครั้งที่ 3 ของวันนี้

 

ขอบคุณข้อมูล ทองคําราคา