คอหวยส่อง 2 สามี-ภรรยาชาวอุดรถูกลอตเตอรี่ 90 ล้าน โชว์เลขเด็ดงวดที่จะถึง ใครอยากซื้อตามก็ได้

ภายหลังจากที่สร้างความฮือฮาไม่น้อย สำหรับกรณีเมื่อครอบครัวชาวจังหวัดอุดรธานี ถูกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 โดยเป็นหมายเลข 149840 รางวัลที่ 1 จำนวน 15 ใบ คิดเป็นเงินรางวัล 90 ล้านบาท โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ อาแตม อัศวิน ลาเศษ ได้โพสต์ภาพพร้อมเขียนข้อความบรรยายว่า "งวดนี้อยู่ จ.อุดรธานีค่ะ 90 ล้าน ดีใจนำย่าเด้อจ้า" ("งวดนี้อยู่ จ.อุดรธานีค่ะ 90 ล้าน ดีใจกับย่าด้วยนะคะ")

 

ในเวลาต่อมาทราบว่าเศรษฐีคนดังกล่าว ที่ถูกรางวัลที่ 1 คือ นางวรรณลี ปัญญาใส อายุ 45 ปี ได้ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 149840 จำนวน 15 ใบ มูลค่า 90 ล้านบาท และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว หมายเลข 58 จำนวน 40 ใบ มูลค่า 8 หมื่นบาท ได้โชคทั้งสองเด้ง นอกจากนี้นางวรรณลี ได้เปิดเผยถึงการซื้อลอตเตอรี่ด้วยว่า เวลาซื้อครั้งหนึ่งประมาณ 1-3 แสนบาท งวดนี้ก็ซื้อไป 2 แสนบาท  และที่มาของเลขเด็ดงวดนี้ก็เพราะตนเองดูข่าวอุบัติเหตุรถตู้ไฟคลอกดับ 9 ศพ แล้วมีเลขทะเบียนรถ 840 จึงโทรสั่งซื้อลอตเตอรี่กับเจ้าประจำ ที่เซ็นทรัลอุดรธานี 

 

 

 

โดยนางวรรณลี กล่าวอีกด้วยว่า หลังจากมีข่าวว่าตนถูกหวยจำนวน 90 ล้านบาท ก็มีคนเขียนจดหมายส่งมาให้ช่วยเหลืออย่างมากมาย ซึ่งที่ผ่านมาและตอนนี้ตนก็ทำบุญตลอด ส่วนงวดที่จะถึงนี้นางวรรณลีได้โชว์ลอตเตอรี่งวดหน้าให้ดู พร้อมบอกว่านี่เป็นหนึ่งในจำนวนที่ตนซื้อ โดยพบว่าเป็นเลข 489749 , 147097 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม นางวรรณลีกล่าวอีกด้วยว่า ตนเองและสามีเตรียมตัวฟิตความพร้อมของร่างกาย เพื่อที่จะวิ่งแก้บนตามที่มีการบนเอาไว้ โดยตนได้บนไว้กับกรมหลวงประจักษ์ ผู้สร้างเมืองอุดร หากถูกรางวัลที่ 1 จะแก้บนโดยการวิ่งรอบอนุสาวรีย์ 20 รอบ พร้อมกับนำเงินไปทำบุญตามวัดต่าง ๆ และสำหรับเงินที่ถูกหวยได้เอาเข้าบัญชีชื่อของสามีทั้งหมด 89 ล้านบาท จะให้เขาเป็นผู้ดูแลจัดการทั้งหมด ซึ่งตนมั่นใจว่าสามีเป็นคนรักครอบครัว เพราะต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน อีกทั้งเขาเป็นคนที่ประหยัดไม่สุรุ่ยสุร่าย และใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง จึงไว้ใจเขา

 

 

 

 

สำหรับพระประวัติ พลตรี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ทรงเป็นพระเจ้าลูกเธอองค์ที่ 25 ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาสังวาลย์ ธิดานายศัลยวิชัย ( ทองคำ ณ ราชสีมา ) ประสูติในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันเสาร์ เดือน 5 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะโรง จุลศักราช 1218 ตรงกับวันที่ 5 เมษายน 2399 เมื่อสมโภชเดือนแล้ว พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า พระเจ้าลูกยาเธอพระองค์เจ้าทองกองก้อนใหญ่ เพราะเมื่อประสูติมีผู้นำทองคำก้อนใหญ่ ซึ่งขุดได้ที่ตำบลบางสะพานในเวลานั้นได้เข้ามาทูลเกล้าฯ ถวาย ทรงถือว่าเป็นศุภนิมิตมงคลสำหรับพระเจ้าลูกเธอพระองค์นี้ เมื่อพระราชทานพระนามได้ทรงพระราชนิพนธ์คาถาพระราชทานพระพร ซึ่งมีคำเเปลดังนี้

 

กุมารดีนี้ จงมีชื่อว่า ทองกองก้อนใหญ่ อย่างนี้เทียว โดยเนื้อความเพราะได้ทองแท่งใหญ่ จงไม่มีโรค เป็นสุข มีอายุยืน อันใครๆ ให้กำเริบไม่ได้ จงมีลาภมียศ รักษาเกียรติยศของบิดาไว้ในกาลทุกเมื่อ จงอาจเพื่ออภิบาลกิจของบิดาด้วยความสามารถทั้งปวง จนตลอดชีพ จงได้ทรัพย์สมบัติ สำหรับตระกูล

 

พระเจ้าลูกเธอในเจ้าจอมมารดาเดียวกันกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมนี้ มีอีก 3 พระองค์คือ

1. พระองค์เจ้าชายทองแถมถวัลยวงศ์ (ภายหลังได้รับสถาปนาเป็นกรมหลวงสรรพสาตรศุภกิจ สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2462 ต้นสกุล ทองแถม )

2. พระองค์เจ้าชายเจริญรุ่งราษี

3. พระองค์เจ้าหญิงกาญจนากร

 

พระราชกรณียกิจ นับได้ว่าทรงเป็นผู้สร้างคุณประโยชน์ให้เกิดเเก่ชาติบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะทรงเป็นกำลังสำคัญพระองค์หนึ่งของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการรักษาดินแดนพระราชอาณาเขตของไทยทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในสมัยที่ประเทศมหาอำนาจในยุโรปกำลังแสวงหาเมืองขึ้นในดินแดนติดต่อกับประเทศไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ฝ่ายใต้ได้ปราบปรามก่อความไม่สงบของพวกฮ่อในมณฑลลาวพวนจนสงบราบคราบ

 

นอกจากนั้น เมื่อทรงดำรงตำแหน่งข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑลฝ่ายเหนือนั้น ได้ทรงจัดราชการทั้งปวงทั้งส่วนปราบปรามข้าศึกศัตรู และการปกครองรักษาพระราชอาณาเขตด้วยพระปรีชาสามารถ และอุตสาหะวิริยะอันแรงกล้าให้ราชการทั้งปวงสำเร็จเป็นคุณประโยชน์แก่ราชการแผ่นดิน และให้ราษฎรได้รับความสุขปราศจากภัยอันตรายโดยทั่วกัน โดยได้ทรงอดทนต่อความตรากตรำลำบากมิได้ท้อถอย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทรงเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งจังหวัดอุดรธานี จากที่ตั้งกองบัญชาการมณฑลลาวพวนที่บ้านหมากแข้ง ในพุทธศักราช 2436 ได้ทรงริเริ่มสร้างบ้านหมากแข้งให้เกิดความเจริญจากหมู่บ้านชนบทจนเป็นเมืองอุดร 

 

ต่อมาได้ยกฐานะเป็นจังหวัด นับเป็นการก่อสร้างรากฐานความเจริญวัฒนาถาวรให้เกิดแก่เมืองอุดรธานีจวบจนปัจจุบัน  พลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ประชวรด้วยโรคอันตะ (ไส้ใหญ่) พิการ และสิ้นพระชมน์ ณ วังตรอกสาเก เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2467 เวลาหกนาฬิกา หลังเที่ยง สิริพระชันษาได้ 68 พรรษา 9 เดือน 20 วัน

 

ขอบคุณ : รายการแฉ