- 08 พ.ย. 2561
ถึงเวลาโกยกันอย่างจริงจังแล้วสำหรับนักลงทุน หลังจากที่ราคาทองปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเดือนตุลาคม 61 ที่ผ่านมา จนนักลงทุนหลายคนถอดใจไม่กล้าซื้อทองมาเก็บไว้กลัวจะขายออกไม่ได้กำไรอย่างที่ควรจนมาถึงเดือนพฤศจิกายน 61 แนวโน้มของราคาทองเริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้นหลังจากวันที่ 7 พฤศจิกายน 61
ถึงเวลาโกยกันอย่างจริงจังแล้วสำหรับนักลงทุน หลังจากที่ราคาทองปรับสูงขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงเดือนตุลาคม 61 ที่ผ่านมา จนนักลงทุนหลายคนถอดใจไม่กล้าซื้อทองมาเก็บไว้กลัวจะขายออกไม่ได้กำไรอย่างที่ควรจนมาถึงเดือนพฤศจิกายน 61 แนวโน้มของราคาทองเริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้นหลังจากวันที่ 7 พฤศจิกายน 61 ราคาทองมีการปรับตัวลดลงถึง 2 ครั้ง ครั้งละ 50 บาท รวม 100 บาทในการปรับลง ถือเป็นสัญญาณบอกให้นักลงทุนรู้ว่าราคาทองในตอนนี้เริ่มกลับมาอยู่ในเกณฑ์จับต้องได้
ล่าสุดราคาทองคำวันที่ 8 พฤศจิกายน 61 เปิดตลาดครั้งที่ 1 เวลา 09:29 น. ทองคำแท่ง รับซื้อ 19,000 บาท ขายออก 19,100 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อ 18,661.96 บาท ขายออก 19,600 บาท โดยทองคำมีการปรับตัวลดลงอีก 100 บาท ถือเป็นจังหวะทองของใครหลายคนในการซื้อมาเก็บไว้ทำกำไร
ราคาทองทุกชนิดตามประกาศสมาคมค้าทองคำ ประจำวันที่ 8 พฤศจิกายน 2561 แบ่งได้ดังนี้
1 .ทองคำแท่ง 96.5% ราคาขาย 19,100.00 ราคาซื้อ 19,000.00
2. ทองรูปพรรณ 96.5% ราคาขาย 19,600.00 ราคาซื้อ 18,661.96
3. ทองรูปพรรณ 99.99% ราคาขาย n/a ราคาซื้อ 19,344.16
4. ทองรูปพรรณ 90% ราคาขาย n/a ราคาซื้อ 16,795.76
5. ทองรูปพรรณ 80% ราคาขาย n/a ราคาซื้อ 14,929.57
6. ทองรูปพรรณ 50% ราคาขาย n/a ราคาซื้อ 8,398.64
7. ทองรูปพรรณ 40% ราคาขาย n/a ราคาซื้อ 6,533.96
ในส่วนของกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ (8-12 ต.ค.) ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มซื้อขายในกรอบ 32.60-33.00 บาทต่อดอลลาร์ หลังเงินบาททดสอบระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 3 เดือน ก่อนจะพลิกกลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐทะยานขึ้น ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1.1 หมื่นล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตร 1.6 หมื่นล้านบาท ขณะที่เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทยปรับตัวขึ้นตามสหรัฐ
โดยสัปดาห์นี้ติดตามปัจจัยสำคัญๆ ต่างประเทศ ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ของสหรัฐ และความตึงเครียดในตลาดพันธบัตรอิตาลี ส่วนปัจจัยในประเทศ ธปท. มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายก่อนสิ้นปีนี้หลังมีสัญญาณย้ำป้องกันความเสี่ยงด้านเสถียรภาพ จากรายงานการประชุมรอบล่าสุดของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธปท.
ทั้งนี้มองว่า หากทิศทางเงินบาทยังอ่อนค่าบริเวณ 33 บาทต่อดอลลาร์หรืออ่อนค่ามากกว่านั้น ประกอบกับทองคำ Gold spot ยังเคลื่อนไหวตามกรอบทางเทคนิค 1,190-1,205 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จะมีโอกาสเห็นทองคำในประเทศมีโอกาสปรับตัวขึ้นแตะระดับ 18,850-18,900 บาท ก็เป็นได้
หากเปรียบเทียบราคาทองคำในปี 61 นั้น ตั้งแต่เดือน มกราคม - เดือนพฤศจิกายน จะเห็นได้ว่าราคาทองตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน มีการปรับเพิ่มของราคาทองคำตั้งแต่เปิดเดือนมา 4 ครั้งลดครั้งละ 50 บาท รวมแล้วได้ 200 บาท จากที่ราคาปรับขึ้นถี่ๆ ในเดือนตุลาคม 2561 อย่างต่อเนื่องจนจบเดือนปรับขึ้นกว่า + 850 บาท ถือเป็นเดือนที่ปรับขึ้นสูงสุดตั้งแต่เดือนมกราคม 61 และหากย้อนกลับไป 7 ปี ก่อนหน้าปี 2561 จะเห็นได้ชัดว่ามีอัตราการปรับขึ้นของทองคำตลอดทั้งปีดังนี้
1. ปี 2555 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ +1,150 บาท เห็นได้ว่าถือเป็นปีที่ราคาทองคำนั้นปรับขึ้น โดยเฉพาะเดือนมกราคม ที่ปรับขึ้น 1,900 บาท อาจมีลดลงบางในเดือนมีนาคม ที่ 1,250 บาท จนจบตลอดทั้งปีที่การปรับขึ้น 1,150 บาท
2. ปี 2556 ปรับลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -5,300 บาท ในปี 2556 เป็นปีของการปรับตัวลงของราคาทองคำ สูงสูดใน 7 ปีนี้
3. ปี 2557 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -400 บาท ถือว่ายังคงที่ในการปรับลดลง ในแต่ละเดือน แต่จะปรับขึ้นในเดือน กุมภาพันธ์ มากที่ 1,050 บาท จากนั้นจึงค่อยๆ ลดลงตามลำดับ
4. ปี 2558 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -300 บาท ปี 2558 นั้น ยังเป็นปีที่คงที่ของราคาทองปรับขึ้นไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
5. ปี 2559 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ +1,450 บาท เป็นปีที่มีการปรับราคาทองขึ้นมากที่สุดอีกปีหนึ่ง โดยจะปรับขึ้นมากที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ ถึง 1,900 บาท
6. ปี 2560 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ + 350 บาท ราคาทองที่ปรับขึ้นในปีนี้ยังอยู่ในขั้นทรงตัว ไม่ขึ้นมากและไม่ลงมาก โดยเดือนสิงหาคม ปรับขยับขึ้นที่ 550 บาท ถือว่าสูงสุดในปี 2560
7. ปี 2561 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -1,000 บาท ยังต้องจับตามองกันอยู่ตลอดกับราคาทองคำผันผวนตลอดทั้งปี 2561 ซึ่งในเดือนพฤศจิกายน 2561 มีการปรับลดราคาทอง ในวันที่ 7 พฤศจิกายน 61 อย่างต่อเนื่องถึง 2 ครั้ง และวันที่ 8 พฤศจิกายน 61 อีก 100 บาท รวมทั้งหมด 500 บาท ตั้งแต่เริ่มเดือนพฤศจิกายน 61 มา หลังจากมีการปรับเพิ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ถึงกว่า 850 บาท โดยบวกเพิ่ม อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม จนเริ่มมาคึกคักในเดือนพฤศจิกายน 2561 นี้
ทั้งนี้เราขอฝากหลักเกร็ดความรู้ 5 ข้อง่ายๆ ในการซื้อทองที่ได้คุณภาพ มีเปอร์เซ็นต์ทองที่ตรงตามสินค้าอย่างที่ สคบ. แนะนำไว้ ดังนี้
1. ร้านทองต้องแสดงราคาขายทองแท่งและทองรูปพรรณของแต่ละวันชัดเจน มีการแสดงราคารับซื้อคืน และมีการแสดงค่ากำเหน็จ ซึ่งค่ากำเหน็จอาจจะไม่ได้ติดที่หน้าร้าน แต่ติดอยู่ในถาด
2. มีป้ายบอกประเภทสินค้าชัดเจนว่าเป็นสร้อย แหวน กำไล
3. มีการระบุชัดเจนว่า มีเปอร์เซ็นต์ทองเท่าไร เช่น 96.5% หรือ 99.99% เป็นต้น
4. ที่เนื้อทองคำทุกชิ้นจะต้องมีโลโก้ของโรงงานผู้ผลิต
5. ต้องระบุน้ำหนักของทองแต่ละชิ้นให้ชัดเจน
ซึ่งหากผู้ซื้อทองคำท่านใดเห็นว่า ร้านค้าแห่งใดไม่แสดงฉลากตามที่กำหนดให้ครบทุกอย่างขอให้แจ้งมาที่สายด่วน สคบ.โทร. 1166 โดยร้านทองนั้นจะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท ซึ่งสคบ.จะเอาจริงไม่มีการเตือนเช่นที่ผ่านมา เพราะหมดเวลาการเตือนแล้ว
ขอขอบคุณ ทองคําราคา