อุตุฯเตือนอีกใต้หลายพื้นที่ฝนหนัก ปชช.เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน กทม.-ภาคอื่นมีฝน

อุตุฯเตือนใต้หลายพื้นที่ฝนหนัก ปชช.เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน กทม.-ภาคอื่นมีฝน

กรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 14 เรื่องฝนตกหนักถึงหนักมากในบริเวณภาคใต้ มีผลกระทบจนถึงวันที่ 10 พ.ย. 61 ระบุว่า ภาคใต้ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับภาคเหนือ ภาตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ขอให้เกษตรกรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

 

ทั้งนี้ เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามันใกล้กับหมู่เกาะนิโคบาร์ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้

 

อุตุฯเตือนอีกใต้หลายพื้นที่ฝนหนัก ปชช.เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน กทม.-ภาคอื่นมีฝน

 

อุตุฯเตือนอีกใต้หลายพื้นที่ฝนหนัก ปชช.เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน กทม.-ภาคอื่นมีฝน

 

สำหรับ คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามข้อมูลบนเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

อุตุฯเตือนอีกใต้หลายพื้นที่ฝนหนัก ปชช.เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน กทม.-ภาคอื่นมีฝน

 

ส่วน ภาคเหนือทางตอนบนของภาค อากาศเย็น กับมีหมอกในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ทางตอนล่างของภาค มีเมฆเป็นมาก กับมีฝนฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส  สำหรับบริเวณยอดดอยมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และขอนแก่น สำหรับบริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

 

ภาคกลางมีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.ราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

 

อุตุฯเตือนอีกใต้หลายพื้นที่ฝนหนัก ปชช.เตรียมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน กทม.-ภาคอื่นมีฝน

 

ภาคตะวันออกมีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจ.นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร 

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม

 

ขณะที่ ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาฉบับที่ 15 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 ภาคใต้บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับภาคเหนือ ภาตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ขอให้เกษตรกรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร

 

ทั้งนี้ เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมอ่าวเบงกอล ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้

 

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน