- 10 พ.ย. 2561
เรียกว่ายังวางใจไม่ได้กับสภาพอากาศอันแปรปรวนในขณะนี้ เมื่อมีรายงานน้ำท่วมฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ล่าสุด 10 พ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้ง มีชาวบ้านจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ กำลังรอความช่วยเหลือด้านอาหารอย่างเร่งด่วน
เรียกว่ายังวางใจไม่ได้กับสภาพอากาศอันแปรปรวนในขณะนี้ เมื่อมีรายงานน้ำท่วมฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ล่าสุด 10 พ.ย. 2561 เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้ง มีชาวบ้านจำนวนมาก ทั้งเด็กและผู้สูงอายุ กำลังรอความช่วยเหลือด้านอาหารอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอดอาหารมาเป็นเวลานานร่วมหลายชั่วโมง ข้อมูลเพิ่มเติมระบุว่าชาวบ้านในพื้นที่บางคนยืนยันว่า น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่ารุนแรงที่สุดตั้งแต่เกิดมา อย่างไรก็ตามยังคงมีมวลน้ำจำนวนมากไหลเข้าท่วมในหลายเขตอำเภอชุมพร โดยมีเสียงร้องเรียนว่าการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเต็มไปด้วยความล่าช้า และไม่เป็นระบบระเบียบ ซึ่งเมื่อแจ้งความเดือดร้อนไปยังศูนย์รับแจ้งกลับได้รับคำตอบแบบขอไปทีว่า ไม่มีกำลังคนเข้าช่วยเหลือ หรือกระทั่งอุปกรณ์ไม่พอ แต่ยังดีที่มีหน่วยกู้ภัยเอกชนจากนอกพื้นที่ให้การช่วยเหลือบ้างแล้ว อย่างไรก็ตามระดับน้ำบนทางหลวงหมายเลข 4 ยังปริมาณมากขึ้นถึงขั้นวิกฤต สูงถึง 9 เมตร และพบรอยร้าวบริเวณคอสะพาน ส่วนทางคู่ขนาน กม.384-385 รถไม่สามารถผ่านได้ทางแขวงทางหลวงจึงต้องปิดการจราจรเป็นการชั่วคราว ทั้งขาขึ้นและขาล่องลง 14 จังหวัดภาคใต้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
ปกติจะมีการวางหินขนาดใหญ่เรียงกันเป็นแถว เพื่อกั้นไม่ให้น้ำซัดกัดเซาะโดนบริเวณตัวสะพานโดยตรง แต่ด้วยปริมาณน้ำมหาศาลที่ไหลเชี่ยวกรากได้กัดเซาะไปยังสะพานโดยตรง ส่งผลให้สะพานเกิดรอยร้าวขึ้น ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงยังต้องเฝ้าระวัง เพราะเกรงว่าฝนจะยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้วชาวชุมพรต้องประสบปัญหาอุทกภัยเช่นกัน แต่ยังไม่รุนแรงเทียบเท่าครั้งนี้
สอดคล้องกับการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำล่าสุด โดยข้อมูลระบุว่า มีแม่น้ำ 2 สายที่ระดับการเตือนภัยวิกฤต คือ
1. แม่น้ำสวี ภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.ชุมพร อ.สวี ต.นาโพธิ์ ระดับตลิ่ง (ม.รทก) 2.70 ระดับน้ำ (ม.รทก) 2.91
2. แม่น้ำท่าตะเภา ภาคใต้ฝั่งตะวันออก จ.ชุมพร อ.เมืองชุมพร ต.หาดพันไกร ระดับตลิ่ง (ม.รทก) 8.13 ระดับน้ำ (ม.รทก) 10.05
ส่วนเตือนภัยฝน มี 3 พื้นที่ ที่ระดับการเตือนภัยวิกฤต คาดว่าจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง คือ
1. จ.สุราษฎร์ธานี ต.ท่าอุแท
2. จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต.บางสะพาน
3. จ.ปัตตานี ต.มะนังดาลำ
4. จ.ประจวบคีรีขันธ์ ต.ร่อนทอง
ล่าสุด ทางกรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้ง ประกาศฉบับที่ 15 ลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 ระบุว่าภาคใต้บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต ยังคงมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคใต้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับภาคเหนือ ภาตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ ขอให้เกษตรกรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรทั้งนี้เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมอ่าวเบงกอล ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งต่อไปอีก 1 วัน จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามข้อมูลบนเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น ต้องติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด