กรมอุตุฯแจงข่าวลือพายุลูกใหม่ถล่มภาคใต้!

กรมอุตุฯแจงข่าวลือพายุลูกใหม่ถล่มภาคใต้!

เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง ชี้แจง ข่าวลือเรื่อง เตือนภัยพายุที่จะเข้าสู่อ่าวไทย และภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 19-21 พ.ย. 2561

 

กรมอุตุฯแจงข่าวลือพายุลูกใหม่ถล่มภาคใต้!

 

กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

เรื่อง ชี้แจง ข่าวลือเรื่อง เตือนภัยพายุที่จะเข้าสู่อ่าวไทย และภาคใต้

ตามที่ ได้มีการแพร่ข่าวเรื่องเตือนภัยพายุที่จะเข้าสู่อ่าวไทย และภาคใต้นั้น ได้มีการนำแบบจำลองสภาพอากาศจากคอมพิวเตอร์มาคาดการณ์การเกิดพายุหมุนเขตร้อนล่วงหน้า โดยระบุว่า จะมีพายุเกิดขึ้นในบริเวณทะเลจีนใต้แล้วจะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวไทยและภาคใต้ แล้วพายุนี้จะมีความรุนแรงอาจเท่าพายุแฮเรียต ที่เคยเข้าแหลมตะลุมพุกนั้น และมีผลกระทบทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรงและเกิดน้ำท่วม กรมอุตุนิยมวิทยา มีข้อแนะนำแก่ประชาชนและชี้แจงดังนี้ คือ

การเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำในช่วงของฤดูหนาวแถวทะเลจีนใต้ตอนล่างใกล้กับเกาะบอเนียวนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อมีระลอกของอากาศหนาวหรือบริเวณความกาศสูงก่าลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ขยายลงมาปกคลุมประเทศไทย อาจทำให้หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณเกาะบอเนียว ซึ่งอาจจะเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวไทยและภาคใต้ได้โดยเป็นเพียงหย่อมความกดอากาศต่ำหรือพัฒนาเป็นดีเปรสชัน 

แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากระยะเวลาการพยากรณ์นั้นนานมาก แบบจำลองจะมีจุดอ่อน มีความคลาดเคลื่อนและความไม่แน่นอนอยู่มาก และการเกิดพายุหมุนเขตร้อนนั้น ยังต้องอาศัยปัจจัยอื่น ๆ ในการวิเคราะห์อีกมาก เช่น อุณหภูมิผิวน้ำทะเล ความกดอากาศบริเวณศูนย์กลางลมในหลายระดับเพื่อให้มีความถูกต้องมากที่สุด ซึ่งทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้เฝ้าติดตามการเกิดพายุตลอดเวลาไม่ได้นิ่งนอนใจแต่ต้องปฏิบัติงานให้ถูกต้อง บนพื้นฐานหลักวิชาการ และขอให้เชื่อมั่นว่าทางกรมอุตุนิยมวิทยาจะสามารถเตือนภัยได้ทันเหตุการณ์อย่างแน่นอน

จากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 16-17 พ.ย. 61 จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเกิดขึ้นในบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง และมีแนวโน้มว่าจะเคลื่อนผ่านบริเวณปลายแหลมญวนเข้าสู่อ่าวไทย และภาคใต้ในช่วงวันที่ 18-19 พ.ย. 61 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยาและหน่วยงานต่าง ๆ ได้มีการประชุม วิเคราะห์ข้อมูล และติดตามสถานการณ์ร่วมกันอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้นจึงขอให้ประชาชน ติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศและการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยราชการเท่านั้น ในการประกาศแจ้งเตือนจะมีรายละเอียด วันและเวลาที่แน่นอน และขอให้อย่าได้ตื่นตะหนกจากข้อมูลที่ไม่ได้มาจากผู้ทำงานรับผิดชอบโดยตรง หรือการส่งต่อกันตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ และสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วน 1182 และหมายเลขโทรศัพท์ 0 2399 4012-3 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา 

 

กรมอุตุฯแจงข่าวลือพายุลูกใหม่ถล่มภาคใต้!

 

พยากรณ์อากาศระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 - 20 พฤศจิกายน 2561

การคาดหมาย    ในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย. ภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางพื้นที่ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑลมีฝนน้อย สำหรับภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนในช่วงวันที่ 18-20 พ.ย. ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา กับมีลมแรงในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางพื้นที่ สำหรับบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ข้อควรระวัง   ในช่วงวันที่ 14-20 พ.ย. ขอให้ชาวเกษตรกรบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผลผลิตทางการเกษตร เนื่องจากฝนที่จะเกิดขึ้นไว้ด้วย สำหรับในช่วงวันที่ 14-16 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไประวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักและฝนตกสะสมไว้ด้วย 

ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมาระวังอันตรายจากสภาวะฝนที่ตกหนักและฝนตกสะสมไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา      ในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย. มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศมาเลเซียตอนล่าง และมีแนวโน้มจะเคลื่อนไปปกคลุมหัวเกาะสุมาตราในระยะต่อไป ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นกับมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อน ส่งผลให้มีลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ 

ส่วนในช่วงวันที่ 18-20 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่างจะเคลื่อนเข้ามาใกล้ปลายแหลมญวน หลังจากนั้นจะเคลื่อนเข้าปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง

ภาคเหนือ    ในช่วงวันที่ 14-18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. 

ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 6-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ    ในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 18-20 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศากับมีลมแรง สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 10-14 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 20-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง    ในช่วงวันที่ 14-18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก    ในช่วงวันที่ 14-17 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ 

ส่วนในช่วงวันที่ 18-20 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ กับมีลมแรง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)    ในช่วงวันที่ 14-18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่งตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)    ในช่วงวันที่ 14-18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ 

ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40-60 ของพื้นที่กับมีฝนตกหนักบางแห่ง ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล    ในช่วงวันที่ 14-18 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30-40 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

ที่มา กรมอุตุนิยมวิทยา