ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว ติดตามรับใช้ทุกช่ติภพ

จากกรณี หลวงปู่ลี กุสลธโร ลูกศิษย์ของ "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" ได้อาพาธด้วยโรคชรา ต่อมาทางวัดป่าเกษรศีลคุณธรรมเจดีย์ (ภูผาแดง) อำเภอหนองวัวซอ จังหวัดอุดรธานี ได้ออกหนังสือแจ้งมายังลูกศิษย์ของ หลวงปู่ลี และประชาชนทั่วไปว่า หลวงปู่ได้ละสังขารอย่างสงบ ณ ห้องปลอดเชื้อข้างศาลาใหญ่ เมื่อเวลา 15.15 น. รวมสิริอายุ 96 ปี 1 เดือน 11 วัน ซึ่งได้มีการนำเอาพินัยกรรมของหลวงปู่ลี เขียนลงวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 ลงลายมือของหลวงปู่ลี และพยานอีก 3 คน  มาเปิดเผยให้ทราบโดยทั่วกันด้วยนั้น

 

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

“เมื่อหลวงปู่ลีมรณภาพ และมีปัจจัยที่ได้จากการร่วมบริจาคในงานศพ ทั้งหมดให้นำไปเข้าบัญชี ร่วมสร้างเจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าภูผาแดง โดยหลวงปู่ลี กุสลธโร เพื่อใช้จ่ายในการสร้างเจดีย์ฯ ณ วัดป่าภูผาแดง เท่านั้น มอบให้นพ.สุทธิพงษ์ ปิ่นแก้ว (หมออ้วน) และนายทวี หอบันลือกิจ เป็นผู้ดำเนินการรวบรวม นำปัจจัยทั้งหมดเข้าบัญชีโดยเร็วเมื่อเสร็จสิ้นงาน”

 

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

 

 

 

 

ทั้งนี้พิธีเก็บอัฐิ (พิธีสามหาบ) ณ เมรุชั่วคราว ทำขึ้นในวันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2561 เวลา 05.00 น. จะมีพิธีอัญเชิญอัฐิองค์หลวงปู่มายังศาลาเป็นที่ประดิษฐาน เวลา 06.30 น. พระสงฆ์ออกรับบิณฑบาตภายในบริเวณวัด เวลา 07.00 น. ถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ เวลา 09.00 น. พระสงฆ์ 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ฉลองอัฐิ เป็นเสร็จพิธี ทั้งนี้ได้มีการเชิญศิษยานุศิษย์ พุทธศาสนิกชนทั่วไป เข้าร่วมในพิธีตามเวลาดังกล่าว

 

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

 

โดยเฟซบุ๊กวัดป่าบ้านตาด ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า อัฐิหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดผาแดง ภายหลังจากที่ศิษยานุศิษย์ได้เชิญลงมาจากเมรุ บรรจุในผอบอย่างสวยงามเป็นที่เรียบร้อย

 

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

 

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

 

สำหรับหลวงปู่ลีเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2493 ขณะอายุ 29 ปี ที่วัดศรีโพนเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สกลนคร มีพระธรรม เจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายานามว่า “กุสลธโร” แปลว่า “พระผู้ทรงไว้ซึ่งความฉลาด” ซึ่งวันที่ท่านอุปสมบทนั้น เป็นวันถวายเพลิงศพหลวงปู่ มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า ที่วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร

 

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

 

ในพรรษาแรก ศึกษาพระธรรมวินัย และการปฏิบัติจิตตภาวนาอยู่กับหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม และหลวงปู่มหาปิ่น ปัญญาพโล ที่วัดป่าทรงคุณ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ต่อมา เข้ากราบนมัสการและขอมอบกายถวายชีวิตติดตามอยู่ศึกษาอบรมกับหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ตลอดมา รวมทั้งทำหน้าที่ในการดูแลอุปัฏฐากขณะที่หลวงตามหาบัว อาพาธ และอยู่ดูแลจนละสังขาร

 

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

 

ล่าสุดผู้ใช้ฟซบุ๊กชื่อว่า นันท์สกร นพรัตน์วิมล  ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพถึงการเคลื่อนย้ายเชิงตะกอนถวายเพลิงองค์หลวงปูลี โดยระบุว่า

 

#วันนี้ คณะศิษยานุศิษย์ ได้เคลื่อนย้ายเชิงตะกอนถวายเพลิงองค์หลวงปู่ลี กุสลธโร ไปประดิษฐานเป็นการถาวร ที่ศาลาทรงสูง ด้านหน้า พุทธมหาเจดีย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

 

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

 

#ทุกชาติภพขององค์หลวงปู่ลี กุสลธโร คือการติดตามและรับใช้พ่อแม่ครูอาจารย์องค์หลวงตามหาบัว

 

องค์หลวงปู่ลีท่านเล่าว่า อดีตชาติท่านเกิดเป็นสุนัขรับใช้องค์หลวงตามาหลายภพชาติ แม้ในภพชาติที่เป็นสุนัข นั้น หลวงตาก็ได้เมตตาอบรมสั่งสอน ดัดนิสัยจนเป็นสุนัขที่มีนิสัยดี ไม่เกเร นอกจากนั้น ท่านยังเคยเกิดเป็นช้าง ท่านระลึกชาติในภพที่เกิดเป็นช้างว่า ท่านเป็นช้างชื่อว่า “คำต้น” เจ้าของช้างชื่อพ่อส่วน เขามีลูกสาว ๒ คน ชื่ออีหวัน และอีพัน ถูกเขาใช้ลากซุงเสมอ ส่วนนายควาญช้างชื่อว่า “บักคำต้น” เหมือนกับชื่อของท่าน ท่านระลึกย้อนในภพชาติหลังๆ ของท่านมักเกี่ยวข้องกับหลวงตาเสมอ

 

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

 

ศิษย์เคลื่อนเชิงตะกอนถวายเพลิงหลวงปู่ลีประดิษฐานถาวรพุทธมหาเจดีย์หลวงตาบัว

 

 

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : นันท์สกร นพรัตน์วิมล