ถึงเวลาเสียสละ(อีกครั้ง)... โปรไฟล์ไม่ธรรมดา "มาดามเดียร์" จากผจก.ทีมช้างศึกU23 สู่สนามการเมือง "พรรคพลังประชารัฐ"

 

หลังจาก คสช. ประกาศ "คลายล็อคพรรคการเมือง" เพียงพอที่จะทำให้คนการเมืองทั้งหลายกระดิกกระเดี้ยหายใจหายคอ หลังต้องเผชิญความอัดอั้นที่กำซาบมาเป็นเวลานาน เหล่าพรรคการเมืองต่างระดมสรรพกำลังงัดไม้เด็ดไพ่ตายสรรหา "อุดมการณ์" และ "แนวทาง" พรรค หวังให้ถูกตาต้องใจประชาชน ก่อนที่จะเข้าสู่ "สนามเลือกตั้ง" ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า บรรยากาศในช่วงเวลานี้จึงเต็มไปด้วยความคึกคักยิ่ง
 
แต่ที่น่าจับตามองขณะนี้เห็นจะไม่พ้น "พรรคพลังประชารัฐ" ภายหลังเปิดรับสมัครสมาชิกเพียงไม่กี่วัน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี มีทั้งคน "หน้าเก่า" และ "หน้าใหม่" ไม่ว่าจะเป็น อดีต ส.ส.จากเกือบทุกพรรคการเมืองเก่า รวมถึงบุคคลสาธารณะมากหน้าหลายตา อาทิ ทนายสงกานต์ สมญา "เปาบุ้นจิ้นเมืองไทย" หรือ บ๊วย เชษฐวุฒิ ที่ต่างตบเท้าร่วมขอสมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพรรคฯ 

 

 

 

 

ล่าสุด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคฯ ได้ให้การต้อนรับ นางวทันยา วงษ์โอภาสี หรือ ที่คุ้นเคยกันในชื่อ "มาดามเดียร์" อดีตผู้จัดการทีมชาติไทยชุดเล็ก ซึ่งทางเจ้าตัวได้เผยความรู้สึกหลังตัดสินใจซบอกพรรคฯ ความว่า ตนนั้นเป็นคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลเทคโนโลยีดิจิตอล มีโอกาสทำงานเกี่ยวกับการกีฬา และมีความชำนาญในด้านบริหารจัดการ สามารถนำความรู้ความสามารถของตนไปปรับใช้ได้ในทุกบริบท ส่วนเหตุผลที่เลือกสมัครพรรคฯ นั้น เพราะเห้นว่า ทางพรรคฯมีบุคลากรมีความรู้ ความสามารถพร้อมทิ้งท้ายว่า จะเป็นแรงสนับสนุนที่ดีในการสร้างประสบการณ์ทางการเมืองให้ได้

 
มาดามเดียร์ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษและวรรณคดีภาษาอังกฤษ เริ่มมีโอกาสคลุกคลีกับกีฬาด้วยการเป็น เชียร์ลีดเดอร์ งานฟุตบอลประเพณีจุฬา-ธรรมศาสตร์ รุ่น 61 ชีวิตในวัยทำงานเริ่มต้นที่วงการโบรกเกอร์เป็นเวลา 2 ปี ก่อนที่จะหันหน้าเข้าสู่งานด้านมีเดียร์ ฝ่ายผลิตรายการโทรทัศน์ ต่อมาในปี 2559 ได้เกิดปรากฏการณ์ที่สร้างแรงกระเพื่อมในวงการลูกหนัง เมื่อ มาดามเดียร์ ได้รับการทาบทามจาก พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย แต่งตั้งให้ทำหน้าที่รับใช้ชาติในตำแหน่ง ผู้จัดการทีมช้างศึกรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี

 

 

 

ผลงานของทีมช้างศึกภายใต้การบริหารของ มาดามเดียร์ ก็เป็นที่ประจักษ์ชัด ทั้งการคว้าแชมป์ฟุตบอล 4 เส้า เนชั่นส์ คัพ ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี 2559 รวมถึงแชมป์ดูไบคัพ และล่าสุดกับการพาทีมคว้าแชมป์ ซีเกมส์ หนที่ 29 มาครองหมาดๆเมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามนับเป็นเรื่องน่าเสียดายอยู่ไม่น้อยที่ มาดามเดียร์ ขอยุติบทบาทของตัวเอง เพื่อให้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เดินหน้าทำงานตามนโยบายต่อไป อย่างไรก็ตามอดีตผู้จัดการทีมได้กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาทำหน้าที่ รู้สึกผูกพันกับนักเตะในทีมที่เคยร่วมทุกข์สุขกันมา แต่ก็เข้าใจนโยบายของทางสมาคมฯที่จำต้องคำนึงถึงการพัฒนาองค์กรเป็นหลัก 
 
วันนี้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ มาดามเดียร์ อีกครั้ง ว่างานด้านการเมืองของเธอจะประสบความสำเร็จเฉกเช่นการกีฬาหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้เธอเคยยืนยันว่าไม่เคยคิดจะเลือกเดินถนนสายการเมือง แต่หลังจากที่มีผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือได้ให้มุมมองการเมืองว่า ที่ผ่านมาตนเป็นเพียงคนทำงานในฐานะสื่อเป็นเพียงคนนั่งมอง ทำไมไม่เปลี่ยนมาเป็นคนที่ "ลงมือทำ" คำพูดดังกล่าวคล้ายว่าจะเป็นการเปิดโลกทัศน์ จึงตัดสินใจว่าควรจะลงมือด้วยตัวเองเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม ส่วนเรื่องการสมัคร ส.ส. นั้นต้องหารือกับผู้อาวุโสในพรรคฯ เสียก่อน เพื่อพิจารณาตามความเหมาะสม และยืนยันว่าเมื่อตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมืองแล้ว จะขอยึดถือเอาผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญที่สุด