- 21 พ.ย. 2561
หนุ่มใจป้ำประกาศวันเกิดยกหนี้ให้ทุกคนที่เป็นหนี้ เหตุผลฟังดูดีมิตรภาพหายากกว่าเงินทอง
กลายเป็นเรื่องที่ทำให้โซเชียลได้ฮืฮากันอีกแล้ว หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ratthabhum Wanlikun ซึ่งได้โพสต์ภาพการใช้ชีวิตหรูหรา สะดวกสบาย ชีวิตดีๆและฉลองวันเกิดอย่างอบอุ่นกับกลุ่มเพื่อนๆ ในย่านใจกลางจัตุรัสไทม์สแควร์ ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พร้อมประกาศข่าวดียกหนี้ให้กับลูกหนี้ของตัวเองทุกคน โดยเขาให้เหตุผลว่าเงินจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ความเป็นเพื่อนหายากกว่า เงินไม่ใช่ส่วนสำคัญในชีวิตผม เพื่อนต่างหากที่สำคัญ เจอกันทักทายได้ตามปกตินะครับเรื่องเงินผมยกให้หมดเลย ถือว่าช่วยเพื่อนในยามลำบากแล้วกันนะครับ เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้กับตัวเอง
โดยชายคนดังกล่าวได้โพสต์ภาพ และระบุข้อความในเฟซบุ๊กว่า "เนื่องในวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของผม ผมจะขอยก หนี้ ให้ทุกคนที่เป็น หนี้ ผมนะครับ เงินทองหาไม่ยาก หาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เพื่อนและมิตรภาพหายากกว่า ดังนั้นเรื่องเงินทองไม่ได้สำคัญมากกับชีวิตผม แต่เพื่อนฝูงและมิตรภาพต่างหากที่สำคัญมากกว่า เจอกันก็ทักทายตามปกติห้ามหลบหน้านะครับ เรื่องหนี้สิน ผมจะถือว่าช่วยเหลือเพื่อนเมื่อเพื่อนลำบาก นะครับ Happy Birthday to Me"
(เปย์เก่ง)
หลังจากเขาได้ประกาศยกหนี้ดังกล่าวให้เพื่อนๆและลูกหนี้ของเขาแล้ว เขาได้โพสต์ข้อความขอบคุณเพื่อนๆทุกคนมากๆ ที่มาเซอไพร์เขาในวันนี้ โดยระบุข้อความว่า "ขอบคุณทุกๆคนมากๆนะครับ มาเซอร์ไพร์เช่าลีมูซีน พาไปเป่าเค้ก กลาง time square ประทับใจมากๆครับ รักทุกๆคนนะครับ น้องจากซานฟรานก็บินมาด้วย น่ารักที่สุด"
(เพื่อนๆ)
(ลีมูซีนไปอีก)
(เพื่อนๆน่ารัก)
ทั้งนี้ เมื่อโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ส่วนใหญ่ชื่นชมและบอกว่าอยากเป็นเพื่อนกับชายคนดังกล่าวบ้าง บ้างก็แท็กเพื่อนที่ติดหนี้ไว้ และคอมเม้นต์กันต่างๆนาๆ
(คอมเม้นต์แสดงความคิดเห็น)
(คอมเม้นต์แสดงความคิดเห็น)
(คอมเม้นต์แสดงความคิดเห็น)
ไม่ว่าจะเป็น ผมอยากเป็นเพื่อนพี่จังครับ จำเราได้มั้ย? บ้างก็บอกว่าคนแรกของโลกเลยเนี้ย ทำเอาชาวเน็ตฮือฮากันเป็นจำนวนมาก กับการยกหนี้ให้ลูกหนี้ในวันเกิดของชายคนดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พบว่ามีชาวเน็ตบางรายตาไวเข้ามาแซว เพราะสังเกตไปที่รองเท้าของชายคนดังกล่าวค่อนข้างเก่าและควรซื้อใหม่ ตาไวไปมั้ย? เอาเป็นว่าชาวเน็ตก็เข้าไปแซวเล่นๆน๊า
(คอมเม้นต์แสดงความคิดเห็น)
(คอมเม้นต์แสดงความคิดเห็น)
ขอบคุณ Ratthabhum Wanlikun