กว่าจะเป็น "พิศาล อัครเศรณี" จากอดีตเคยยกพวกตี "แดง ไบเล่" สิ้นตำนานพระเอกตบจูบ

    ถือเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียของวงการบันเทิงที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัว อัครเศรณี ที่สูญเสียเสาหลัก อาเปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี ไปอย่างไม่มีวันกลับหลังเวลาประมาณ 5 ทุ่ม อาเปี๊ยก เกิดอาการหายใจไม่ออกขณะนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลจากอาการปวดหลัง จนภรรยาและลูกๆ ต้องเร่งตามแพทย์ด่วน

    ถือเป็นอีกหนึ่งความสูญเสียของวงการบันเทิงที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัว อัครเศรณี ที่สูญเสียเสาหลัก อาเปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี ไปอย่างไม่มีวันกลับหลังเวลาประมาณ 5 ทุ่ม อาเปี๊ยก เกิดอาการหายใจไม่ออกขณะนอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลจากอาการปวดหลัง จนภรรยาและลูกๆ ต้องเร่งตามแพทย์ด่วน ซึ่งทางทีมแพทย์ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงครึ่งในการยื้อชีวิตอาเปี๊ยก จนถึงเวลาตี 2 กว่าๆ ของวันที่ 4 ธ.ค. 2561  อาเปี๊ยกก็จากไปอย่างสงบด้วยวัย 73 ปี ด้วยภาวะหัวใจวาย ปิดตำนานพระเอกเจ้าของฉายาตบจูบ ตลอดกาล 

 

อ่านข่าว ปิดตำนานตำรับตบจูบ! พิศาล อัครเศรณี สิ้นแล้วด้วยวัย73ปีหัวใจวาย 

 

กว่าจะเป็น "พิศาล อัครเศรณี" จากอดีตเคยยกพวกตี "แดง ไบเล่" สิ้นตำนานพระเอกตบจูบ

 

             โดยครอบครัวอาเปี๊ยก ได้ออกมาเผยถึงอาการก่อนหน้าว่า อาเปี๊ยกบ่นกับภรรยาว่ามีอาการปวดหลัง จนทางครอบครัวต้องพาไปตรวจยังโรงพยาบาล แม้แพทย์จะฉีดยาให้อาเปี๊ยก แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ครอบครัวจึงนำส่งโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ที่รักษาโรคหัวใจของอาเปี๊ยกอยู่แล้ว แต่เมื่อแพทย์เอกซเรย์ก็ไม่พบอะไรและดูเหมือนอาการปวดหลังจะรุนแรงขึ้นกว่าเดิมจนแพทย์ต้องจ่ายยาแก้ปวดให้ทาน ซึ่งก่อนแอดมิดในห้องพักฟื้น อาการของอาเปี๊ยก ยังทรงตัวอยู่ จนในช่วงค่ำของวันที่ 3 ธ.ค. 2561 อาเปี๊ยกเกิดอาการหายใจไม่ออก จนครอบครัวต้องตามแพทย์ด่วนและทีมแพทย์ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง ในการยื้อชีวิตอาเปี๊ยก แต่ก็ไม่เป็นผล โดยทางครอบครัวอัครเศรณี ได้ประสานวัดมกุฎฯ เพื่อนำร่างอาเปี๊ยกไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

 

อ่านข่าว : ครอบครัวเล่าก่อนเสียชีวิต "เปี๊ยก พิศาล" บ่นปวดหลังก่อนน็อค 

       ทั้งนี้ พิศาล อัครเศรณี หรืออาเปี๊ยก เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2488  ป็นผู้กำกับ นักแสดง โฆษก มีผลงานภาพยนตร์ไทยสร้างชื่ออย่าง “เพลงสุดท้าย” เป็นผู้ที่ได้รับฉายาว่า "พระเอกซาดิสต์" หรือ "ผู้กำกับซาดิสต์" เนื่องจากมักได้รับบทหรือกำกับละครหรือภาพยนตร์ที่พระเอกมักจะทำร้ายนางเอกด้วยการตบตี แต่ลงท้ายด้วยการจูบหรือแสดงความรัก ทำให้นางเอกใจอ่อนทุกที

กว่าจะเป็น "พิศาล อัครเศรณี" จากอดีตเคยยกพวกตี "แดง ไบเล่" สิ้นตำนานพระเอกตบจูบ

 

โดย อาเปี๊ยก  มีชื่อเดิมว่า เจริญพาสน์  มารดาชื่อเชอรี่ อัครเศรณี ส่วนบิดามีเชื้อสายมอญ  อาเปี๊ยก เป็นน้องชายของกิตติ อัครเศรณี อดีตผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชื่อดัง จบการศึกษาระดับมัธยมที่โรงเรียนวัดบวรนิเวศโดยในขณะที่ศึกษาวัดบวรก็ได้รู้จักกับ แดง ไบเล่ และเคยยกพวกตีแถวสิบสามห้าง การศึกษาจบด้านการแสดงที่โรงเรียนกำกับการแสดง แผนกวิทยุโทรทัศน์ วอชิงตัน ดี.ซี.   

กว่าจะเป็น "พิศาล อัครเศรณี" จากอดีตเคยยกพวกตี "แดง ไบเล่" สิ้นตำนานพระเอกตบจูบ

            อาเปี๊ยก เริ่มทำงานที่สำนักข่าวสารอเมริกัน ก่อนจะเข้าไปคลุกคลีกับ งานทั้งวิทยุ-โทรทัศน์ อาทิ วิทยุของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ยังเคยเป็นโฆษกที่ช่อง 3 รวมทั้งเป็นนักแสดงอีกด้วย เริ่มงานกำกับการแสดงครั้งแรกในละครเรื่อง “สกาวเดือน” ออกอากาศทางช่อง 9 ส่วนการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกคือ “ฟ้าหลังฝน”
 

กว่าจะเป็น "พิศาล อัครเศรณี" จากอดีตเคยยกพวกตี "แดง ไบเล่" สิ้นตำนานพระเอกตบจูบ

 

   มีผลงานกำกับละครวิทยุกว่า 70 เรื่อง ละครโทรทัศน์กว่า 100 เรื่อง ภาพยนตร์กว่า 40 เรื่อง อาทิ มหาราชดำ, มนต์รักอสูร, รักประกาศิต, ละอองดาว, นางแมวป่า, ค่าของคน,พายุอารมณ์, ไฟรักอสูร, เลือดทมิฬ, อุ้งมือมาร และเพลงสุดท้าย ในปี พ.ศ. 2544 ได้รับการติดต่อจากกร ทัพพะรังสี หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ให้กำกับภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์เรื่อ “ย่าโม” หรือท้าวสุรนารี แต่ยังไม่ทันสร้างก็ถูก วิจารณ์-กระแสต่อต้านจากประเทศลาวว่าภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-ลาว

กว่าจะเป็น "พิศาล อัครเศรณี" จากอดีตเคยยกพวกตี "แดง ไบเล่" สิ้นตำนานพระเอกตบจูบ

 

           สำหรับ อาเปี๊ยก สมรสกับ นางสุดารักษ์ มีบุตร 4 คน ในจำนวนนี้ลูกชายเป็นผู้กำกับชื่อว่า อัครพล อัครเศรณี หรือ โอ และนักแสดงหญิงชื่อดัง คือ พิยดา จุฑารัตนกุล หรือ อ้อม และหากจำได้ เมื่อวันที่  26 ธันวาคม 2557 อาเปี๊ยก เข้าพิธีอุปสมบทแบบมอญผสมไทย ณ วัดทรงธรรมวรวิหาร อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ โดยอาเปี๊ยก กล่าวในการบวชครั้งนั้นว่าตนตั้งใจบวชเพื่อทดแทนคุณมารดา เพราะท่านอายุ 96 ปีแล้วนอกจากนี้ยังเป็นการบวชเพื่อให้ภรรยาที่เข้ารับการผ่าตัดมะเร็งที่ปอด สามารถอยู่รอดปลอดภัย และที่ตัดสินใจบวชช่วงนี้ เพราะเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมและได้เคลียร์คิวงานไว้แล้วในตอนนั้น

 

กว่าจะเป็น "พิศาล อัครเศรณี" จากอดีตเคยยกพวกตี "แดง ไบเล่" สิ้นตำนานพระเอกตบจูบ

 

           อย่างไรก็ตามทางสำนักข่าวทีนิวส์ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอัครเศรณี ด้วยค่ะ