กสทช. ดัน 5 เป้าหมายสู่ฝั่งฝัน แก้ไขปัญหาทีวีดิจิทัล เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 5G เร็วที่สุด

 นับว่าเป็นช่วงขาลงของวงการทีวีดิจิทัลอย่างแท้จริงหลังเมื่อไม่นานนี้ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีปัญหาในวงการอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างหนักหน่วงในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้นายฐากร ยอมรับว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการประมูลทีวีดิจิทัลเมื่อ 5 ปี ก่อน

   นับว่าเป็นช่วงขาลงของวงการทีวีดิจิทัลอย่างแท้จริงหลังเมื่อไม่นานนี้ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีปัญหาในวงการอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลที่เกิดขึ้นอย่างหนักหน่วงในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้นายฐากร ยอมรับว่าปัญหาส่วนหนึ่งมาจากการประมูลทีวีดิจิทัลเมื่อ 5 ปี ก่อน โดยยอมรับว่าการประเมินสภาพอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลในตอนนั้น ยังไม่ตรงกับการแข่งขันในตลาดปัจจุบันที่มีการแข่งขันกันอย่างหนักหน่วง ประกอบกับสื่ออินเทอร์เน็ตที่เข้ามาแทนที่ในการเข้าถึงได้ง่ายกว่าทีวีดิจิทัล เพราะประชาชนส่วนใหญ่ชอบใช้สื่อโซเชียลมีเดียเนื่องจากมีเนื้อหาที่เปิดกว้างหลากหลาย ทำให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล หลายช่องแบกภาระไม่ไหว ต้องโบกมีลากันไปหลายช่องหรือไม่ก็ปลดพนักงานออกเพื่อรักษาค่าใช้จ่ายให้อยู่ในเกณฑ์ที่รับไหว

 

กสทช. ดัน 5 เป้าหมายสู่ฝั่งฝัน แก้ไขปัญหาทีวีดิจิทัล เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 5G เร็วที่สุด

 

       ซึ่งในปี 2562 ที่กำลังจะก้าวเข้ามานี้ทาง  นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. มุ่งหวังว่าจะหาทางแก้ไขปัญหาทีวีดิจิทัลได้ในระยะยาว ทั้งนี้ทาง กสทช. มีแนวคิดอยู่ 5 ข้อ ที่คาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดโดยหนึ่งในนั้น  คือ สนับสนุนนโยบายรัฐบาลเพื่อช่วยขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 5G เร็วที่สุด ซึ่ง 5 ข้อ ประกอบด้วย 

1.สนับสนุนนโยบายเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 5G เร็วที่สุด โดยจะดำเนินการดังนี้

1.1ทบทวนการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ (Set Zero โทรคมนาคม) ที่สะท้อนความต้องการคลื่นความถี่ที่สมเหตุสมผลเหมาะสมกับบริบทอุตสาหกรรม และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล

1.2 ทบทวนเงื่อนไขและระยะเวลาการชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ (Term of payment) ของคลื่นที่ประมูลไปแล้ว และที่จะนำมาประมูลใหม่ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการลงทุนสำหรับภาคเอกชนในการพัฒนาระบบโครงข่ายและนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล

 

กสทช. ดัน 5 เป้าหมายสู่ฝั่งฝัน แก้ไขปัญหาทีวีดิจิทัล เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 5G เร็วที่สุด

 

1.3 ดำเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ที่จะใช้งานคลื่นความถี่ 5G ใหม่เพิ่มเติมให้เหมาะสมกับรูปแบบการประกอบธุรกิจในยุค 5G โดยแบ่งวิธีการอนุญาตเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ ใบอนุญาตที่ใช้งานครอบคลุมการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ (Nation Wide) และใบอนุญาตแบบที่ครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่กำหนด (Specific Area) เช่น ในเขตพื้นที่ภาคการผลิตและอุตสาหกรรม เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบการประกอบธุรกิจในยุค 5G

1.4 กำหนดหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่หลายย่านพร้อมกัน (Multiband) ในการต่อยอดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ (คลื่นความถี่ย่าน 700 MHz/ 2.6 GHz, 3.5 GHz/ 26GHz, 28 GHz)

1.5 ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ทดลองทดสอบ 5G ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนในการที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีดังกล่าว รวมทั้งการเรียกคืนคลื่นความถี่ฯ ตามประกาศซึ่งได้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2561 สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการตามประกาศดังกล่าว และจะตั้งคณะทำงานดำเนินการตามประกาศดังกล่าวตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2561 โดยมีเป้าหมายในการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2.6 GHz เป็นลำดับแรก

2. แก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอลในระยะยาว โดยประกอบด้วย 4 แนวทาง ดังนี้

2.1 เร่งรัดปรับปรุงการใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz เพื่อนำไปใช้ประกอบกิจการโทรคมนาคมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับปรุงคลื่นความถี่ดังกล่าว ซึ่งได้แก่ ผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล และผู้ให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลอย่างเป็นธรรม

2.2 สนับสนุนการดำเนินการของผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลในส่วนของค่าภาระอันเกิดจากการปฏิบัติตามประกาศ Must Carry จนถึงปี 2565

2.3 สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการออกอากาศผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิตอล (MUX) เพื่อสนับสนุนผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิตอลร้อยละ 50 ของค่าเช่าโครงข่ายจนถึงปี 2565

2.4 สนับสนุนให้มีการสำรวจความนิยม (Rating) ของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิตอลที่ออกอากาศผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อสามารถนำเอาข้อมูลการสำรวจความนิยมรายการดังกล่าวไปใช้อ้างอิงเพื่อหารายได้อย่างเป็นธรรม

 

กสทช. ดัน 5 เป้าหมายสู่ฝั่งฝัน แก้ไขปัญหาทีวีดิจิทัล เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 5G เร็วที่สุด

 

3. จัดทำแผนและหลักเกณฑ์การอนุญาตสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม เพื่อรองรับมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่บัญญัติไว้ว่า “รัฐต้องรักษาไว้ซึ่งคลื่นความถี่และสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมอันเป็นสมบัติของชาติเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน” ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการแก้ไขพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ พ.ศ. … ที่จะกำหนดให้ กสทช. เป็นผู้มีอำนาจในการกำกับดูแลเกี่ยวกับวงโคจรดาวเทียมทั้งหมด

4. เร่งรัดและร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ สตช. ในการนำเลขหมายโทรศัพท์ 191 มาใช้เป็นเลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติหมายเลขเดียว (National Single Emergency Number) ซึ่งในกรณีที่เกิดเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่จะสามารถทราบตำแหน่งที่ตั้ง และสถานการณ์ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากมีการบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งเชื่อมต่อกับกล้อง CCTV ที่ติดตั้งอยู่ทั่วประเทศ ทำให้สามารถระงับและจัดการกับเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และทันเหตุการณ์ ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

กสทช. ดัน 5 เป้าหมายสู่ฝั่งฝัน แก้ไขปัญหาทีวีดิจิทัล เร่งขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 5G เร็วที่สุด

 

5. เร่งรัด สนับสนุน และร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ

      อาทิ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกระทรวงดีอี ในการดำเนินการระงับการเผยแพร่เนื้อหาบนสื่อออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย

      นอกจากนี้เรตติ้งของทีวีดิจิทัล ที่ออกอากาศผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตยังสามารถนำเอาเรตติ้งดังกล่าวไปใช้อ้างอิงเพื่อหารายได้ พร้อมกันนี้ทาง กสทช. ยังมองว่าปัญหาของ ทีวีดิจิทัล เกิดจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและราคาประมูลที่สูง บวกกับต้นทุนจากการผลิตคอนเทนต์ ซึ่งทาง กสทช. พยายามจะช่วยให้ทีวีดิจิทัลเดินหน้าต่อไปได้ เพราะปัจจุบันทีวีดิจิทัล เหลือชำระค่าใบอนุญาตเพียงร้อยละ  30  

      ส่วนแนวคิดนอกเหนือจาก 5 ข้อที่ทางกสทช. ตั้งใจทำยังมีแผนช่วยเหลืออื่นๆ อีกมากได้แก่ การจัดทำแผนและหลักเกณฑ์การอนุญาตสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม เพื่อรองรับมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เร่งรัดและร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการนำเลขหมายโทรศัพท์ 191 มาใช้เป็นเลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติหมายเลขเดียว และ เร่งรัด สนับสนุน และร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการระงับการเผยแพร่เนื้อหาบนสื่อออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย