"ไม่ทันไร-ก็ซัดกันเละ"! พท.วาดแข้ง-วางมวยแย่งลง ส.ส.เขต อีกหนึ่งรอยร้าว-พฤติการณ์ดิบฝ่าย ปชต.ที่ "นายใหญ่" ยังกุมขมับ 

"ไม่ทันไร-ก็ซัดกันเละ"! พท.วาดแข้ง-วางมวยแย่งลง ส.ส.อีกหนึ่งรอยร้าว-พฤติการณ์ดิบฝ่าย ปชต.ที่ "นายใหญ่" ยังกุมขมับ 


"ยังไม่ทันไร-ก็ซัดกันเละเสียแล้ว" สำหรับสมาชิก "พรรคเพื่อไทย" ที่เกิดความขัดแย้งแย่งกันลง ส.ส. เขตในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น แม้แกนนำพรรคฯ อย่าง "คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์" ประธานยุทธศาสตร์ของพรรคฯ จะออกมาอ้างว่า "ขัดแย้งกันจริง แต่ไม่ถึงกับวางมวย"...นั่นก็ยังสะท้อนรอยปริแยกของพรรคฯ นายใหญ่อยู่ดี เหนืออื่นใดก็คือ คำอ้างของ "หญิงหน่อย" นั้นดูจะสวนทางกับสิ่งที่แกนนำ ส.ส.ภาคอีสานคนสำคัญ ที่ออกมายอมรับว่า แม้ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่พรรคพวกหลายคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นก็ยอมรับกลาย ๆ ว่ามีจังหวะที่ "เหยียดขา-แหย่เท้ากัน” จริง 

 

ดูเหมือนยุทธศาสตร์ "แยกกันเดิน รวมกันตี" ของเครือข่ายทักษิณ ชินวัตรจะพ่นพิษใส่ตัวเองไม่หยุด หลังแกนนำพรรคฯ ระดับ "บิ๊กเนม" ทั้ง "นายจาตุรนต์ ฉายแสง" ซึ่งเคยเป็นถึงอดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงานยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ รวมทั้งแกนนำเสื้อแดงอีกหลายคน ทั้ง นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นพ.เหวง โตจิราการ, นายก่อแก้ว พิกุลทอง รวมทั้ง "นายนรวิช หล้าแหล่ง" ทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากคดีทุจริตจำนำข้าวฯ ได้ตัดสินใจทิ้งเพื่อไทย ไปซบพรรคเครือข่ายอย่าง "ไทยรักษาชาติ" ปล่อยให้ประธานยุทธศาสตร์ฯ อย่าง "คุณหญิงสุดารัตน์" อยู่โยงเฝ้าเรือน พร้อมกับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง "ครอบครัวอยู่บำรุง" แบบเสียไม่ได้ ท่ามกลางข่าวคราวความขัดแย้งภายในที่ปะทุหนัก โดยเฉพาะความไม่ลงรอยกันในเชิงบริหารหลัง "คุณหญิงหน่อย" ได้รับไฟเขียวจากนายใหญ่ขึ้นมาคุมบังเหียนพรรคฯ


อย่างไรก็ตาม แม้ในเวลาต่อมาแกนนำอย่างนายจาตุรนต์ จะออกมาปฎิเสธข่าวความขัดแย้งกรณีดังกล่าว โดยอ้างว่าที่มา "ไทยรักษาชาติ" นั้น เพราะพรรคฯ มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยตรงกับตน และไม่เกี่ยวข้องกับความไม่ลงรอยกันในพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด 

 

 

“ที่มาร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติ เนื่องจากที่นี่ได้รวมผู้สนใจการเมือง มีวิสัยทัศน์ ต้องการมีบทบาททางการเมือง ท่านหัวหน้าพรรคได้มาเชิญผม จากการหารือเห็นได้ชัดว่าพรรคนี้มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยตรงกัน เลยตัดสินใจมา" นายจาตุรนต์อ้าง ก่อนที่จะถูกเลือกให้เป็นประธานฯ ยุทธศาสตร์ "ไทยรักษาชาติ" ไม่นาน แต่แม้เขาจะออกมายืนยันด้วยตนเอง แต่ก็ยังสร้างความคลางแคลงใจให้กับผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองอยู่ไม่น้อย เพราะทุกฝ่ายต่างทราบกันดีว่า ก่อนหน้าที่ "หญิงหน่อย" จะขึ้นมากุมบังเหียนเพื่อไทยนั้น สมาชิกพรรคหลายคนบินด่วนไปพบทักษิณที่สิงคโปร์...เพื่อเลื่อยขาเก้าอี้ในเรื่องนี้


อย่างที่บอก แม้หลายฝ่ายโดยเฉพาะบรรดาแกนนำพรรคฯ พยายามกลบเกลื่อนในเรื่องนี้ แต่รอยปริแยกของเพื่อไทยก็ยังมีให้เห็นอยู่ดี ล่าสุด กลับเกิดข่าวความขัดแย้งภายในพรรคฯ ถึงขั้นว่ามีการ "วางมวย" กันด้วยซ้ำ หลังเกิดความไม่พอใจกันในการประชุมวางแนวทางวิธีการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา 


โดยเรื่องนี้เป็นข่าวขึ้นมา หลังสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ซึ่งสนิทสนมกับเครือข่ายพรรคเพื่อไทย อ้างว่า มีรายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยยืนยันว่า ในการประชุมวางแนวทางฯ ดังกล่าวนั้น "นายนวัธ เตาะเจริญสุข" อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม ไม่ได้รับการวางตัว เนื่องจากนายนวัธ มีเรื่องของคดีความค้างคาอยู่ จึงไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ ทำให้นายนวัธ เกิดความไม่พอใจพรรค โดยนายนวัธได้กระโดดถีบ "นายธนิก มาสีพิทักษ์. อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่าที่ผู้สมัครที่จะมาลงเขตนั้นแทนตน พร้อมทั้งพูดจาข่มขู่ ท่ามกลางความตกตะลึงของแกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ยืนอยู่บริเวณนั้นหลายคน


แม้นายภูมิธรรม เวชยชัย ผู้เปรียบดั่ง "พ่อบ้านพรรค" จะเข้าไปห้ามปราม แต่ก็ดูจะไม่เป็นผล "นายนวัธ" ยังไม่ยอมหยุด จนนายภูมิธรรม ต้องขอให้ "นายธนิก" เดินหนีออกไปจากที่เกิดเหตุ เรื่องราวจึงยุติลง


 

 

เรื่องนี้เป็นข่าวทางหน้าสื่ออื่น ๆ ในทันที เพราะถือเป็นปรากฏการณ์ความรุนแรงแรก ๆ สำหรับการเลือกตั้งในครั้งที่จะถึง และอาจกล่าวได้ว่า เป็นครั้งแรก ๆ ที่สมาชิกพรรคของนายใหญ่ (ไม่นับกรณีนายการุณ โหสกุล กระโดดถีบ อ.สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์) ซัดกันรุนแรงแบบใครห้ามก็ไม่ฟังขนาดนี้ 


แน่นอน เมื่อฝุ่นควันความขัดแย้งเริ่มจางลง "คุณหญิงสุดารัตน์" ในฐานะเบอร์ 1 ของพรรคฯ ย่อมออกมาปฏิเสธเรื่องนี้แน่ โดยเธออ้างในเวลาต่อมาว่า ข่าวที่ออกมาเป็นเรื่องเกินเลยจากข้อเท็จจริง แม้จะยอมรับว่า มีความขัดแย้งเรื่องแย่งชิงพื้นที่อยู่จริงถึง 10 เขต 


"ยืนยันว่าไม่มีการใช้กำลังเป็นเพียงการแสดงความน้อยอกน้อยใจ กรรมการยุทธศาสตร์ที่หัวหน้าพรรคเป็นประธานจะให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ในระหว่างนี้พรรคก็ได้ประชุมกับกกต.ซึ่งยอมรับว่าความขัดแย้งเกิดมาจากการแบ่งเขต พื้นที่ที่เรามีส.ส.อยู่ถูกแบ่งกระจาย การแบ่งเขตใหม่จึงเป็นปัญหาที่เราต้องเร่งแก้ไข "คุณหญิงสุดารัตน์  อ้าง 

อย่างไรก็ดี คำกล่าวอ้างของ  "คุณหญิงสุดารัตน์" ดูจะสวนทางกับคำพูดของแกนนำ ส.ส.ภาคอีสานเพื่อไทยบางคน (ขอสงวนนาม) ที่ออกมายอมรับว่า แม้ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่พรรคพวกหลายคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้น ก็ยอมรับกลาย ๆ ว่ามีจังหวะที่ "เหยียดขา-แหย่เท้าใส่กันจริง" และไม่ว่าเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร...ต่างคนต่างเลิกรากันไป หรือต่างฝ่ายต่างเก็บซ่อนอารณ์...รอเวลาปะทุในวันข้างหน้า...รับรองว่าผู้ที่เปรียบดั่งทุกอย่างของพรรคอย่าง "นายใหญ่" ต้องกุมขมับแน่ หลังบ่น "ปวดหัว" มารอบหนึ่งแล้วกับการที่สมาชิกพรรคคนสำคัญ...สายกำแพงเพชรอย่าง "นายวราเทพ รัตนากร" แกนนำกลุ่มชากังราว นำอดีต ส.ส.ในสังกัดย้ายเข้า "พลังประชารัฐ" จนนายใหญ่หาตัวผู้สมัครมาลงแทนไม่ทัน