ทองไทยผันผวน ราคาเปิดตลาดครั้งที่ 1 ร่วงหนัก ผลจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่า

   เรียกว่าราคาทองในตอนนี้ผันผวนขึ้นลงเป็นอย่างมาก โดยเมื่อช่วงวันที่ 7 - 8 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมาราคาทองมีการปรับขึ้น 2 วัน 150 บาท ก่อนจะหยุดคงที่ในวันที่ 9 - 10 ธ.ค. 61 โดยประกาศราคาทองตามประกาศของทางสมาคมค้าทองคำเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 61 เปิดตลาดเวลา 09.29 น. ครั้งที่ 1 ราคาลดลง 50 บาท โดยมีราคาดังนี้ ทองคํารูปพรรณ รับซื้อบาทละ 18,904.52 บาท ขายบาทละ 19,850 บาท ทองคําแท่ง รับซื้อบาทละ 19,250 บาท ขายบาทละ 19,350 ตลาดทองคําโคเม็กซ์นิวยอร์ก (Commodity Exchange) ปิดตลาดเมื่อคืนวันที่ 10 ธ.ค. 61  ลดลง 3.2 ดอลลาร์ สู่ระดับ 1,249.4 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า หลังจากนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ตัดสินใจเลื่อนการลงมติในรัฐสภาอังกฤษต่อร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยไม่มีกำหนด ตลาดทองคําฮ่องกงเปิดตลาด วันที่ 11 ธ.ค. 61 ลดลง 30 ดอลลาร์ฮ่องกง สู่ระดับ 11,600 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตำลึง

           ราคาทองคำ spot ปรับตัวลดลงเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินปอนด์ หลังนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ตัดสินใจเลื่อนการลงมติ Brexit ออกไปอย่างไม่มีกำหนด ทองในประเทศเปิดตลาดลงเล็กน้อย เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสกุลเงินปอนด์ที่ร่วงลงเกือบ 2 ปี หลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ออกแถลงการณ์ต่อสภาสามัญชนของอังกฤษเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า รัฐบาลได้ตัดสินใจเลื่อนการลงมติในรัฐสภาต่อร่างข้อตกลงการแยยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไม่มีกำหนด

 

ปัจจัยเศรษฐกิจที่สำคัญคืนวันนี้ ติดตามประกาศดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. สหรัฐ และดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจของยูโรโซน ส่วนคืนวันพฤหัส ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) โดยเฉพาะแถลงหลังประชุมของประธานอีซีบี ราคาทองคำในประเทศ เปิดตลาดลงตามทองคำโลก 50 บาท ซึ่งคาดว่าเป็นการปรับตัวลดลงทางเทคนิค จับตาเงินบาทวันนี้กลับมาเปิดทำการหลังหยุดยาวจะเป็นบวกหรือลบต่อทองในประเทศ

           ทั้งนี้ ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำ spot ยังเป็นขาขึ้น แต่ระยะสั้นอาจมีแรงเทขายทำกำไรออกมาบ้าง โดยมีแนวต้านที่ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวต้านสำคัญ 1,255 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นแนวต้านของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 200 วัน ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,240 และ 1,230 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ

        หากเปรียบเทียบราคาทองคำในปี 61 ตั้งแต่เดือนมกราคม - เดือนธันวาคม จะเห็นได้ว่าราคาทองตั้งแต่เดือนธันวาคม มีการปรับขึ้นปรับลดจนกลับมาอยู่ในเกณฑ์ทรงตัวในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ของราคาตลาดและหากย้อนกลับไป 7 ปี ก่อนหน้าปี 2561 จะเห็นได้ชัดว่ามีอัตราการปรับขึ้นของทองคำตลอดทั้งปีดังนี้

1. ปี 2555 ปรับขึ้นลงรวมตลาดทองตลอดปีอยู่ที่ +1,150 บาท เห็นได้ว่าถือเป็นปีที่ราคาทองคำนั้นปรับขึ้น โดยเฉพาะเดือนมกราคม ที่ปรับขึ้น 1,900 บาท อาจมีลดลงบ้างในเดือนมีนาคม ที่ 1,250 บาท จนจบตลอดทั้งปีที่การปรับขึ้น 1,150 บาท
2. ปี 2556 ปรับลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -5,300 บาท ในปี 2556 เป็นปีของการปรับตัวลงของราคาทองคำ สูงสูดใน 7 ปีนี้
3. ปี 2557 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -400 บาท ถือว่ายังคงที่ในการปรับลดลง ในแต่ละเดือน แต่จะปรับขึ้นในเดือน กุมภาพันธ์ มากที่ 1,050 บาท จากนั้นจึงค่อยๆ ลดลงตามลำดับ
4. ปี 2558 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ -300 บาท ปี 2558 นั้น ยังเป็นปีที่คงที่ของราคาทองปรับขึ้นไม่มากไม่น้อยจนเกินไป 
5. ปี 2559 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ +1,450 บาท เป็นปีที่มีการปรับราคาทองขึ้นมากที่สุดอีกปีหนึ่ง โดยจะปรับขึ้นมากที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ ถึง 1,900 บาท 
6. ปี 2560 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่ + 350 บาท ราคาทองที่ปรับขึ้นในปีนี้ยังอยู่ในขั้นทรงตัว ไม่ขึ้นมากและไม่ลงมาก โดยเดือนสิงหาคม ปรับขยับขึ้นที่ 550 บาท ถือว่าสูงสุดในปี 2560
7. ปี 2561 ปรับขึ้นลงรวมตลอดปีอยู่ที่-800 บาท ยังต้องจับตามองกันอยู่ตลอดกับราคาทองคำผันผวนตลอดทั้งปี 2561 ซึ่งในเดือนธันวาคม  2561 มีการปรับเพิ่มราคาทองก่อนในช่วงแรกจนมาถึงวันที่ 8 ธันวาคม ราคาทองมีการปรับเพิ่ม 100 บาท ในครั้งที่ 1 จากภาวะเงินบาทแข็งค่า จนมาถึงวันที่ 11 ธ.ค. 61 ราคาทางมีการปรับลดลง 50 บาท โดยรวมตลอดปี  61 มีการปรับลด -800 บาท ของราคาทอง

ทั้งนี้นักลงทุนต้องจับตาดูกันต่อไปว่าทิศทางราคาทองตลอดเดือนธันวาคม 61 จะเป็นเช่นไร และเมื่อเปิดตลาดในเดือนม.ค. 62 ตลาดจะมีการปรับขึ้นปรับลงที่คึกคักเพียงใด