"กระทรวงการคลัง" ยัน มีพวกแอบแฝงแกล้งจน จ่อตัดสิทธิ-เรียกเงินคืน สาวโรงน้ำแข็งโชว์บัตรคนจน?

"กระทรวงการคลัง" ยัน มีพวกแอบแฝงแกล้งจน จ่อตัดสิทธิ-เรียกเงินคืน สาวโรงน้ำแข็งโชว์บัตรคนจน?

จากกรณี ประเด็นดราม่าขึ้นเมื่อ  "ควาย+Social Smile" ได้โพสต์เกี่ยวกับกรณีหลังมีการแชร์ภาพ ผู้หญิงท่านหนึ่งได้รับเงิน 500 บาท จากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยที่มือมีทั้งแหวนทอง สร้อยทองคำ รวมไปถึง ต่างหูทอง พร้อมแคปชั่นระบุว่า“เราก็ได้สิทธิ์น้าา..”

 

 

"กระทรวงการคลัง" ยัน มีพวกแอบแฝงแกล้งจน จ่อตัดสิทธิ-เรียกเงินคืน สาวโรงน้ำแข็งโชว์บัตรคนจน?

 

"กระทรวงการคลัง" ยัน มีพวกแอบแฝงแกล้งจน จ่อตัดสิทธิ-เรียกเงินคืน สาวโรงน้ำแข็งโชว์บัตรคนจน?

 

โดยล่าสุดในวันนี้ (11/12/2561)  นายอภิศักดิ์  ตันติวรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่าเจ้าของบัตรเป็นผู้มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดหรือไม่เหมือนกรณีของนายแบบที่เคยออกมาโพสต์โชว์บัตรสวัสดิการที่ยืมคนอื่นมา โดยหากพบว่าไม่ได้เป็นผู้มีรายได้น้อยจริงก็สามารถตัดสิทธิสวัสดิการต่างๆได้ ส่วนการเรียกเงิน 500 บาทคืนนั้นเป็นหน้าที่ของกรมบัญชีกลางจะไปดำเนินการต่อไป ส่วนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับเงินไปแล้วไม่จำเป็นต้องรีบไปกดเงินสดออกมาเนื่องจากเงินยังคงอยู่ในบัตรและยังสามารถนำไปซื้อสินค้าที่ห้างค้าปลีกที่รับบัตรสวัสดิการได้หลาย

โดย ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. จะตรวจสอบประชาชนหากพบว่าไม่มีคุณสมบัติรัฐจะตัดรายชื่อออกและไม่โอนเงินให้ แต่คงไม่มีการยึดบัตรคืน

"กระทรวงการคลัง" ยัน มีพวกแอบแฝงแกล้งจน จ่อตัดสิทธิ-เรียกเงินคืน สาวโรงน้ำแข็งโชว์บัตรคนจน?

วันนี้ (11ธ.ค.61) จากมาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายละ 500 บาทที่รัฐบาลจ่ายให้วันที่ 8-10 ธ.ค.ที่ผ่านมาและมีกระแสว่าผู้ถือบัตรบางรายที่ไปกดเงินอาจไม่ได้เป็นคนจนจริงเพราะบางคนใส่สร้อยทองบางคนขับรถมากดเงิน

 

ล่าสุดนายอภิศักดิ์  ตันติวรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่าเจ้าของบัตรเป็นผู้มีคุณสมบัติตรงตามที่กำหนดหรือไม่เหมือนกรณีของนายแบบที่เคยออกมาโพสต์โชว์บัตรสวัสดิการที่ยืมคนอื่นมา โดยหากพบว่าไม่ได้เป็นผู้มีรายได้น้อยจริงก็สามารถตัดสิทธิสวัสดิการต่างๆได้ ส่วนการเรียกเงิน 500 บาทคืนนั้นเป็นหน้าที่ของกรมบัญชีกลางจะไปดำเนินการต่อไป ส่วนผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับเงินไปแล้วไม่จำเป็นต้องรีบไปกดเงินสดออกมาเนื่องจากเงินยังคงอยู่ในบัตรและยังสามารถนำไปซื้อสินค้าที่ห้างค้าปลีกที่รับบัตรสวัสดิการได้หลาย

 

สำหรับความคืบหน้าการจ่ายเงินให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการ กรมบัญชีกลางระบุว่ามีการจ่ายเงินแล้วทั้งสิ้น 11.3 ล้านราย เป็นเงิน 5,660 ล้านบาท  มีการกดเงินสดออกไปแล้ว 4.6 ล้านราย คิดเป็นเงิน 2,300 ล้านบาท มีการใช้จ่ายซื้อสินค้าผ่านบัตร 8.5 แสนราย คิดเป็นเงิน 425 ล้านบาท โดยยังมีเงินค้างในบัตรอีกประมาณ 2,725 ล้านบาท  ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถนำไปกดเงินสดหรือใช้จ่ายซื้อสินค้าได้ตลอดเวลา  และในวันพรุ่งนี้ ( 12 ธ.ค.)  กรมบัญชีกลางจะจ่ายเงินสนับสนุนค่าเช่าบ้านรายละ 400 บาทให้ผู้สูงอายุเป็นวันแรกอีก 2.3 แสนราย ซึ่งเงินยังคงอยู่ใบบัตรไม่จำเป็นต้องไปรีบถอนออกมาใช้จ่ายแต่อย่างใด

  

ส่วนวันที่ 14 ธ.ค.กรมบัญชีกลางจะโอนเงินคืนค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% ให้ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการเป็นเดือนแรก และหลังจากนั้นวันที่ 21  ธ.ค.จะโอนเงินสนับสนุนค่าเดินทางไปรักษาพยาบาลให้ผู้สูงอายุอีกรายละ 1,000 บาท ซึ่งส่วนนี้เป็นเงินให้ครั้งเดียวสามารถกดไปใช้จ่ายได้ตลอดเวลา