อาการออก! "ทนายธาริต" หิ้วเงินแสนวางศาลฯ อ้างเยียวยาโจทก์คดีหมิ่น "สุเทพ" หวังศาลเมตตา-ลงโทษสถานเบาพรุ่งนี้

อาการออก! "ทนายธาริต" หิ้วเงินแสนวางศาลฯ อ้างเยียวยาคดีหมิ่น "สุเทพ" หวังศาลเมตตา-ลงโทษสถานเบาพรุ่งนี้

 

"ทนายธาริต" หิ้วเงินแสนวางศาลอาญา อ้างเพื่อเป็นการเยียวยาต่อโจทก์คดีหมิ่น "กำนันสุเทพ" พร้อมขอศาลฯ ส่งคำร้อง พร้อมหลักฐานการวางเงิน ไปยังศาลฎีกาเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากจะอ่านคำพิพากษาพรุ่งนี้ หวังได้รับเมตตา-ลงโทษสถานเบา

 

วันนี้ (13 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก "นายขวัญไชย ปัจจายา" ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก "นายธาริต เพ็งดิษฐ์" อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จำเลยในคดีหมายเลขดำ อ.495/2556 กรณีถูก "นายสุเทพ เทือกสุบรรณ" อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำ กปปส. ยื่นฟ้องความผิดฐานหมิ่นประมาท และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กรณีแถลงข่าวกล่าวหาว่า นายสุเทพสั่งการไม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่งเป็นรายภาค ตามที่ สตช.เสนอ แต่กลับให้รวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว ทำให้บริษัทพีซีซี ดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล จนเกิดปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จทันตามกำหนด 

 

โดยในวันนี้ นายขวัญไชย  ได้เดินทางมาเพื่อยื่นคำร้องพร้อมนำเงินสด 1 แสนบาทมาวางศาล พร้อมคำร้องของนายธาริต ที่ระบุว่าเพื่อเป็นการเยียวยาต่อโจทก์ โดยโจทก์มีสิทธิรับเงินวางศาลจำนวนดังกล่าวได้โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ จำเลยได้แจ้งให้ศาลฎีกาทราบถึงการนำเงินมาวางศาลดังกล่าวนี้ในวันนี้ด้วย และขอศาลอาญาได้จัดส่งคำร้องฉบับนี้พร้อมหลักฐานการนำเงินมาวางศาลไปยังศาลฎีกาทางโทรสารภายในวันนี้ เพราะเป็นกรณีเร่งด่วน เนื่องจากศาลฎีกาจะอ่านคำพิพากษาในวันพรุ่งนี้คือวันที่ 14 ธ.ค.นี้แล้ว ขอศาลโปรดอนุญาต


นายขวัญไชย กล่าวหลังวางเงินศาลว่า ขั้นตอนต่อไปทางศาลอาญาก็จะส่งคำร้องไปที่ศาลฎีกาเพื่อที่จะเป็นผลในการเยียวยาผลร้ายทางคดีอาญา เรื่องจากเราได้ถอนคำให้การเดิมและเปลี่ยนคำให้การรับสารภาพตามฟ้อง เราก็แสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการวางเงินให้โจทก์ 1 แสนบาท ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของศาลฎีกาที่จะพิจารณาว่าที่เราได้บรรเทาผลร้ายจะนำไปพิจารณาลดโทษหรือไม่


ขณะที่ทางด้าน "นายธนากร แหวกวารี" หัวหน้าทีมทนายความของนายธาริต กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า เมื่อวานนี้นายธาริตได้ยื่นแถลงคำร้องต่อศาลฎีกาอีก 1 ฉบับ เกี่ยวกับประเด็นที่จำเลยได้รับสารภาพ และมีการวางเงินเยียวยา จึงขอให้ศาลลงโทษสถานเบา 

 

เมื่อถามว่าการวางเงินเยียวยาจะเป็นเหตุให้ศาลจะต้องทำคำพิพากษาใหม่หรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า ใช่ เป็นเหตุตามกฎหมาย จะคล้ายกับกรณีของ "นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" นักจัดรายการชื่อดัง และอดีตนักการเมือง ที่โดนคดีรื้อบาร์เบียร์ในอดีตที่ถอนคำให้การในวันนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา จนศาลเลื่อนนัดออกไป และนายชูวิทย์ได้มีการเยียวยาความเสียหาย บรรเทาผลร้ายจนเป็นเหตุแห่งการลดโทษ แม้จะถูกสั่งจำคุก คดีจะเข้าเกณฑ์ลักษณะเดียวกัน ตรงนี้เราก็ต้องดูว่าศาลจะพิจารณาอย่างไร

 

เมื่อถามว่าการวางเงินบรรเทาผลร้ายจะมีผลให้คำพิพากษาศาลฎีกาต้องมีการแก้ไขภายหลังได้รับคำร้องและจะอ่านทันวันที่ 14 ธ.ค.นี้ หรือไม่ นายธนากร กล่าวว่า ในทางปฏิบัติศาลมีอำนาจที่จะพิจารณามีคำสั่งได้หลายทาง พอจำเลยกลับคำรับสารภาพศาลอาจจะรับหรือไม่รับคำให้การใหม่นี้ก็ได้ ถ้าไม่รับคำให้การศาลก็อาจใช้เหตุผลว่าเป็นการล่วงเลยเวลา แต่ตรงนี้ก็อาจมองว่ามีเหตุบรรเทาโทษ หรือมองว่าที่เราเยียวยาจะเป็นเหตุบรรเทาโทษได้ ซึ่งในวันดังกล่าวศาลอาจจะทำคำพิพากษาใหม่เลย หรืออาจจะมีคำสั่งให้เลื่อนไปฟังคำพิพากษาอีก 1-2 เดือน ตามคำร้องก็เป็นไปได้หมด


เมื่อถามอีกว่าคดีนี้มีการอ่านคำพิพากษาโดยศาลฎีกาเองและใช้ห้องพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้มีการชี้แจงว่าเป็นไปตามระเบียบศาลฎีกาว่าด้วยการอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลฎีกา พ.ศ.2550 ตรงนี้มองว่าผิดจากคดีปกติหรือไม่ นายธนากร กล่าวว่าตนเป็นทนายมา 20 กว่าปีไม่เคยเจอ เพิ่งเคยเจอครั้งแรกที่ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาเอง