เงินจากไหน-น่าฉงน! มือบึ้ม "กปปส." แฉสิ้นหนีซุกเพื่อนบ้าน-มีคนส่งเงินให้ใช้เดือนละ 30,000 ช่วงหลังโดนอม-เลยมอบตัว

น่าฉงน! มือบึ้ม "กปปส." แฉสิ้นหนีซุกเพื่อนบ้าน-มีคนส่งเงินให้ใช้เดือนละ 30,000 ช่วงหลังโดนอม-เลยมอบตัว

 

น่าฉงนจริง ๆ ว่า...ท่อน้ำเลี้ยงไหลมาจากไหน! "นายกฤษดา ไชยแค" มือบึ้ม "กปปส." แฉสิ้นหนีซุกเพื่อนบ้าน-มีคนส่งเงินให้ใช้เดือนละ 30,000 ช่วงหลังโดนอมเงินหด ประกอบกับถูกกดดันหนัก และกลัวพวกเดียวกันตามเก็บ เลยยอมมอบตัว รับตนเองเป็นพวกฮาร์ดคอร์ รวมกลุ่ม และรวบรวมอาวุธต่างๆ ไว้ใช้ก่อเหตุหลายครั้ง 

 

วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีการจับกุม "นายกฤษดา ไชยแค" อายุ 47 ปี  ผู้ต้องหาขว้างระเบิดใส่เวที กปปส. โดย "พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล" ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้เปิดเผยความคืบหน้าว่า คดีปาระเบิดใส่เวทีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.เมื่อปี 2557 ศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด 4 ราย โดยติดตามจับกุมได้แล้ว 3 ราย เหลือเพียง "นายกฤษดา" ที่หลบหนีไปประเทศเพื่อนบ้าน กระทั่งล่าสุดนายกฤษดาได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่


 

 เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าร่วมกับพวกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ก่อเหตุปาระเบิดมาแล้ว 2 ครั้ง คือ 1. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้า รพ.ราชวิถี จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย และ 2. บริเวณถนนบรรทัดทอง ปาระเบิดใส่ขบวนของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.

 

“หลังก่อเหตุผู้ต้องหายอมรับว่าได้หลบหนีไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่ปี 2557 โดยมีบุคคลคอยให้ความช่วยเหลือทางการเงิน เดือนละ 30,000 บาท โดยไม่ต้องประกอบอาชีพใดๆ แต่เจ้าหน้าที่ได้ประสานความร่วมมือกับทางการกัมพูชาในการกดดัน รวมทั้งช่วงหลังเงินที่ส่งมาให้นายกฤษฎาเริ่มเหลือน้อยไม่พอค่าใช้จ่าย จึงเดินทางเข้ามอบตัวและขณะนี้ได้นำตัวฝากขังที่ศาลอาญาเรียบร้อยแล้ว”



 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การก่อเหตุดังกล่าวนายกฤษฎาสังกัดกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับ กปปส. หรือถูกจ้างวานมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นกลุ่มการเมืองฮาร์ดคอร์ ได้รวมกลุ่มขึ้นมากันเองและเก็บรวบรวมอาวุธต่างๆ ไว้กับตัวเองเพื่อใช้ก่อเหตุ และมีส่วนร่วมในการก่อเหตุอื่นๆ รวมแล้วกว่า 10 ครั้ง นอกจากนี้ ในส่วนค่าหัว 700,000 บาทนั้นเป็นรางวัลนำจับของเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ทราบจากหน่วยงานใด

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวยังรายงานด้วยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจผสานกำลังร่วมกับหน่วยงานจากประเทศกัมพูชา ติดตามจับกุมนายกฤษดา ไชยแค อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 284/2557 ลงวันที่ 20 ก.พ. 2557 ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, กระทำให้เกิดการระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สินของผู้อื่น, มีและใช้วัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้มีและให้ใช้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและวัตถุระเบิดติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน และฝ่าฝืนประกาศ ข้อกำหนดที่ห้ามนำอาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิดออกนอกเคหสถาน ตาม พ.ร.บ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 โดยจับกุมได้ที่ชายแดนไทยใกล้กับด่าน ต.คลองลึก จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา