เปลือยความโฉด!"คนบางสี-พวกปากอ้างประชาธิปไตย" แต่มุ่งสังหารผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นผักปลา

เปลือยความโฉด!"คนบางสี-พวกปากอ้างประชาธิปไตย" แต่มุ่งสังหารผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นผักปลา


      สืบเนื่องจาก คดีปาระเบิดใส่เวทีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. เมื่อปี 2557 ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะพอทราบถึงความคืบหน้า หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถที่จะจับกุมตัว "นายกฤษดา ไชยแค" ผู้ต้องหาคดีปาระเบิด ซึ่งเขาเองได้ยอบรับสารภาพว่าได้หลบหนีไปกบดานยังประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ปี 2557 โดยมีบุคคลคอยให้ความช่วยเหลือเรื่องเงิน ถึงเดือนละ 30,000 บาท โดยไม่ต้องประกอบอาชีพใดๆ

 

เปลือยความโฉด!"คนบางสี-พวกปากอ้างประชาธิปไตย" แต่มุ่งสังหารผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นผักปลา

 

     แต่เหนือสิ่งอื่นใด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่ปรากฏชัดว่าวันนี้เป็นการกระทำที่จงใจให้เกิดขึ้นและยังมีความเลวร้ายที่เก็บสะสมอยู่ในสังคมไทย เมื่อตอกย้ำถึงคำรับสารภาพของ "นายกฤษดา" ผู้ต้องหาปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ชุมนุม"กปปส." ซึ่งเจ้าตัวเองได้เปิดเผยว่า "ก่อเหตุความไม่สงบในห้วงระหว่างปี 2557 โดยทำมาทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกก่อเหตุปาระเบิดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ หน้ารพ.ราชวิถี และ ครั้งที่ 2 ก่อเหตุที่บริเวณบรรทัดทอง ปาระเบิดใส่ขบวนของ"นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส."  

 

เปลือยความโฉด!"คนบางสี-พวกปากอ้างประชาธิปไตย" แต่มุ่งสังหารผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นผักปลา

 

   ยิ่งไปกว่านี้ เขายังร่วมอยู่ในเหตุการณ์ก่อความไม่สงบทางการเมืองในหลายครั้ง และไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำให้เกิดการเจ็บ และตาย ในครั้งแรก กระทั่งหลบหนีออกนอกประเทศจึงรู้สึกได้ว่าได้ก่อเหตุร้ายแรงลงไป  ทั้งนี้การดำเนินการของเขานั้นเป็นของกลุ่มการเมืองฮาร์ดคอร์ได้รวมกลุ่มขึ้นมากันเองและเก็บรวบรวมอาวุธต่างๆไว้กับตัวเอง เพื่อใช้ในการก่อเหตุ และมีส่วนร่วมในการก่อเหตุอื่นๆ รวมแล้วกว่า 10 ครั้ง

 

เปลือยความโฉด!"คนบางสี-พวกปากอ้างประชาธิปไตย" แต่มุ่งสังหารผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นผักปลา
    

 อย่างไรก็ตาม จากคำรับสารภาพของ "กฤษดา" บ่งชี้ได้ชัดว่า "เป็นกระทำด้วยอุดมการณ์ของกลุ่มการเมืองฮาร์ดคอร์ที่ได้รวมกลุ่มขึ้นมาเองตามที่เขาอ้าง เพราะฉะนั้นหากทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นความไม่สงบเมื่อครั้งอดีต ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ของ "วัฒนา ภุมเรศ" ผู้ต้องหาวางระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ รวมถึง "มหาหิน ขุนทอง" ขว้างระเบิดศาลอาญา เป็นต้น  เหตุการณ์เหล่านี้ นอกจากการวางแผนและก่อเหตุ จากคำรับสารภาพก็ดี หรือเอกสารหลักฐานที่ตรวจพบ ปรากฎว่าได้แสดงให้เห็นถึงกระบวนการทำงานที่ไม่ธรรมดาของคนกลุ่มนี้ ซึ่งต้องเน้นย้ำว่าทั้งหมดคือความเลวร้ายที่เก็บสะสมอยู่ในสังคมไทย

 

เปลือยความโฉด!"คนบางสี-พวกปากอ้างประชาธิปไตย" แต่มุ่งสังหารผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นผักปลา


และประเด็นสำคัญที่ต้องการให้พิจารณาถึงขบวนการก่อเหตุในครั้งนี้ หากย้อนกลับไป 22 พ.ค. 60  "นายวัฒนา" ก่อเหตุวางระเบิดที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ  ซึ่งหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวได้ และ สอบปากคำ"นายวัฒนา" ซึ่งจากการตรวจสอบ เขาได้ลงมือก่อเหตุทั้งสิ้น 6 จุดด้วยกัน แบ่งเป็นปี 2550 จำนวน 3 จุด ประกอบด้วย ห้างเมเจอร์ รัชโยธิน, ซอยราชวิถี 24 หน้าบก.ทบ. และปี 2560 อีก 3 จุด ประกอบด้วย หน้าสำนักงานสลากเก่า ถ.ราชดำเนินกลาง, หน้าโรงละครแห่งชาติ ใกล้กับท้องสนามหลวง และ รพ.พระมงกุฎเกล้า

 

เปลือยความโฉด!"คนบางสี-พวกปากอ้างประชาธิปไตย" แต่มุ่งสังหารผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นผักปลา

 

     ซึ่ง"นายวัฒนา ระบุว่า เหตุการณ์ปี 2550 และ 2560 มีแรงบันดาลใจเหมือนกันทั้งหมด คือเป็นประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติทำให้ประเทศชาติประสบหายนะทางเศรษฐกิจ ทุกครั้งที่ก่อเหตุพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้กระทบประชาชนธรรมดา พยายามทำเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐบาลมากกว่า ไม่ต้องมุ่งหวังชีวิต ไม่ต้องการสร้างความปั่นป่วน ต้องการแค่ส่งเสียงไปยังรัฐบาลว่าประชาชนรากหญ้ามิได้ต้องการรัฐบาล  ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายผู้ใด ต้องขออภัยอย่างยิ่ง การกระทำที่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บมากน้อย  พร้อมทั้งยืนยันว่าทำคนเดียว ไม่มีฝ่ายการเมือง หรือบุคคลใดชี้นำ

 

 ไม่เพียงเท่านั้น ความเลวร้ายที่เก็บสะสมอยู่ในสังคมไทยย้อนไป 8 มีนาคม 2558 พิจารณาจากคำให้สัมภาษณ์ของ "มหาหิน ขุนทอง" หนึ่งในผู้ต้องหาปาระเบิดศาลอาญา ที่ สะท้อนให้เห็นถึงอุดมการณ์ทางความคิดที่อาจจะไปไกลถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครอง จึงหมายความถึงพฤติการณ์ของผู้ต้องหากลุ่มนี้จัดได้ว่าเป็น "กบฎ" และ "ก่อการร้าย" เลยทีเดียว ... 

 

เปลือยความโฉด!"คนบางสี-พวกปากอ้างประชาธิปไตย" แต่มุ่งสังหารผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นผักปลา

 

 

ทั้งนี้ "มหาหิน ขุนทอง" กล่าวว่า "ที่ยอมทำอาจเป็นเพราะอุดมการณ์เดียวกัน ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย จัดตั้งเป็นองค์กรภาคีภาคประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สาธารณรัฐ และรายชื่อที่ปรากฎว่ามี ชื่อ 2 บุคคล ผมทราบเพียงว่ารู้จักกับแฟนมานานแล้ว แต่ตนไม่ทราบรายละเอียดมากนัก รู้เพียงแค่ว่ารู้จักกันเพราะเคยทำงานรักษาความปลอดภัยให้เท่านั้น..."

 

เปลือยความโฉด!"คนบางสี-พวกปากอ้างประชาธิปไตย" แต่มุ่งสังหารผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นผักปลา


  
   อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงคำพูดของ "มหาหิน ขุนทอง" เป็นที่น่าแปลกใจยิ่ง สำหรับคำศัพท์ประเภททฤษฎี เนื่องจากไม่มีชาวบ้านธรรมดาๆที่ไหนจะหยิบขึ้นมาพูดได้ง่ายๆ เพราะคำศัพท์จำพวกนี้จะต้องผ่านการอบรม ฝึกฝนทางความคิด และในเชิงปฏิบัติ ตอกย้ำให้เห็นได้หรือไม่ว่า ขบวนการกลุ่มนี้เป็นกลุ่มขบวนการปฏิวัติ ที่ผสานการทำงานตามทฤษฎีแก้ว3ประการ ดังนี้ 1.พรรค 2.มวลชน 3.กองกำลังติดอาวุธ

 

  ทั้งนี้ องค์ประกอบตามที่ว่ามานี้ ก็ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็น "นาย อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง" แกนนำ นปช." ที่เคยลั่นปากพูดเอาไว้ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่า "วันนี้การต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าไม่ชนะ เป้าหมายคือคุก หรือไม่ก็ตายเท่านั้นพี่น้อง ผมขอบอกข่าวดีว่า เดิมทีนั้น คนเสื้อแดงมีเพียงพรรคการเมือง และมวลชนเท่านั้น แต่วันนี้ แก้วอีกประการหนึ่งที่เรารอ นั่นคือกองกำลังไม่ทราบฝ่าย เขาพร้อมสนับสนุน และปกป้องคนเสื้อแดง และพร้อมที่จะเป็นปรปักษ์กับกองทัพ ถ้ากองทัพทำร้ายประชาชน" 

 

เปลือยความโฉด!"คนบางสี-พวกปากอ้างประชาธิปไตย" แต่มุ่งสังหารผู้เห็นต่างทางการเมืองเป็นผักปลา

 

  ... อย่างไรก็ดี อาจจะเป็นไปได้ว่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมา บุคคลเหล่านี้ได้มีการฝึกฝน เรียนรู้ ถูกบ่มให้ลองผิดลองถูกมาหลายครั้ง จนสามารถยกระเบิดการก่อเหตุได้รุนแรง ยิ่งไปกว่านั้นยังขยายออกไปเป็นวงกว้างมากในสังคมไทยมากยิ่งขึ้น ...