"บิ๊กตู่" เปิดงาน "10 ปี โครงการทุนศึกษาพระราชทาน"  ยัน 4 ปีรัฐฯ ทำงานเต็มที่ 

"บิ๊กตู่" เปิดงาน "10 ปี โครงการทุนศึกษาพระราชทาน"  ยัน 4 ปีรัฐฯ ทำงานเต็มที่ 

 

"บิ๊กตู่" เป็นประธานเปิดงาน นิทรรศการและการประชุมเสวนา ในโอกาสครบรอบ 10 ปี “โครงการทุนการศึกษาพระราชทาน” มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หรือ ม.ท.ศ. โดยมี พล.อ.ดาว์พงศ์ รัตนสุวรรณ และนายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ร่วมงาน  ยัน 4 ปีทำงานเต็มที่ 

 

วันนี้ (17 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา ทำเนียบรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดงานนิทรรศการและการประชุมเสวนา ในโอกาสครบรอบ 10 ปี “โครงการทุนการศึกษาพระราชทาน” มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หรือ ม.ท.ศ. โดยมี พล.อ.ดาว์พงศ์ รัตนสุวรรณ และนายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ร่วมงาน

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “เยาวชนกับการพัฒนาประเทศ” ตอนหนึ่งว่า ขอให้ทุกคนน้อมรำลึกในพระมหากรุณาที่คุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ โดยต้องมีเหตุและผล พอประมาณ มีภูมิคุ้มกันที่ดี และตั้งใจศึกษาเล่าเรียน สนใจในวิทยาการ พัฒนาความรู้ความสามารถ เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทย และทุกคนจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ มีแรงบันดาลใจเพื่อก้าวไปข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนไม่ต้องเครียดในการพบปะกันวันนี้ แม้จะเรียนหนังสือหนัก หรือตั้งใจเรียน ก็ไม่ต้องเครียดกัน ขอให้ยิ้มแย้มแจ่มใสแบบนายกฯ จะได้ไม่เครียด วันนี้นายกฯพยายามไม่เครียดในทุกเรื่อง แม้จะมีปัญหามากมาย ก็ขอทำต่อไปให้ดีที่สุด เท่าที่จะสามารถทำได้ 

 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้ประเทศกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาเก่า และเดินหน้าสู่เรื่องใหม่ๆ แน่นอนจะต้องมีปัญหาความขัดแย้งสูง เพราะเป็นการปฏิรูป สร้างพื้นฐานให้ประเทศ รัฐบาลจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีขึ้นมา ยืนยันว่าไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ แต่เป็นเส้นทางของประเทศ เพื่อไปสู่จุดมุ่งหมาย ปีหน้าเราจะเป็นประธานอาเซียน โดยตั้งธีม ‘การร่วมมือร่วมใจ ก้าวไกลมุ่งสู่อนาคต’ ดังนั้น จึงต้องร่วมมือกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ สู่การปฏิบัติเพื่อเป้าหมาย และด้านความมั่นคงทุกคนต้องช่วยกัน เพราะเป็นพื้นฐานของความสงบเรียบร้อย มีผลต่อด้านเศรษฐกิจด้วย 4 ปีที่ผ่านมาบ้านเมืองสงบเรียบร้อย ทุกคนสามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข มีความปลอดภัย

 

“ส่วนที่บอกว่าทำไมรายได้และความเป็นอยู่ของประชาชนยังไม่ดีขึ้น เกษตรกรยังมีปัญหา เราพยายามดูทุกอย่าง ผมไม่อาจจะพูดอะไรได้มากในช่วงนี้ เพราะเป็นช่วงความเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่จะพูดในฐานะนายกฯ ว่าที่ผ่านมาเราพัฒนาหลายอย่าง แต่ถ้ายังเข้าใจไม่ตรงกัน ก็ไปไม่ได้ หวังว่าทุกคนจะช่วยสร้างความเข้าใจให้ผมด้วย ไม่เช่นนั้นจะถูกบิดเบือน วันนี้ประชาธิปไตยก็เดินหน้าเข้ามา อยากให้ทุกคนช่วยสร้างความเข้าใจ ผมไม่อาจจะชี้นำเรื่องเหล่านี้ได้”นายกฯ ระบุ ทั้งยังกล่าวด้วยว่า 

 

อย่างเรื่องประกันสังคม ต้องศึกษาเรื่องเหล่านี้ ในต่างประเทศคนเขาเข้าใจเมื่อจ่ายประกันสังคม รัฐบาลสมทบ เขาก็ยอม รวมถึงเรื่องอื่นๆ รัฐบาลจะปรับแก้อะไรส่วนไหนที่ประชาชนได้ประโยชน์ก็ยอม ส่วนไหนที่มีปัญหามากๆก็ชี้แจงกัน มีข้อขัดแย้งกันบ้าง แต่บ้านเรามีข้อขัดแย้งกันทุกเรื่อง เพราะเรากำลังเปลี่ยนผ่านความคิดแบบเดิมๆ ไปสู่ความคิดใหม่ ซึ่งมันยาก ทั้งนี้หากเราต้องการอะไรที่ดีขึ้น ก็ต้องให้ความร่วมมือ ไม่ใช่ให้รัฐบาล ให้แต่งบประมาณอย่างเดียว แต่ถ้ามีปัญหาขัดแย้งไปหมดทุกเรื่อง โดยไม่ให้ความร่วมมือใดๆ แล้วจะได้อะไรกลับมา 

นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้เราต้องใช้โทรศัพท์ให้เกิดประโยชน์ เปิดดูเว็บไซต์หน่วยงานราชการ สนใจอะไรก็เปิดดูในส่วนนั้น ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องเขียนอะไรไม่เข้าใจดังนั้นข้าราชการต้องปรับวิธีการนำเสนอให้สั้นกระชับ เราจะได้คนที่มีคุณภาพเข้าไปทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ จะเป็นนายกฯก็ได้วันหน้า ทุกคนต่างสำคัญ ตำรวจ ทหาร ก็สำคัญ ไม่ใช่จะบอกว่าอันนี้เพิ่มอำนาจ อันนี้ลดอำนาจ รัฐธรรมนูญมีอยู่แล้ว กฎหมายมีทุกตัว

"ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนรวมกันสนองพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบสานรักษา ต่อยอด ศาสตร์พระราชา และแนวพระราชดำริต่างๆของในหลวงรัชกาลที่ 9 ร่วมกันพัฒนาให้เกิดความมั่นคงอย่างยั่งยืน และใช้พลังจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ ที่ทรงมุ่งหวังให้สังคมช่วยเหลือเกื้อกูลกัน" นายกฯ ระบุ

นายกฯ กล่าวอีกว่า 4 ปีมาแล้วที่เราทำงานอย่างเต็มที่ ตนพูดในนามรัฐบาลไม่เกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง รัฐบาลคือรัฐบาล การเมืองก็คือการเมือง คนละเรื่อง อีกเรื่องต้องไปว่ากันไปข้างนอก อย่ามาตีกันไปกันมา ตนหวังว่าวันหน้าข้างหน้าจะดีขึ้น และหวังครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา จะรวมกันเป็นพลังขับเคลื่อนประเทศไทยไปด้วยกัน เพราะประเทศไทยเป็นของเราทุกคน นำพาไประเทศไปสู่ความสดดุลและความยั่งยืนอย่างแท้จริง ขอให้ทุกคนระลึกถึงเสมอว่า ประเทศไทยคือบ้านของเรา ไม่มีใครมาแก้ปัญหาให้เราได้ นอกจากพวกเรากันเอง คนไทยจำเอาไว้ เราเอากฎกติกาของต่างประเทศมาได้ แต่ต้องเอามาประยุกต์ให้เหมาะกับความเป็นไทย เราไม่เหมือนคนอื่น ตนไปมาทุกจังหวัดในประเทศ ทุกจังหวัดมีความแตกต่างทั้งสิ้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าอยากจะมีเหมือนเพื่อนบ้านเราประเทศเล็ก ๆ ที่รวย ๆ มีคนอยู่ 4-5 ล้านคน แต่มีรายได้มากกว่าเรา 3-4 เท่า จะต้องรักษากฎหมายและเคารพกฎหมาย ทุกคนมีโอกาสเจริญเติบโตได้ด้วยกฎหมายตัวเดียวกัน กฎหมายเขาทำไว้ทุกตัว ทุกคนต้องเคารพก็จะไม่มีปัญหา อย่าไปบอกว่ากฎหมายเอื้อให้กับคนโน้นคนนี้ เขาเอื้อทุกคน เพราะขึ้นอยู่กับทุน ซึ่งเป็นหลักการของโลกใบนี้ ตนไม่ได้เข้าข้างใครอยู่แล้ว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า จากนั้นนายกฯ เดินลงจากเวทีมาทักทายนักเรียน โดยได้ชูมือทำสัญลักษณ์ไอเลิฟยู พร้อมกับกล่าวว่า “สวัสดีทุกคน รักประเทศไทยต้องรักคนไทยทุกคน”
                

ทั้งนี้ นายกฯ ได้กล่าวภายหลังเปิดงานอีกว่า วันนี้เป็นเรื่องของทุนการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10  ที่ทรงพระราชทานมาโดยตลอด ปีนี้ถือเป็นปีที่ 10 แล้ว ซึ่งมีนิสิต นักศึกษาได้รับประโยชน์มากมายหลายพันคน