- 19 ธ.ค. 2561
เรียกได้ว่ายิ่งใกล้สิ้นปี รัฐบาลก็เข็นมาตรการออกมาเป็นของขวัญมอบให้แก่ประชาชนมากขึ้น กับอีกหนึ่งมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี เมื่อใช้บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้าจะได้รับชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% โดยจะจ่ายเงินสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อคน ล่าสุด 19 ธ.ค. 2561 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
เรียกได้ว่ายิ่งใกล้สิ้นปี รัฐบาลก็เข็นมาตรการออกมาเป็นของขวัญมอบให้แก่ประชาชนมากขึ้น กับอีกหนึ่งมาตรการเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี เมื่อใช้บัตรเดบิตรูดซื้อสินค้าจะได้รับชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่ม 5% โดยจะจ่ายเงินสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อคน ล่าสุด 19 ธ.ค. 2561 นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
ครม.ได้ไฟเขียวจ่ายเงินชดเชยแก่ผู้ชำระเงินที่ใช้บัตรเดบิตของตนเองทุกประเภทที่ออกในประเทศไทย และมีการใช้จ่ายในประเทศไทยโดยไม่รวมถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการซื้อสินค้าและบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ไม่รวมถึงสินค้าและบริการที่มีภาษีสรรพสามิต ทั้งนี้จะสามารถแยกจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 ออกจากสินค้าและบริการได้ และจ่ายเงินชดเชยเป็นจำนวนเท่ากับร้อยละ 5 ทั้งนี้ จะจ่ายเงินชดเชยสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาทต่อคน โดยจ่ายเข้าระบบพร้อมเพย์ที่ใช้เลขประจำตัวประชาชน โดยมีเงื่อนไขขั้นตอนการเข้าร่วมมาตรการ ดังนี้
1. ประชาชนผู้สนใจรับเงินชดเชยจากมาตรการฯ ต้องลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ ในช่วงเวลา ช่องทาง และตามเงื่อนไขที่กำหนดเท่านั้น
2. วันที่ 1 – 15 ก.พ. 2562 ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อ 2.1 ชำระเงินเพื่อซื้อสินค้าและบริการที่มีภาษีมูลค่าเพิ่ม (ไม่รวมถึงสินค้าและบริการที่มีภาษีสรรพสามิต) โดยใช้บัตรเดบิตของตนเองกับผู้ประกอบการร้านค้าที่ร่วมมาตรการฯ แ
คุณสมบัติผู้ที่จะได้รับเงินชดเชยต้องเข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้
2.1.1 มีบัตรเดบิตที่ออกในประเทศไทย โดยไม่รวมถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2.1.2 ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการฯ ในช่วงเวลา ช่องทาง และตามเงื่อนไขที่กำหนด
2.1.3 สมัครใช้บริการพร้อมเพย์ โดยใช้เลขประจำตัวประชาชนเพื่อรับเงินชดเชย
ส่วนคุณสมบัติผู้ประกอบการร้านค้าต้องเป็นผู้ประกอบการร้านค้าจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และต้องมีระบบ POS ที่ช่วยเก็บบันทึกการขาย รายละเอียดสินค้า คำนวณยอดขาย และพิมพ์ใบกำกับภาษี
โดยเชื่อมต่อกับเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าที่มีระบบ POS ต้องทำการปรับปรุงและทดสอบ เพื่อให้สามารถส่งข้อมูลภาษีมูลค่าเพิ่มทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เช่นเดียววกับระบบที่ใช้ภายใต้มาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐโดยใช้ข้อมูลจากจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ชำระ
3.รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ที่มีคุณสมบัติผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ใช้เลขประจำตัวประชาชน ภายในเดือน พ.ย. 2562
สำหรับมาตรการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักนอกจากเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจยังเป็นการส่งเสริมการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เงินสด การผลักดันการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการชำระเงินผ่านบัตรอิเล็กทรอนิกส์และการบูรณาการระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์ในส่วนการนำส่งรายงานการทำธุรกรรมทางการเงิน สอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 พร้อมเป็นการสนับสนุนการดำเนินงานตาม National e-Payment Master Plan อีกด้วย