โซเชียลหนุนเพิ่มโทษ เกิดเหตุซ้ำ 7 โจ๋ขืนใจเด็กวัย13

โซเชียลหนุนเพิ่มโทษ เกิดเหตุซ้ำ 7 โจ๋ขืนใจเด็กวัย13

กลายเป็นประเด็นร้อนแรงขึ้นมาในโลกโซเชียลอีกครั้ง หลังมีรายงานการจับกุมเยาวชนชายจำนวน 7 ราย ที่ร่วมกันหลอกลวงเด็กหญิงวัย 13 ปี ขืนใจในห้องน้ำโรงเรียน ขณะที่ทางญาติของผู้ต้องหา เยาวชนทั้ง 7 วอนขอความเป็นธรรม 
 

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ได้จับกุมเยาวชน และวัยรุ่นชายอายุตั้งแต่ 14 –22 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ใน อ.ประโคนชัย และ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ รวมจำนวน 7 คน หลังจากผู้ปกครองของ ด.ญ.อายุ 13 ปี เข้าแจ้งความว่าทั้ง 7 คนร่วมกันล่อลวงบุตรสาวไปขืนใจ ในห้องน้ำโรงเรียนแห่งหนึ่ง พื้นที่ตำบลบึงเจริญ อ.บ้านกรวด เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. (28 ธ.ค.) ที่ผ่านมา

 

จากการสอบปากคำผู้ต้องหาที่มีอายุเกิน 18 ปี เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันกระทำการดังกล่าวจริง โดยอ้างว่า ด.ญ.13 ปี  ยินยอม ผู้เสียหายไม่ได้บังคับแต่อย่างใด แต่ผู้ต้องหาบางคนปฏิเสธอ้างว่าไม่ได้ร่วมกระทำแค่อยู่ในที่เกิดเหตุเท่านั้น

เบื้องต้น ร.ต.อ.ธงรัฐฐ์ เขียวสนาม รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านกรวด ก็ได้ส่งตัว ด.ญ.ผู้เสียหายให้แพทย์โรงพยาบาลบ้านกรวดตรวจสอบร่องรอยการล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 7 คนเบื้องต้นก็ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันกระทำชำเราหญิงอื่นอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง” ซึ่งในจำนวน 7 คน เป็นเยาวชน 4 คน จึงได้นำส่งศาลเด็กและเยาวชนจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว เนื่องจากทำการควบคุมตัวที่โรงพักได้เพียง 24 ชั่วโมง และยังไม่สามารถสอบปากคำได้เนื่องจากยังเป็นเยาวชนต้องรอสอบร่วมกับทีมสหวิชาชีพ ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คนที่อายุเกิน 18 ปี ยังถูกควบคุมตัวที่โรงพักและทำการสอบปากคำตามขั้นตอน ก่อนจะส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดนางรอง

 

โซเชียลหนุนเพิ่มโทษ เกิดเหตุซ้ำ 7 โจ๋ขืนใจเด็กวัย13

ขณะที่ผู้เสียหาย ด.ญ.วัย 13 ปีต้องรอสอบปากคำต่อหน้าทีมสหวิชาชีพเช่นกัน เนื่องจากยังเป็นเยาวชน แต่จากการสอบปากคำแม่ของ ด.ญ.ให้ข้อมูลว่าลูกสาวถูกขืนใจจริง และยืนยันจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มวัยรุ่นทุกคน 

 


นอกจากนี้ทางด้านน.ส.พลอย ซึ่งเป็นภรรยาของ นายเขียว (นามสมมติ) หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ได้ให้ข้อมูล ว่าเด็กหญิงวัย 13 ปี  เป็นแฟนกับ เยาวชนชายอายุ 16 ปีซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ถูกจับ โดยวันเกิดเหตุด.ญ.วัย 13 ได้ส่งไลน์ไปหาเยาวชน 16 ปีที่เป็นแฟนบอกให้ขับรถจักรยานยนต์มารับ เพราะรถตัวเองเสีย จึงไม่ได้เป็นการล่อลวงตามที่ฝ่ายหญิงกล่าวอ้าง

 

ทั้งระบุด้วยว่าจากที่ได้พูดคุยกับสามี ก็ยืนยันว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุด้วย แต่ยอมรับว่าอยู่ในที่เกิดเหตุจริงเพราะไปขับรถเที่ยวเล่นกับเพื่อนตามประสาวัยรุ่น แต่ไม่คิดว่าจะถูกกล่าวหาว่าร่วมก่อเหตุด้วย จึงอยากจะร้องขอความเป็นธรรมให้กับสามีด้วย เพราะหากสามีติดคุกก็จะกระทบกับครอบครัวเพราะสามีทำงานคนเดียว เนื่องจากตนต้องเลี้ยงลูกน้อยอายุแค่ 10 เดือน จึงอยากขอความเห็นใจและขอความเป็นธรรมด้วย

 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ข่าวดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวโซเชียลต่างตั้งคำถามว่า จะต้องมีเหยื่อในคดีแบบนี้อีกกี่คน เรื่องราวแย่ๆ ถึงจะหมดไป เพราะคดีที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัย12 ปี จังหวัดสระบุรีก็สะเทือนใจมากพอแล้ว ยังไม่ทันพ้นข้ามเดือน ก็เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก บางคอมเม้นต์ยังบอกด้วยว่า อย่าเรียกผู้กระทำผิดแบบนี้ว่าเป็นเยาวชนเลย เพราะคิดว่าตนเองเป็นเยาวชน จึงกล้าทำ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย 2 เคสติดในเดือนเดียวกัน อนาคตควรมีการพิจารณาบทลงโทษให้เด็ดขาด

 

โซเชียลหนุนเพิ่มโทษ เกิดเหตุซ้ำ 7 โจ๋ขืนใจเด็กวัย13

ความคิดเห็นจากชาวโซเชียล แนะควรเพิ่มโทษคดีดังกล่าว 

 

 

โซเชียลหนุนเพิ่มโทษ เกิดเหตุซ้ำ 7 โจ๋ขืนใจเด็กวัย13

ความคิดเห็นจากชาวโซเชียล แนะควรเพิ่มโทษคดีดังกล่าว 

 

โซเชียลหนุนเพิ่มโทษ เกิดเหตุซ้ำ 7 โจ๋ขืนใจเด็กวัย13

 

ความคิดเห็นจากชาวโซเชียล แนะควรเพิ่มโทษคดีดังกล่าว 

 

โซเชียลหนุนเพิ่มโทษ เกิดเหตุซ้ำ 7 โจ๋ขืนใจเด็กวัย13

 

ความคิดเห็นจากชาวโซเชียล แนะควรเพิ่มโทษคดีดังกล่าว