- 15 ม.ค. 2562
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ได้ออกมากล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ว่าคนส่วนใหญ่ควรรับข่าวสารเรื่องการเลือกตั้งด้วยวิจารณญาณ มีความเข้าใจในเหตุและผล และเฝ้าดูการทำหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ มีความพร้อมที่จะร่วมสร้างบรรยากาศ "แจ่มใส"
สืบเนื่องจากกรณี พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ได้ออกมากล่าวถึงกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ว่าคนส่วนใหญ่ควรรับข่าวสารเรื่องการเลือกตั้งด้วยวิจารณญาณ มีความเข้าใจในเหตุและผล และเฝ้าดูการทำหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ มีความพร้อมที่จะร่วมสร้างบรรยากาศ "แจ่มใส" ให้ประเทศ และควรให้ความสำคัญกับการเตรียมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ที่เป็นมหามงคลยิ่งของพสกนิกร ที่ในตลอดห้วงชีวิตนี้จะมีโอกาสได้มีส่วนร่วมเพียงครั้งหนึ่ง ควรจะเป็นช่วงเวลาที่สังคมไทยมีบรรยากาศที่มีความสุขสงบเรียบร้อย พร้อมกันนั้นยังได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีนัยบางอย่างเพราะเมื่อพิจารณาแล้วความเคลื่อนไหวของกลุ่มก้อนขณะนี้ได้กลายเป็น "อาชีพ" ไปเสียแล้วและยังเป็นวิธีการเดิมๆที่บางกลุ่มบางส่วนนำมาใช้ โดยที่บางครั้งก็ไม่ได้สนใจบริบททางสังคมโดยรวม
ข้อความดังกล่าวดูเหมือนจะชวนให้พิเคราะห์ต่อไปว่ากลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในขณะนี้ ขับเคลื่อนด้วยอุดมการณ์หรือมีทุนใหญ่คอยหนุนหลังจ่ายค่าตอบแทนเพื่อหวังประโยชน์อันเป็นอื่น เพราะมีข้อเท็จจริงที่ปรากฏว่าก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ New Atlas ได้เปิดเผยรายชื่อองค์กรที่รับเงินจากมูลนิธิ จอร์จ โซรอส โดยระบุว่า ในประเทศไทย บรรดาเอ็นจีโอส่วนใหญ่ที่ต่อต้านกลุ่มผู้ปกครองปัจจุบัน หรือรัฐบาล คสช. อย่างแข็งขันล้วนได้รับการ สนับสนุนจากโอเพน โซไซตี้ที่มีนายโซรอสร่วมก่อตั้งและอีกองค์กรหนึ่งได้รับจากกองทุนเพื่อ ประชาธิปไตยแห่งชาติสหรัฐ ( US National Endowment for Democracy) ซึ่งจุดประสงค์ก็ไม่ใช่ใดอื่นหากแต่เป็นการพยายามเข้าแทรกแซง และเข้าควบคุมจัดการผลประโยชน์ต่าง ๆ ในประเทศนั้น ด้วยการให้งบประมาณสนับสนุนนักการเมือง และกลุ่มมวลชน รวมถึงสื่อมวลชน นักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ให้ออกมาดำเนินการเคลื่อนไหวในเรื่องต่าง ๆ ทั้งทางการเมือง สังคม โดยใช้เรื่องประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนเป็นธงนำในการเคลื่อนไหว
ทั้งนี้นายโซรอสผู้ก่อตั้งองค์กรโอเพน โซไซตี้ ขึ้นในปี 1993 เคยถูกศาลสิทธิมนุษยชนยุโรป (European Court of Human Rights) พิพากษาว่ามีความผิดในการล่วงรู้ข้อมูลก่อนลงทุนซื้อหุ้น ( insider trading) ในปี 2002 นอกจากนี้ยังพบว่าองค์กรส่งเสริมประชาธิปไตยแห่งชาติ “National Endowment for Democracy” (NED) ซึ่งเป็นของโซรอสเช่นกัน ได้มีการ สนับสนุน กลุ่มนักวิชาการที่รวมตัวอย่างชั่วคราว ในชื่อ”นิติราษฏร” – เว็บไซต์ ประชาไท และ นักกิจกรรมเยาวชนต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยใช้กลุ่มเงินทุน โดยกล่าวอ้างว่า สนับสนุนสิทธิมนุษยชน และ สนับสนุนประชาธิปไตย
เหนืออื่นใด NED เคยเปิดเผยการสนับสนุนเงินทุนที่ได้รับการอนุมัติจาก ‘สภาคองเกรส’ ให้กับองค์กรพัฒนาเอกชนไม่แสวงหาผลกำไร ที่ทำงานเพื่อสร้างเสริมประชาธิปไตย การป้องกันสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย กว่า 70 ล้านบาท ในปี 2560
อย่างชัดเจนที่สุด เพราะทุนดังกล่าวได้ถูกนำมาหนุนเวปไซต์ด้านกฏหมายชื่อดังที่เคยเคลื่อนไหวในการ ต่อต้านกฏหมาย ม.112 มาโดยตลอด และ วิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับการดำรงอยู่ตลอดจนการปฏิบัติงานเชิงนโยบาย ของ คสช. เคยรับเงินทุนสนับสนุนจาก กลุ่ม Open Society Foundation (OSF) และ Heinrich Böll Stiftung (HBF) ตั้งแต่ปี 2552 จนถึง ปี 2557 จนกระทั่งปัจจุบันนี้ก็ไม่มีทีท่าว่าเวปไซต์ดังกล่าวจะลดละต่อความพยายามในการดิสเครดิต คสช. แม้แต่น้อย
กลับอีกกลุ่มที่เรียกตนว่า "Amnesty" น่าสนใจที่ว่ามีสมาชิกในกลุ่มนี้หลายคนเป็นหนึ่งในแกนนำ "คนอยากเลือกตั้ง" เช่น นายเนติวิทย์ หนึ่งในนักศึกษาที่วางตนเป็นปฏิปักษ์ต่อ คสช. และถือว่าตนนั้นเป็นพวกหัวก้าวหน้าไม่ยึดติดกับจารีตที่ล้าหลัง โดยเขานั้นเคยเปรยว่าตนเป็นสมาชิกของแอมเนสตี้ฯ มาได้ 4-5 ปีแล้ว และจะตอกชัดขึ้นไปอีกเมื่อย้อนกลับไปวันที่ 10 มิ.ย. 2561 นายเนติวิทย์ ก็ได้โพสข้อความ ระบุว่า
"วันนี้ ผมได้รับเลือกตั้ง จากสมาชิกในที่ประชุมใหญ่ประจำปี ของ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Amnesty International Thailand) ให้เป็น กรรมการเยาวชน (Youth Board Member) ในบอร์ดบริหารขององค์กร ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่จะได้ร่วมงานใน องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนที่มีสมาชิกทั่วโลกกว่า 7 ล้านคนและมีประวัติศาสตร์อันทรงเกียรติเพื่อเพื่อนมนุษย์กว่าห้าสิบปี
***ภารกิจต่อไปคงจะมากมาย แต่ผมจะผลักดันความสำคัญของสิทธิมนุษยชนของเยาวชน ซึ่งถูกละเลยจากโรงเรียน และระบบการศึกษาไทย เราต้องคืนคุณค่าความเป็นมนุษย์ให้กลับมาในโรงเรียน นี่คือเรื่องพื้นฐานที่สำคัญในการพัฒนามนุษย์ ขณะเดียวกันการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทยที่ถูกรัฐบาลทหารปิดปากมากว่าสี่ปีแล้ว**
“ไม่รู้จะเป็นอย่างไรต่อ ไม่ง่าย และต้องร่วมมือกันถึงสำเร็จ ขอให้อย่าฝากมาที่คนคนเดียว เราทุกคนสามารถช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงแก่สังคมไทยและเพื่อนมนุษย์ของเราได้ นักเรียนนิสิตนักศึกษาสนใจหลังไมค์มาร่วมงานกับผมได้นะครับ ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ลงคะแนนให้ครับ”
จะเห็นได้ว่าดูประหนึ่งว่าตัวเนติวิทย์นั้นจะยินดีปรีดากับตำแหน่งและบทบาทอันทรงเกียรติ ไม่เพียงเท่านี้เพราะยังพบว่ารายชื่อผู้สมัครกรรมการ Amnesty ยังมีอีกหลายคนโดยเฉพาะเครือข่ายที่ต่อต้านรัฐบาลเช่นเดียวกับเนติวิทย์คือ
-อนันตชัย โพธิขำ อดีตโฆษกเครือข่ายนักศึกษา ม.ขอนแก่นเพื่อสังคม
-กรกนก คำตา ผู้ประท้วงอุทยานราชภักดิ์
-กวิน ชุติมา กรรมการชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย
-นายนฤสรณ์ บุญศิริ ประธานคณะกรรมการสภาเยาวชนเขตคลองเตย
-คุณรัฐศาสตร์ ชาแท่น นักกิจกรรมสิทธิมนุษชน ม.สารคาม
-อลิสา บินดุส๊ะ เป็นผู้ประสานงานกลุ่มนักกฎหมายอาสา Law Long Beach
แต่แล้วเรื่องทั้งหมดอาจต้องกลับตาลปัตร จากภาพลักษณ์ประชาชนรุ่นใหม่ไฟแรงมุ่งหวังปรับเปลี่ยนกฏเกณฑ์และครรลองแต่เดิมสู่ความศิวิไลซ์บนพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพต้องกลายมาเป็นอื่น เพราะมีรายงานจากสื่อต่างประเทศยืนยันอย่างแน่ชัดว่า Amnesty ในประเทศไทยนั้นได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก จอร์จ โซรอส เช่นกัน สะท้อนอย่างชัดเจนว่า NGO อย่าง (Amnesty International Thailand) ที่มีพฤติการณ์ต่อต้านรัฐบาล คสช. นั้น ด้วยเพราะมีทุนสนับสนุนก้อนใหญ่หนุนหลัง จึงเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า ทุกความเคลื่อนไหวของเขาและเหล่าแกนนำคนอยากเลือกตั้งในปัจจุบันนั้นคาดหวังค่าตอบแทนมากกว่าอุดมการณ์ที่ฟุ้งอย่างน่าเลื่อมใส ก็เป็นได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง