มาแน่ พายุฤดูร้อน 14-18 มี.ค. อีสาน เตรียมรับมือ บางพื้นที่มีลูกเห็บตก

มาแน่ พายุฤดูร้อน 14-18 มี.ค. อีสาน เตรียมรับมือ บางพื้นที่มีลูกเห็บตก

วันที่ 13 มีนาคม 2562 กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน" มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 14-18 มีนาคม 2562 ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 13 มีนาคม 2562

    
โดยในช่วงวันที่ 14-18 มีนาคม 2562 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงมีฟ้าผ่า โดยจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ได้รับผลกระทบในวันถัดไป จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อพืชผลทางการเกษตรไว้ด้วย สำหรับผลกระทบตามภาคต่างๆ มีดังนี้

มาแน่ พายุฤดูร้อน 14-18 มี.ค. อีสาน เตรียมรับมือ บางพื้นที่มีลูกเห็บตก

 

มาแน่ พายุฤดูร้อน 14-18 มี.ค. อีสาน เตรียมรับมือ บางพื้นที่มีลูกเห็บตก

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ประกาศ ณ วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 11.00 น.กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.00 น.

มาแน่ พายุฤดูร้อน 14-18 มี.ค. อีสาน เตรียมรับมือ บางพื้นที่มีลูกเห็บตก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯเตือนฉบับที่ 1 พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน 14-18 มี.ค.62

กรมอุตุฯ ประกาศกลางเดือนนี้ อีสาน-ใต้ เตรียมรับมือฟ้าคะนอง กทม.ร้อนทะลุ 39 องศา!

กรมอุตุฯ เตือน 11-14 มี.ค. ไทยตอนบนเตรียมรับมือพายุฤดูร้อนถล่ม!

กรมอุตุฯ เตือน ทั่วไทยระอุ 10 - 12 มี.ค. อุณหภูมิสูงสุดอาจแตะ 40 องศา

กรมอุตุฯ เผย ไทยตอนบน-เหนือ อุณหภูมิสูงเเตะ 39 องศา

กรมอุตุฯเตือนคนไทยระวังสุขภาพ อากาศร้อนขึ้นและมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่!

กรมอุตุฯประกาศ ไทยตอนบนร้อน มีฝนบางแห่ง กทม.กลางวันร้อน

 

(ขอบคุณข้อมูล:กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา)

123คนดีมีน้ำใจ

ติดตามข่าวที่น่าสนใจอื่นๆได้ใน www.Tnews.co.th