หัวใจดั่งเหล็กกล้า หนุ่มน้อยยอดกตัญญู ทำงานแม้ยากลำบากเลี้ยง 6 ชีวิต หลังเสาหลักของครอบครัวประสบอุบัติเหตุอย่างฉับพลัน

นครปฐม ชื่นชม หนุ่มน้อย ม.2 ยอดกตัญญู ทำงานเลี้ยง 6 ชีวิต หลังพ่อประสบอุบัติเหตุ

               ซาบซึ้งหัวใจเพชร นักเรียน ชั้นม.2 ยอดกตัญญู ใช้เวลาปิดเทอม ทำงานเลี้ยง ปู่ ย่า น้อง หลาน พร้อมพ่อที่ประสบอุบัติเหตุ นอนติดเตียง รวม 6 ชีวิต เผยชีวิตเปลี่ยนหลังหัวเรือล้ม เปิดปากไม่เคยมีน้ำตา แต่พร้อมสู้เพื่อให้ทุกคนอยู่รอด เผยคำพูดสุดประทับใจ พ่อคือสิ่งที่มีค่ามากที่สุดในชีวิต โดยย่าบอก ไม่คิดชีวิตจะพลิกผัน จะอดจะจนแค่ไหน ขอให้ลูกชายยังมีลมหายใจ โชคดีที่มีหลายชายลุกขึ้นมาสู้ แม้จะมีญาติเจือจุนบ้างแต่ รายได้หลานชายคนเดียวไม่พอแน่ช่วงเปิดเทอม

               เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยหลังจากผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่  131 ม.1 ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งเป็นบ้านไม้เก่าๆ 2 ชั้น ที่เริ่มทรุดโทรไปมาก โดยพบกับ เด็กชายปิยวัฒน์ กิ่งแก้ว หรือน้องบีม อายุ 14 ปี และนางระเบียบ กิ่งแก้ว อายุ 74 ปี ผู้เป็นย่า ซึ่งกำลังช่วยกันดูแล นายวิจินต์ กิ่งแก้ว อายุ 42 ปี ที่นอนป่วยติดเตียง ด้วยอาการกะโหลกยุบ มีอาการตอบสนองการรับรู้ได้เพียงไม่มาก รวมถึง ร่างกายซีกขวาไม่สามารถขยับได้ ด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง โดยมีน้องสาวคอยเคียงข้างอยู่ใกล้ๆ ไม่ห่าง

 

หัวใจดั่งเหล็กกล้า หนุ่มน้อยยอดกตัญญู ทำงานแม้ยากลำบากเลี้ยง 6 ชีวิต หลังเสาหลักของครอบครัวประสบอุบัติเหตุอย่างฉับพลัน

 

หัวใจดั่งเหล็กกล้า หนุ่มน้อยยอดกตัญญู ทำงานแม้ยากลำบากเลี้ยง 6 ชีวิต หลังเสาหลักของครอบครัวประสบอุบัติเหตุอย่างฉับพลัน

 

         ซึ่งทุกวันนี้ จะมี เด็กชายปิยวัฒน์ หรือ น้องบีม อายุ 14 ปีเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการหาเลี้ยง คนในบ้าน ประกอบด้วยตัวเอง พ่อที่ป่วย ย่า ปู่ น้องสาว และหลานสาวอีก 1 คน รวม 6 คน โดยได้ออกไปทำงาน ในสวนเกษตรปลอดสารพิษ ไม่ห่างจากบ้านพักและเป็นที่ทำงานเก่าของนายวิจินต์ บิดา ก่อนที่จะมาประสบอุบัติเหตุเมื่อ 10 เดือนก่อน หลังจากถูกชาวต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา ขับขี่จักรยานยนต์ ย้อนศรเข้ามาพุ่งชนอย่างจัง ทำให้ใบหน้าเกิดบาดแผลฉกรรจ์กระดูกที่ใบหน้าแตกหักหลายแห่งและมีเลือดคั่งในสมอง มีโอกาสรอดชีวิตเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ศาลได้ตัดสินชาวกัมพูชาเป็นเวลา 3 เดือน ก่อนจะถูกปล่อยออกมาแล้วเดินทางกลับประเทศไปแล้ว ส่วนนายจ้างที่เคยรับปากว่าจะมาดูแล กลับไม่เคยมาดูแล ทั้งให้ ครอบครัวกิ่งแก้ว ต้องดำเนินชีวิตลำพัง ประกอบกับ เมื่อนางระเบียบ ผู้เป็นย่าของน้องบีม นั้นมีความชราภาพ มีโรคเบาหวาน มาเป็นปัญหา ก็ไม่สามารถประกอบอาชีพทำนาหรือค้าขายได้เหมือนแต่ก่อน ซึ่งปัจจุบัน มีเพียงน้องบีม ที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้านายเก่าของบิดา ให้ไปทำงานมีรายได้ในช่วงปิดเทอมเพื่อนำเงินมาเป็นค่าข้าว ยาและเครื่องใช้ของคนในบ้าน แม้จะมีญาติมาช่วยบ้างแต่ก็ไม่เพียงพอ แม้การกินยังต้องจำกัดเพียงมื้อและ 100 บาท กับ 6 ชีวิตในแต่ละวันไม่รวมการดูแล นายวิจินต์ ที่ยังไม่รู้ว่าจะฟื้นกลับมาดังเดิมได้เมื่อไหร่

 

หัวใจดั่งเหล็กกล้า หนุ่มน้อยยอดกตัญญู ทำงานแม้ยากลำบากเลี้ยง 6 ชีวิต หลังเสาหลักของครอบครัวประสบอุบัติเหตุอย่างฉับพลัน

 

หัวใจดั่งเหล็กกล้า หนุ่มน้อยยอดกตัญญู ทำงานแม้ยากลำบากเลี้ยง 6 ชีวิต หลังเสาหลักของครอบครัวประสบอุบัติเหตุอย่างฉับพลัน

 

              เด็กชาย ปิยวัฒน์ หรือ น้องบีม อายุ 14 ปี บอกว่า ตนเองเรียนจบชั้น ม.2 และกำลังจะขึ้น ม.3 ในช่วงเปิดเทอมนี้ ซึ่งก่อนหน้า นายวิจินต์ บิดาจะเป็นหัวเรือหลังในการทำงานเป็นลูกจ้างในสวนเกษตรปลอดสารพิษ ที่อยู่ห่างจากบ้านพักไปไม่ไกล โดยมีรายได้จากการทำงานของพ่อวันละ 400 บาท ที่คอยดูแลพวกตนในบ้าน ซึ่งวันที่เกิดเหตุเมื่อเดือน สิงหาคม 61 ที่ผ่านมาได้รับทราบเรื่องดังกล่าว ก็คิดว่าพ่อไม่ได้เป็นอะไรมากเพราะพ่อเป็นคนแข็งแรง แต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลอาการหนักมาก และเป็นตายเท่ากัน จากวันนั้นชีวิตของตนเองก็เปลี่ยนไป จากเงินที่เคยได้ไปโรงเรียนเพียงพอกับทุกวัน ก็ไม่พอเงินไม่มีเข้าบ้าน จนวันหนึ่งเจ้านายของพ่อ บอกว่าให้ไปทำงานที่สวนแทนพ่อ โดยจะให้รายได้เท่ากับที่พ่อทำงานได้ ซึ่งตอนแรกตนเองก็รีบรับปากว่าจะทำ และก็ทำมาจนถึงทุกวันนี้ คือการไปตัดหญ้า ดูแลสวน และทำกล้วยตาก ตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมจึงได้ทำงานทุกวัน มีรายได้ เดือนละ 1.2 หมื่นบาท เงินทั้งหมดก็ให้ย่าดูแลตนเองขอมาบางส่วนเพื่อใช้จ่ายเท่านั้น

               “ทุกวันนี้ตนเองไม่ท้อ เรื่องนี้สอนให้อดทน และประหยัด โดยมีเป้าหมายให้ย่าเก็บให้หมด ผมคิดว่าจะเอาเงินที่เก็บได้เอาไว้ใช้ตอนเปิดเทอม ตั้งแต่เด็กพ่อผมขยันมาก เวลาไปงานกับพ่อ พ่อจะบอกว่าถ้ามึงเหนื่อยมึงก็นั่ง ถ้ามึงยืนกูจะคิดว่ามึงไม่เหนื่อย กูก็จะใช้ทำงานต่อ พ่อเป็นคนขยันมาก หลังเสร็จงานก็จะเอาตาข่ายไปดักปลา เพื่อมาทำอาหารให้พวกเรากิน วันนี้มันไม่เหมือนเดิม ผมก็ต้องทำแทน ชีวิตผมอยากจะเป็นช่างอีเล๊คโทรนิค แต่ไม่รู้จะได้เรียนสายช่างรึเปล่า เพราะผมต้องทำงานไปด้วย เปิดเทอมก็ไม่รู้ว่าเงินจะพอรึเปล่า ชีวิตผมที่อยู่ทุกวันนี้ สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือพ่อ และย่า อยากให้พ่อหายกลับมานั่งดูทีวี ซื้อน้ำอัดลม มานั่งกินกันแบบเมื่อก่อน ทุกวันนี้ผมทำได้เหนื่อย แต่ไม่ท้อ ไม่อาย และอยากทำงานเลี้ยงในบ้าน” น้องบีมพูดด้วยแววตามุ่งมั่น

               ด้าน นางระเบียบ กิ่งแก้ว อายุ 74 ปี บอกว่าหลังจากนายสุจินต์ ประสบอุบัติเหตุ จากความชุ่ยของคนที่ไม่คำนึงถึงความประมาท ทุกวันนี้เดือดร้อนมาก ไม่คิดว่าเรื่องแบบนี้จะมาเกิดกับครอบครัวของเรา เงินทองที่เคยมีก็หมดลงไปทุกวัน การกินทุกมื้อก็ต้องกประหยัด วันหนึ่งๆ ต้องจำกัดค่าอาหาร 6 ชีวิต ที่ต้องอยู่ด้วยกัน จะใช้เงิน 100 บาท เพื่อซื้อกับข้าวมาทำเก็บกินไว้ ให้ได้ครบทุกคน เปิดเทอมนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีเงินพอส่งหลานไปเรียนรึเปล่า

               นางระเบียบ บอกอีกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่อง เงินที่นายจ้างของต่างด้าวบอกจะช่วยก็ไม่เคยมีมา ไม่เคยมาถามไม่เคยใส่ใจ ภาครัฐก็ไม่เคยมาถามว่าเป็นยังไม่ ไม่นานเพิ่งมีเหล่ากาชาดมาถามและให้ข้าวของเครื่องใช้บ้าง แต่ก็ไม่พอ ตนเองก็ยังเป็นโรคเบาหวาน ร่างกายก็ไม่แข็งแรง โชคดีที่นายจ้างของลูกชายมารับหลานให้ทำงานไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินจากที่ไหน ตอนนี้รับแต่เบี้ยคนสูงอายุ แต่ไม่ได้เงินคนจน เพราะไม่รู้เรื่องว่าเขาทำกันยังไง ทุกวันนี้มีเพื่อนบ้างมาแบ่งปันบ้าง แต่ก็ตามกำลังของเขาที่ทำได้

               “ฉันร้องไห้มาทุกวัน 10 เดือน ทุกข์ทรมานใจ เมื่อก่อนลูกชายอยู่ก็เป็นคนหาเลี้ยงพวกเรา แต่พอเขามาเป็นแบบนี้ก็ทุกอย่างเปลี่ยนหมดเมื่อก่อนลูกชายฉันขยันมาก เป็นห่วงฉันมาก ไปทำงานก็ซื้อข้าวขาหมูคากิมาถุงนึง 60 บาท ก็จะไปตักข้าวมาให้แม่กิน หรือไม่ก็จะดูแล วันนี้หลานชายยังดีที่เขาไม่ดื้อ ขยัน เหมือนพ่อเขา สำหรับฉันถึงจะจนกัดก้อนเกลือกิน แต่ความหวังคืออยากให้ลูกชายหายกลับมาได้ จากที่มีความหวัง 2 เปอร์เซ็นต์ วันนี้เขาดีขึ้นทุกวัน ฉันมีกำลังใจก็คือเขา แต่วันนี้น้อยใจกับดชคชะตาเหลือเกิน นาก็ทำไม่ไหว ร้านขายของก็ทำไม่ได้ ฉันแก่มากแล้ว วันนี้ทุกวันน้องบีม หลังจากทำงานเสร็จ ก่อนนอนทุกคืนก็จะมานั่งนวดให้ฉันและปู่ของเขา เขากตัญญูมากๆ หลานขาวคนนี้” นางระเบียบเล่าทั้งน้ำตา

               จากการพูดคุยกับ เด็กชายปิยวัฒน์ หรือน้องบีม บอกว่า ไม่อายกับความจนในครอบครัว ทุกวันนี้มีเพื่อนให้กำลังใจแต่ว่าปิดเทอมครั้งนี้ก็ไม่ได้เจอเพื่อน เพราะต้องทำงานทุกวันเพื่อเอาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายและสะสมไว้สำหรับช่วงเปิดเทอม และยังเป็นห่วงเรื่องคะแนนสำหรับจะใช้ไปเป็นเกรดสะสมเพื่อขอโควตาเข้าวิยาลัย เรียนต่อ เพราะต้องทำงานมากขึ้น ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยนอนร้องไห้หรือไม่ น้องบีมตอบทันทีว่าไม่เคย ซึ่งทุกวันไม่เคยรังเกียจการเก็บปัสสาวะ อุจาระและการคอยล้วงเอาเสมหะออกจากหลอดลมของพ่อซึ่งต้องทำทุกวันโดยมีย่าและน้องสาวกับหลานมาคอยช่วยอยู่ทุกวันด้วย

 

หัวใจดั่งเหล็กกล้า หนุ่มน้อยยอดกตัญญู ทำงานแม้ยากลำบากเลี้ยง 6 ชีวิต หลังเสาหลักของครอบครัวประสบอุบัติเหตุอย่างฉับพลัน

 

หัวใจดั่งเหล็กกล้า หนุ่มน้อยยอดกตัญญู ทำงานแม้ยากลำบากเลี้ยง 6 ชีวิต หลังเสาหลักของครอบครัวประสบอุบัติเหตุอย่างฉับพลัน

 

หัวใจดั่งเหล็กกล้า หนุ่มน้อยยอดกตัญญู ทำงานแม้ยากลำบากเลี้ยง 6 ชีวิต หลังเสาหลักของครอบครัวประสบอุบัติเหตุอย่างฉับพลัน


ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข ผู้สื่อข่าวภูมิภาคสำนักข่าวทีนิวส์  จ.นครปฐม