ทุกข์หนัก ! พี่สาววอนผู้พบเห็น แจ้งเบาะแสน้องสาวหายจากบ้านไร้ร่องรอยนาน 7 ปี หมดหนทางตาม พ่อแม่แก่ชราเศร้าโศก ความหวังก่อนตายอยากให้กลับมาอยู่ด้วยกัน

 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า เจ้าของร้านเสริมสวย “รี บิ้วตี้” เลขที่ 138 ถ.วิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง กำลังทุกข์ใจอย่างหนัก เนื่องจากน้องสาวคนสุดท้องของครอบครัวคือ น.ส.นันทณัช ฤทธิ์ดี หรือ น้องแมว อายุ 38 ปี หายไปจากบ้านช่วงเดือน เม.ย.2556 ซึ่งนับเป็นเวลาถึงปัจจุบันนานเกือบ 7 ปี แม้ทางครอบครัวจะพยายามติดตาม สืบหา ไปทุกหนแห่งที่คิดว่าน้องสาวจะไปก็ไม่มีวี่แวว และไม่เคยได้การติดต่อใดๆกลับมาแม้แต่ครั้งเดียว จนหมดสิ้นหนทาง

ทุกข์หนัก พี่สาววอนผู้พบเห็น แจ้งเบาะแส น้องสาวหายจากบ้านไร้ร่องรอยนาน 7 ปี

ทุกข์หนัก พี่สาววอนผู้พบเห็น แจ้งเบาะแส น้องสาวหายจากบ้านไร้ร่องรอยนาน 7 ปี

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวก็ได้เดินทางไปพบกับ นางมยุรี คงนวล อายุ 51 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยดังกล่าว และให้สัมภาษณ์ว่า น.ส.นันทณัช ฯ หรือน้องแมว เกิด พ.ศ.2524 หายออกไปจากบ้านเมื่อช่วงเดือน เม.ย. 2555 ตอนนั้นอายุประมาณ 32 ปีโดยก่อนจะหายออกไปจากบ้านน้องสาวตนเองก็น่าจะมาพักที่ร้านเสริมสวยแห่งนี้ หรืออาจจะเข้ามาเก็บเสื้อผ้า เนื่องจากเวลาว่างๆ ก็มาช่วยตนเองทำผมให้ลูกค้าด้วย ตนเองก็ให้พักที่ร้าน ซึ่งก็มีกุญแจเข้า-ออก ได้สะดวก และต่อมาก็มี ด.ต.คนหนึ่ง มาชอบพอและมาขอจะแต่งงานด้วย แต่น้องสาวไม่ได้รัก แต่ ด.ต.คนนั้นก็พยายามติดตาม ซื้อข้าวของ ทรัพย์สิน ของมีค่าให้มากกมาย รวมถึงรถยนต์มาให้ 1 คัน น้องก็รับไว้แบบขัดไม่ได้ ก็บ่นอยู่ตลอดว่าไม่ได้รัก จนกระทั่ง ด.ต.คนนี้ขอให้แต่งงานด้วย น้องสาวตนก็ไม่อยากแต่งเพราะไม่ได้รัก อีกทั้งมีแฟนที่กำลังคบหาดูใจซึ่งเป็นทอมอยู่แล้วด้วย แต่สุดท้ายตนเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆน้องสาวก็ตัดสินใจยอมแต่งงานกับ ด.ต.คนดังกล่าวและอยู่กินกันได้ประมาณ 2-3 เดือนเท่านั้น หลังแต่งงานน้องสาวก็ขออนุญาติสามีไปเรียนเสริมสวยเพิ่มเติมที่ กทม.โดยทางสามีเป็นคนส่งเสียให้เรียนจนจบ แล้วก็กลับบ้านที่ จ.ตรัง แต่ยังไม่ทันพบหน้าสามีเพราะตนเองเพิ่งมารู้ทีหลัง ว่าน้องสาวได้นัดสามีให้ไปเจอกันที่บ้านพ่อแม่ที่ อ.ย่านตาขาว ในวันรุ่งขึ้น แต่พอถึงเวลานัด น้องสาวตนเองกลับหายตัวไปแบบไร้ร่องลอย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ทุกข์หนัก พี่สาววอนผู้พบเห็น แจ้งเบาะแส น้องสาวหายจากบ้านไร้ร่องรอยนาน 7 ปี

ทุกข์หนัก พี่สาววอนผู้พบเห็น แจ้งเบาะแส น้องสาวหายจากบ้านไร้ร่องรอยนาน 7 ปี

แต่หลังจากนั้นถัดมาอีกปีประมาณปลายปี 2556 ตนเองก็ได้รับจดหมายจากเทศบาลตำบลวิชิต จ.ภูเก็ต ว่าให้ย้ายชื่อของ น.ส.นันทณัช หรือน้องแมว น้องสาวตนเองออกจากบ้านเลขที่ 64/38 ม.2 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของตนเอง เนื่องจาก เจ้าตัวได้ขอย้ายปลายทางไปเข้าอยู่บ้านเพื่อนเลขที่ 2/205 ม.6 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ตแล้ว ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค.2556 ทราบดังนั้นตนเองก็เดินทางไปที่ จ.ภูเก็ตเพื่อหาบ้านหลังนี้แต่ก็ทราบว่า เจ้าของได้ขายบ้านไปแล้ว ทำให้ความหวังที่พอจะมีอยู่บ้างดับมืดลงไปอีก กลับมาถึงบ้านพ่อแม่ซึ่งมีอายุมากแล้วก็ตามถามหาน้องสาว ว่าเจอหรือไม่ อยากให้พาตัวกลับมาบ้านด้วยกัน แต่ทุกคนก็ต้องผิดหวัง ทุกวันนี้โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลญาติพี่น้องทุกคนต่างก็กลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ สังสรรค์กัน ทุกคนก็ยิ้ม หัวเราะ มีความสุขกันแบบไม่เต็มที่ ต่างอยากให้น้องแมว ซึ่งเป็นน้องสาวคนสุดท้อง กลับมาบ้านอยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะ พ่อและแม่ ซึ่งมีอายุมากแล้ว ไม่อยู่จะมีชีวิตอยู่กี่วัน ก็มีอาการโศกเศร้า เซื่องซึม พวกเราทุกคนอยากเห็นพ่อแม่ มีความสุขสักครั้งในบั่นปลายของชีวิต ซึ่งยอมรับว่าหมดปัญญาที่จะตามจริงๆ แต่ในใจรู้สึกเป็นห่วงน้องสาวอยู่ตลอดมาว่าไม่รู้เป็นตายร้ายดี อย่างไร ยังมีชีวิตอยู่ดีหรือไม่ หรือถ้าน้องสาวตนเองได้จากโลกนี้ไปแล้ว ก็ขอให้ได้ทราบข่าวก็ยังดี จนถึงทุกวันนี้ตนเองหลับตานอนทุกคืน ก็คิดถึงแต่เรื่องนี้ตลอด แต่ตนเชื่ออยู่เสมอว่า น้องสาวยังมีชีวิตอยู่  แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม ตนยังรอน้องสาวกลับมาเสมอ จึงอยากจะวิงวอน หากผู้ใดพบทราบเบาะแสหรือพบเห็นผู้หญิงที่มีลักษณะเหมือนน้องสาวตนเองกรุณา แจ้งมาที่หมายเลข 083-388-4040 ด้วย ซึ่งขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้

ถนอมศักดิ์ หนูนุ่ม ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดตรัง

ทุกข์หนัก พี่สาววอนผู้พบเห็น แจ้งเบาะแส น้องสาวหายจากบ้านไร้ร่องรอยนาน 7 ปี