เมศ เจ้าชายน้อยถึงกับน้ำตาคลอ ชีวิตยายชราต้องเดินตากแดดตากลมไปขอข้าวมาให้ลูกได้กิน

เมศ เจ้าชายน้อยถึงกับน้ำตาคลอ ชีวิตยายชราต้องเดินตากแดดตากลมไปขอข้าวมาให้ลูกได้กิน

วันที่ 6 ธันวาคม 2562 บนเฟซบุ๊กPoramet Misomphop ของคุณเมศ เจ้าชายน้อย หนุ่มจิตอาสาชื่อดังได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมคุณลุงกับคุณยายที่เคยออกข่าวชีวิตสุดลำบาก ได้รับรู้ความจริง ได้เห็นสภาพความเป็นอยู่กับตายิ่งสงสารจับใจ นี่หรือชีวิตคนเรา

คุณเมศโพสต์เล่าว่า 

 

เมศ เจ้าชายน้อยถึงกับน้ำตาคลอ ชีวิตยายชราต้องเดินตากแดดตากลมไปขอข้าวมาให้ลูกได้กิน

 

วันที่ " ความจริงที่เศร้ากว่า " ยายก็อยู่ดูแลไปแบบนี้จนกว่าจะตาย คนเป็นแม่นะหนู ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไง หมามันยังรักลูกของมันเลย... คุณคิดดู..คนเป็นแม่ ที่อายุกว่า 80 ปี ต้องเดินตากแดด ตากลม เพื่อออกไปขอข้าวจากชาวบ้าน ขอข้าววัด เพื่อให้ลูกได้กิน...มันน่าเศร้าแค่ไหน..

จากกรณีที่ทางสื่อสำนักงาน ข่าวสด ได้เสนอเรื่องราวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเจอคุณลุงท่านนึงเดินอยู่ริมถนนในสภาพหมดเรี่ยวแรงจึงเข้าไปสอบถามและทราบว่า คุณลุงท่านนี้เดินมาจากโรงพยาบาลและกำลังจะกลับบ้าน
ซึ่งบ้านอยู่หากจากสถานที่พบเจอกว่า 20 กิโล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ความช่วยเหลือ ไปส่งคุณลุงที่บ้านและพบสภาพความเป็นอยู่ที่สลดหดหู่ไปก่อนหน้านี้...จนมีเพื่อนๆพี่ๆส่งเรื่องราวมาให้เมศเข้าช่วยเหลือ เมศจึงรีบหาข้อมูลและรีบติดต่อประสานงาน กับทางผู้ใหญ่บ้านเพื่อลงพื้นที่เข้าเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือทันทีเมื่อมาถึงกลับพบเรื่องราวความจริงที่ชวนสลด หดหู่มากกว่าเดิม...

สภาพบ้านทรุดโทรมติดถนนริมคูน้ำเล็กๆ ภายในบ้านแทบไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรทั้งสิ้น บ้านหลังนี้มีเพียงคุณยายวัย 80 ปี ( ยายลวด ) ผู้เป็นแม่ ที่สายตาทั้ง 2 ข้างเริ่มฝ้าฟาง มองเห็นลำบาก และ นาย สุพิน วัย 55 ปี ( ลุงหรั่ง )ที่มีอาการทางสมองบ้าง พูดจาพอรู้เรื่องจับใจความได้ สภาพร่างกายเดินไม่ค่อยมีแรงอยู่กันเพียง 2 คนในบ้านหลังนี้บนที่ดินของพลเมืองดีคนนึง ส่วนบ้านนั้นทางเจ้าหน้าที่รัฐได้ช่วยเหลือปลูกสร้างให้ 2 แม่ลูกคู่นี้ได้พักอาศัยมาหลายปี

ผู้ใหญ่บ้านได้เล่าชีวิตของ 2 แม่ลูกคู่นี้ให้เมศฟังว่า..ยายลวด อายุมากแล้ว ไม่สามารถทำงานอะไรได้ ส่วนลูกชายก่อนหน้านี้ทำงาน รปภ.และได้ลาออกมาขับรถ สิบล้อจนเกิดอุบัติเหตุทำให้สมองได้รับการกระทบกระเทือน

ทุกวันนี้คุณยายลวด ผู้เป็นแม่บางวันต้องเดินออกไปขอข้าวที่วัด หรือเพื่อนบ้านเพื่อนำมาให้ลูกได้กิน ชาวบ้านในหมู่บ้านก็คอยช่วยเหลือกันตามกำลังเท่าที่ทุกคนจะพอช่วยได้

 

คุณยายลวดยังพูดให้เมศฟังอีกว่า..คนเป็นแม่นะหนู ใครจะอยากเห็นลูกตัวเองอดอยาก ยายทนได้ ยายจะอยู่ดูแลแบบนี้ไปจนกว่าจะตาย คนเป็นแม่นะหนู ไม่ว่าลูกจะเป็นยังไง ยายก็รัก หมามันรักลูกของมันเลย...

เบื้องต้นเมศได้นำข้าวสาร น้ำดื่ม ให้กับทางครอบครัว 2 แม่ลูกคู่นี้ และได้นำเงินให้กับทางคุณยายและลูกเอาไว้ใช้จ่ายชีวิตประจำวันจำนวนหนึ่ง

หากเพื่อนๆพี่ๆต้องการช่วยเหลือคุณยายและคุณลุง 2 แม่ลูกคู่นี้ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีคุณยายได้ โดยตรงที่บัญชีธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ชื่อบัญชี นางสาว ลอด จันทร์เชื้อ เลขที่บัญชี 020 168 944 712

 

เมศ เจ้าชายน้อยถึงกับน้ำตาคลอ ชีวิตยายชราต้องเดินตากแดดตากลมไปขอข้าวมาให้ลูกได้กิน

 

(เลขบัญชีนี้เป็นของคุณยายโดยตรง และทางผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้ถือสมุดบัญชีช่วยดูแล เวลายายจะเบิกเงินทางผู้ใหญ่บ้านจะพาคุณยายไปเบิกเงินด้วยตัวเอง )

เนื่องจากคุณยายอายุมาก และ สภาพร่างกายลูกชายไม่แข็งแรง ทางเมศจึงได้คุยกับทางผู้ใหญ่บ้านรบกวนทางพลเมืองดีทุกท่านที่จะเดินทางไปเยี่ยมเข้าช่วยเหลือครอบครัวคุณยายถ้าไม่จำเป็นจริงๆ รบกวนอย่าส่งมอบเงินให้กับทางครอบครัวได้ตรงเนื่องจากคุณยายอายุมาก และ ร่างกายลูกชายไม่แข็งแรง เกรงจะมีผู้ไม่หวังดี จะเข้ามาทำร้าย ข่มขู่ ประสงค์ร้ายต่อครอบครัวคุณยายครับ..

 

เมศ เจ้าชายน้อยถึงกับน้ำตาคลอ ชีวิตยายชราต้องเดินตากแดดตากลมไปขอข้าวมาให้ลูกได้กิน

 

สอบถามรายละเอียดกับทางผู้ใหญ่บ้านได้โดยตรง 096 - 858 - 0026 ครับ หรือสอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับเมศ 080- 775- 3230 ครับ

 

เมศ เจ้าชายน้อยถึงกับน้ำตาคลอ ชีวิตยายชราต้องเดินตากแดดตากลมไปขอข้าวมาให้ลูกได้กิน

 

ขอขอบคุณผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในหมู่บ้าน ที่คอยดูแลช่วยเหลือครอบครัวคุณยายและลูกชาย

ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการทุกภาคส่วนที่คอยช่วยเหลือครอบครัวคุณยายและลูกชาย

ขอขอบคุณ ข่าวสด ที่เสนอเรื่องราวของลุง ขอขอบคุณ เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ความช่วยเหลือคุณลุง....ครับ ภาพบางส่วนจากสำนักงาน ข่าวสด

นี่ละครับชีวิตของคนเป็นแม่ ต่อให้ตัวเองจะเหนื่อย ลำบากแค่ไหน ต่อให้ลูกจะเป็นยังไง คนเป็นแม่ก็รัก ไม่ทอดทิ้งลูกของตัวเอง.... ถึงแม้ว่าตัวเองจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน....ก็ตาม

( เมศได้รับอนุญาตจากทางคุณยาย ผู้ใหญ่บ้านให้ถ่ายรูป และนำรายละเอียดพร้อมรูปถ่ายทั้งหมดลงสื่อออนไลน์เรียบร้อยแล้วครับ)

 

ขอบคุณ Poramet Misomphop