มติครม.เห็นชอบ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศแล้ว มีผลทันที 1 ม.ค. 2563

สืบเนื่องจากที่ นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 20 โดยใช้เวลาหารือกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังเป็นประธานการประชุม ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาตัวเลขการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ จากที่คณะอนุกรรมการจังหวัดทุกจังหวัดได้เสนอมา และคณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรองได้พิจารณาแล้ว ซึ่งบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี

สืบเนื่องจากที่ นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 20 โดยใช้เวลาหารือกว่า 4 ชั่วโมง ซึ่งภายหลังเป็นประธานการประชุม ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้พิจารณาตัวเลขการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ จากที่คณะอนุกรรมการจังหวัดทุกจังหวัดได้เสนอมา และคณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรองได้พิจารณาแล้ว ซึ่งบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยดี 

โดย นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานการประชุม ที่กระทรวงแรงงาน ได้มีการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง และมีวาระสำคัญคือการพิจารณากรอบการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ  ซึ่งถือเป็นการประชุมนัดสุดท้ายของปี  โดยก่อนหน้านี้มีการประชุมมาแล้วครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 พ.ย.2562 แต่เลื่อนการพิจารณาเป็นวันที่ 6 ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมา 

 

มติครม.เห็นชอบ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศแล้ว มีผลทันที 1 ม.ค. 2563


อ่านข่าว - มติคกก.ค่าจ้างเห็นชอบ ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ มีผล 1 ม.ค. 2563

และล่าสุด ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. ได้มีมติเห็นชอบตามที่คณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 20 มีมติกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ/วัน ปี 2563 โดยการพิจารณา กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของคณะกรรมการฯ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเสมอภาค และรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย

 

 

เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นที่ยอมรับร่วมกัน คือนายจ้างสามารถประกอบธุรกิจอยู่ได้ ลูกจ้างสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างเป็นสุข ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะไม่เป็นอุปสรรค ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ หรือมีผลทำให้ราคาสินค้าและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อภาวะการครองชีพของประชาชนโดยทั่วไป

 


โดยอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ/วัน ปี 2563 แบ่งออกเป็น 10 กลุ่มจังหวัด ได้แก่ 1.อัตราค่าจ้าง 346 บาท 2 จังหวัด คือ ชลบุรี ภูเก็ต 2.อัตราค่าจ้าง 335 บาท 1 จัวหวัด คือ ระยอง 3.อัตราค่าจ้าง 331 บาท 6 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร 4.อัตราค่าจ้าง 330 บาท 1 จังหวัด ฉะเชิงเทรา 5.อัตราค่าจ้าง 325 บาท 14 จังหวัด คือ กระบี่ ขอนแก่น เชียงใหม่ ตราด นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา พังงา ลพบุรี สงขลา สระบุรี สุพรรณบุรี สุราษฏร์ธานี หนองคาย อุบลราชธานี 6 อัตราค่าจ้าง 324 บาท 1 จังหวัด คือ ปราจีนบุรี

 


7.อัตราค่าจ้าง 323 บาท 6 จังหวัด คือ กาฬสินธุ์ จันทบุรี นครนายก มุกดาหาร สกลนคร สมุทรสงคราม 8.อัตราค่าจ้าง 320 บาท 21 จังหวัด คือ กาญจนบุรี ชัยนาท นครพนม นครสวรรค์ น่าน บุรีรัมย์ ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ แพร่ ภูเก็ต เลย สระแก้ว สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี อุตรดิตถ์ 9.อัตราค่าจ้าง 315 บาท 22 จังหวัด คือ กำแพงเพชร ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย ตรัง ตาก นครศรีธรรมราช พิจิตร แพร่ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ระนอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน ศรีสะเกษ สิงห์บุรี สุโขทัยภู อุทัยธานี อำนาจเจริญ และ10.อัตราค่าจ้าง 313 บาท 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ปัตตานี ยะลา

 

 

ทั้งนี้ให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไปและให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการค่าจ้างเรื่องอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 9) ลงวันที่ 19 มกราคม 2561

 

มติครม.เห็นชอบ ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศแล้ว มีผลทันที 1 ม.ค. 2563