- 12 ธ.ค. 2562
เมื่อหนุ่มไทย เจอฝรั่งยืนอยู่ในร้านขายแผ่นเสียง พอมองดีๆ เขาคือบุคคลระดับตำนาน มันคือวาสนาในชีวิตจริงๆ
เพจเฟซบุ๊ก "นักล่าผู้บ้าบิ่น" ได้โพสต์ข้อความและเนื้อหาดังนี้
ต่อให้คุณมีเงินทองกองอยู่ตรงหน้ามากมายเท่าใดก็ตาม แต่คุณก็ไม่สามารถซื้อ "วาสนา" มาครอบครองได้
ผมเก็บรักษาภาพเหล่านี้มานานหลายปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เปิดเผยสู่สาธารณะแบบครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด
ย้อนกลับไปในปี 2013 ผมมีโอกาสได้พบกับ จิมมี เพจ ด้วยความสุดบังเอิญ จำได้เป็นอย่างดีว่าหลังเลิกงานเย็นวันนั้น ผมตั้งใจไปหาซื้อแผ่นเสียงของคณะ Led Zeppelin ซึ่งในช่วงเวลานั้นไม่ค่อยพบเห็นตามร้านขายแผ่นเสียงทั่วไปในบ้านเราเท่าไหร่นัก
จุดหมายปลายทางของผมจึงอยู่ที่ถนนรัชดาฯ
เมื่อถึงที่หมาย หลังจากเดินเข้าร้านทักทายเจ้าของร้านตามประสา กวาดสายตามองไปรอบๆ สังเกตเห็นว่ามีลูกค้าอยู่ในร้านประมาณ 3-4 คน ก็ไม่ได้ติดใจอะไร ผมก็มุ่งตรงไปที่หมวดอักษร "L" ในโซนเฮฟวี่เมทัล/ฮาร์ดร็อก เพื่อคุ้ยอัลบั้มของคณะเรือเหาะฯ แบบไม่ให้เสียเวลา
เมื่อคุ้ยจนได้ที่ ผมก็กำลังจะเปลี่ยนไปคุ้ยโซนอื่นบ้าง
ทันใดนั้นเอง เหลือบไปเห็นชายสูงวัยสองคนในชุดดำที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่งของร้าน พอเดาได้ว่าไม่น่าใช่คนไทย สักพักเสียงสนทนาของทั้งคู่ดังพอที่จะให้ผมได้ยินและยืนยันความคิดเดิมว่าไม่ใช่คนไทยแน่นอน
ผมรอให้ลูกค้าสองท่านนี้ที่กำลังเลือกแผ่นเพลงแจ๊ส/บลูส์ อยู่เดินออกมาก่อนแล้วค่อยเดินเข้าไปคุ้ยแผ่นต่อ
ไม่นานนัก ทั้งคู่เดินตรงเข้ามาทางที่ผมยืนอยู่ และสิ่งที่ทำให้ผมต้องพบกับความประหลาดใจก็คือชายคนผมสีขาวที่มีรูปร่างสูงประมาณผม
ด้วยรูปร่าง หน้าตา ด้วยบุคลิก ด้วยน้ำเสียง ทำไมช่างละม้ายคล้ายกับใครคนหนึ่งที่ผมเคยรู้จักมาก่อน!
ถึงตอนนี้แล้ว คุณคงเดาออกว่าผมหมายถึงใคร?
แต่ผมไม่คิดว่ามันจะใช่นะ
วันนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้ผมเดินทางไกลฝ่ารถติดมาแถวใจกลางเมือง ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมมาตามหาแผ่น Led Zeppelin และก็ไม่รู้อะไรเป็นใจให้ผมหามันเจอ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วมั้ง ผมคงไม่คาดฝันว่าจะพบเจออะไรที่เกี่ยวข้องกับคณะเรือเหาะฯ อีก
และแล้วคุณลุงผมขาวคนดังกล่าวก็ทำให้ผมแทบช็อกจนล้มทั้งยืน มือไม้แข้งขาสั่นไปหมด ทันทีที่รู้ว่าคุณลุงฝรั่งคนนั้นคือคนที่อยู่ในปกอัลบั้มที่ผมกำลังถืออยู่นั่นเอง!
ใช่ครับ...ผมกำลังหมายถึง จิมมี เพจ มือกีตาร์วง Led Zeppelin!!!
นอกจากการสัมผัสด้วยตัวเองแล้ว เจ้าของร้านยังเป็นน้ำหนักอีกหนึ่งเสียงในการยืนยันตัวตนว่าสำเนานั้นถูกต้อง 100%
ถึงเวลานั้นแล้ว ผมรู้ตัวเองดีว่าอาจไม่สามารถควบคุมอาการตื่นเต้นเอาไว้ได้ หากยังยืนอยู่บริเวณนั้นอีกต่อไป ในขณะที่เสียงอีกด้านหนึ่งของหัวใจกระตุ้นเบาๆ ว่า "เดินเข้าไปเลยสิ รออะไรอยู่?"
ใช่...โอกาสอยู่ตรงหน้าแล้ว ผมคงไม่อยากกลับบ้านมือเปล่าไปนอนคิดถึงบรรยากาศที่ได้เจอไอดอลระดับโลกแล้วจบเพียงแค่นั้นเป็นแน่
มันควรมีอะไรที่มากกว่าการยืนมองดูเฉยๆ
และแล้วความกังวลใจ ความอึดอัด ความกดดันทุกอย่างที่มีในตัวผม ก็คลี่คลายบรรเทาลงไปในทันที เมื่อ จิมมี เพจ เอ่ยปากถามว่า "คุณอยากถ่ายรูปด้วยกันมั้ย?"
ให้ตายสิ!...เข่าผมแทบทรุดลงไปกองกับพื้นเดี๋ยวนั้นเลย
ในที่สุดผมก็ได้ถ่ายภาพคู่กับมือกีตาร์ผู้เป็นดั่งครูและผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมหยิบกีตาร์โปร่งขึ้นมาแกะเพลง "Stairway to Heaven" เป็นเพลงแรกในชีวิต
"ไหน ลองเช็คภาพดูซิ ว่าโอเคมั้ย?"
จิมมี เพจ พูดกับผม เหมือนกับเขาเห็นว่าภาพมันย้อนแสง
"ไปถ่ายมุมนั้นกันอีกภาพดีกว่า"
จิมมี ที่มาในลุคแต่งตัวสบายๆ นุ่งขาสั้น สวมเสื้อยืดสีดำมีลาย The Stars and Stripes และ Union Jack บนหน้าอก วางกล้องที่สะพายอยู่ลงบนลังแผ่นเสียง พร้อมกับเดินเข้ามาโอบไหล่ผมด้วยรอยยิ้มที่ใครเห็นแล้วเป็นต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "โลกใบนี้ช่างสดใสเหลือเกิน"
เมื่อเป็นแบบนั้นแล้ว ผมจึงโอบไหล่เขาเช่นกันเพื่อไม่ให้เสียดุลการค้าระหว่างทั้งสองชาติ
มันจึงเป็นสองภาพในชีวิตที่ได้ถ่ายคู่กับ จิมมี เพจ
ไม่มีใครรู้อนาคตหรอก และผมก็ไม่สามารถตอบได้ว่า นั่นคือโอกาสเพียงครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตที่เกิดขึ้นหรือไม่
รู้แค่ว่ามันเป็นช่วงเวลา 15 นาทีที่มีความสุขที่สุดในชีวิต!
แม้ว่าผมจะเคยออกตามล่าและได้พบเจอกับนักร้อง นักดนตรี นักกีฬา รวมทั้งเหล่าเซเลปคนดังจากทั่วโลกมานับพันชีวิตแล้วก็ตาม
แต่ไม่มีครั้งไหนที่เหมือนกับครั้งนี้
ขอบคุณ "พรหมลิขิต" ที่ทำให้เราได้มาเจอกัน แม้จะอยู่คนละซีกโลกก็ตาม
นักล่าผู้บ้าบิ่น