ตำรวจบุกจับคนร้ายขโมยของร้านรับซื้อของเก่า เสียหายหลายแสน

จากกรณีมีผู้ใช้ Facebook ชื่อ Pookkie Nattamonรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด พร้อมระบุข้อความให้ช่วยกันตามจับตัวคนร้าย หลังเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่ผ่านมา ครอบครัวได้เดินทางไป ต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้มีคนร้ายบุกเข้ามาขโมยของที่ร้านรับซื้อ ของเก่าหลุดจำนำ ย่านเตาปูน  ในบ้านถึง 3 วันติด ระหว่างวันที่ 26 - 28 ธันวาคม 2562 พร้อมมีเงินรางวัลนำจับ   สำหรับ ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปประกอบด้วย สร้อยข้อมือนาก 1 เส้น,สร้อยคอทองเค 2 เส้น,สร้อยคอ+สร้อยข้อมือทองคำ 3 เส้น,แหวนเพชรแถว 2 วง,สร้อยข้อมือเพชร 1 เส้น,สร้อยคอเพชร 1 เส้น,ต่างหูเพชร 2 คู่  นาฬิกาข้อมือ 20 เรือน,นาฬิกา bvlgari 1 เรือน , พระบูชา 4 องค์ , พระเครื่อง 1 ถุง(บรรจุหลายองค์)เครื่องเงินต่างๆจำนวน 1 ถาด,บัตรเครดิตและเงินสดจำนวนหลายหมื่นบาท รวมมูลค่าความเสียหายแล้วหลายแสนบาท

 

 

ความคืบหน้า 13.30 น วันที่ 13 ม.ค ภายใต้การอำนวยการของพล.ต ต พัฒนา เพศยนาวิน  ผบก น.2  ได้สั่งการให้พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน  รองผบกน 2ดูแลการปฏิบัติ  ดำเนินการสั่งการให้ พ.ต.อ กฤช กัญชนะ ผกก สน เตาปูน  พ.ต.ท.สุรเดช ฉัตรไทย รอง ผกก.สส  เตาปูน พ.ต.ต จำลอง สาดสูงเนิน สว สส สน เตาปูน พร้อมชุดทำงาน  ด.ต วิทยา สิงขรรัตน์ ด.ต จำนงค์ พลหลวง ด.ต จรัญ กันยิ่ง ด.ต ชยรพ ศรีบุตร  พร้อมชุดสืบสวน ดำเนินการติดตามคนร้ายมาให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นความเดือดร้อนของประชาชน จนทางเจ้าหน้าที่สามารถติดตาม จับกุม  นายบุญธรรมหรือซู ลิซ้ำ อายุ68ปี โดยจับกุมตัวได้ที่ ใกล้โรงแรม สหายสหกิจ ใกล้วงเวียน22กรกฏา แขวงป้อมปราม เขต ป้อมปราบศัตรูพ่าย
ตามเบาะแส(เป็นภาพวงจรปิด) ที่ซ่อนอยู่ในตุ๊กตา ที่คนร้ายมองไม่เห็นโดยสามารถติดตามตัวได้ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พร้อมด้วยของกลาง นาฬิกาข้อมือ 2 ยี่ห้อ Bvlgari นาฬิกา Tissot พระพิฆเนศ ขนาด 3 นิ้วสูง 4.5 นิ้ว หลวงพ่อทวดหน้าตัก 3 นิ้ว 1 องค์ ขณะนำของมาวางขาย (ตลาดมึด)  ส่วนทรัพย์สินอื่นๆ ที่ได้มาขายไปหมดแล้ว   โดยกล่าวหา ว่าลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยทำลายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครอง  นอกจากนี้ยังทำการจับกุมตัวนาย วันชัย หรือ เล็ก มงคลสุข อายุ69ปี  โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์หรือรับของโจรที่มักจะรับซื้อของที่นาย บูญธรรม ขโมยมา เอามาขาย

  ทางด้าน พ.ต.ท สรุเดช ได้เปิดเผยว่า ทั้งนี้หลังเกิดเหตุได้ให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ พบว่าคนร้ายได้ปีนตึกเข้ามาทางด้านหน้าก่อนจะเข้ามาในตัวบ้านและรื้อค้นทรัพย์สิน และที่สำคัญ คนร้ายมีประวัติที่โชกโชนและเห็นกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในจึงได้หยิบเอาเซฟเวอร์ของกล้องมาด้วย แต่หารู้ไม่มีกล้องอีก1ตัว ที่ เจ้าของบ้าน นำกล้อง ไอพี ดูผ่านระบบมือถือ สามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ได้อย่างชัดเจน จึงได้ทำการสิบสวน ไปตามตลาดมึดต่างๆ กระทั่งพบ ผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง กำลังขายของอยู่บริเวณดังกล่าวกระทั่งนำไปสู่การจับกุม 

 

 

จากการสอบสวน นายบุญธรรม ผู้ต้องหา ให้การรรับสารภาพ ได้กระทำจริง ด้วยตนเองไม่มีที่พักเป็นหลักแหล่ง ค่ำไหนนอนนั้น ส่วนวันเกิดเหตุที่ผ่านมา ตนนอนอยู่แถว สวนจตุจักร ก่อนจะขึ้นรถไฟใต้ดินมาแถวเตาปูน จากนั้นก็เดินเท้ามาเรื่อยๆและมาเจอบ้านหล้งดังกล่าวปิดไฟ มีกุญแจ ล๊อคอยู่หน้าบ้าน และคิดว่าไม่มีคนอยู่แน่  เพราะเป็นช่วงปีใหม่ และคาดว่าบ้านหลังดังกล่าวหน้าจะมีเงินจำนวนมาก ตนต้องการหาเงิน เล่นการพนัน กินเหล้าปีใหม่กับเพื่อนๆ ก็เลยปีนเสาไฟฟ้า หน้าบ้าน  ก่อนเอาชะแลงที่เตรียมมางัดหน้าต่าง  ก่อนจะปีนเข้าไปในบ้านเค้า และเอาทรัพย์สินใส่กระเป๋าที่เป้  ขณะเดียวกันก็เห็นวงจรปิดในบ้าน จึงไปดึงเอาเซฟเวอร์ไปด้วย เพื่อให้ยากต่อการจับกุมแต่สุดท้ายก็ไม่รอด เพราะมองไม่เห็นกล้องไอพี อีกตัวหนึ่งที่ซ่อนไว้  ที่ดูผ่านมือถิอ ก่อนจะเอาทรัพย์สินที่ได้ไปขายกับเพื่อน(ตลาดมึด)วงเวียน22กรกฏา จนมาถูกจับกุม

 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติ พบว่านายบุญธรรมหรือซู ลิซ้ำ เคยุถูกจับการพนัน เมื่อปี41 คดีลักทรัพย์ สน. สุทธสารปี 57 คดีลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน สน วังทองหลาง ปี 62  คดีลักลอบเล่นการพนัน จำนวน2ครั้ง สน เตาปูน จากนั้นทาง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้นำตัวไปทำแผนชี้จุดที่้เกิดเหตุ โดยเริ่มต้้ง เดินดูลาดเลาหน้าบ้าน ก่อนจะปีนเสาไฟฟ้า ที่อยู่ใกล้กับตึก แล้วใช้ชะแลงงัดเหล็กดัดเข้าไปภายในตัวตึก และลงมารื้อค้นทรัพย์สินที่ชั้นล่าง ก่อนจะหลบหนีขึ้นแท๊กซี่ ไป สถานนีรถไฟบางซื่อ นั่งกินนอนกิน จะกระทั่งเช้า นำของที่ได้ไปแยกหมอมี และถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา ทั้งนี้ขณะทำแผนการชี้จุด เจ้าของร้าน พยายามเข้าชกผู้ต้องหา แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่กั้นไว้ ทั้ง นี้ นาย มังกร รักยุทธ เจ้าของร้าน  ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนด้วย ที่ติดตามจนสามารถติดตามคนร้ายได้รวดเร็วถึงแม้ว่าจะไม่ได้ของกลางมาไม่ได้ครบ