เปิดต้นเหตุบินทหารอียิปต์เข้าไทย ทบ.แจงรัวโซเชียลโทษผิด สธ.นัดคนระยองตรวจโควิด

สืบเนื่องจากการที่ นพ. ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงเหตุข้อมูลผู้ติดเชื้อใหม่ ปรากฎพบว่ามี 2 เคสสำคัญที่เป็นชาวต่างประเทศ  แล้วเดินทางเข้าไทยโดยใช้สิทธิพิเศษ  และไม่ยอมปฏบัติตามมาตรการของทางภาครัฐ  จนกลายเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยในเวลานี้ ที่หลายฝ่ายวิตกกังวลการเกิดวิกฤตการกระจายเชื้อโควิดระลอกสอง

 

(คลิกอ่านข่าวประกอบ :    ผู้ว่าฯระยองสั่งปิดโรงแรม ลูกเรือทหารอียิปต์ ป่วยโควิดเข้าพัก กักตัว ตรวจเชื้อ 14 คน  ชาวบ้านจี้หนัก บอกมาเลยไปไหนบ้าง )

ล่าสุด  นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้น  ว่า ภายหลังได้รับรายงานทหารอียิปต์เดินทางเข้าพักโรงแรมใน จ.ระยอง และตรวจพบเชื้อโควิด-19  ได้มีการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับกรมควบคุมโรค  เพื่อสอบถามและอัพเดทข้อมูล   พบว่าตอนนี้ในเขตระยองมีพื้นที่เข้าข่ายเสี่ยง 3 จุด คือ ห้างแหลมทอง  ,  ห้างเซ็นทรัล และโรงแรมดีวารี   ซึ่งเป็นจุดที่พักและพื้นที่ลูกเรือทหารอียิปต์กลุ่มหนึ่งไปปรากฎตัวนอกสถานที่ควบคุม  ซึ่งต้องอยู่ภายใต้กรอบข้อกำหนดเรื่องการกักกันตัว  เรื่องแนวปฏิบัติตามมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 6 ในข้อ (5) ซึ่งอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยได้ แต่จะต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด และไม่ออกไปนอกพื้นที่สาธารณะจนกว่าจะเดินทางออกนอกประเทศ

 

 

 

"ตามข้อมูลในวันที่ 10 ก.ค.  มีรายละเอียดว่าทหารอียิปต์ได้ออกไปเดินห้างสรรพสินค้า   ตั้งแต่ช่วงเวลา 11.00-15.00 น.  ต่อมาเจ้าหน้าที่ขอให้กักตัวและขอตรวจหาเชื้อไวรัส  แต่ทหารอียิปต์กลุ่มดังกล่าวไม่ยอม  โดยอ้างว่าได้รับสิทธิพิเศษ  แต่จุดสำคัญคือ โรงแรมดังกล่าวไม่ใช่สถานที่กักกันโรคของรัฐ หรือ state quarantine จึงต้องนำเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้แทนสถานทูตมาเจรจามาจึงยอมตรวจ"

 

 

อย่างไรก็ตาม นายสาธิต ยืนยันว่าทหารอียิปต์ท้้งหมดที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย   ไม่ใช่แขกของรัฐบาลเหมือนกรณีผู้บัญชาการทหารบก  สหรัฐอเมริกา ที่ได้รับยกเว้นพิเศษ  แต่ก็ยอมปฏิบัติตัวตามกรอบข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด  โดยกรณีที่เกิดขึ้นที่อู่ตะเภาเป็นเครื่องบินทหาร  C130 ซึ่งเดินทางมาจากอียิปต์ ผ่านประเทศปากีสถาน แล้วขอแวะจอดที่ประเทศไทย ก่อนไปจีน ซึ่งทั้งหมดต้องก็มีการตรวจสอบย้อนเหตุทั้งหมดอีกครั้งว่ามีปัญหาในจุดใด

 

 

 

"โดยในวันที่ 14 ก.ค. จนท.กรมควบคุมโรค และผมจะเดินทางไปยังระยอง เพื่อนำรถพระราชทาน ไปทำการสุ่มตรวจเชื้อโควิดในกลุ่มเสี่ยง กลุ่มสัมผัสทั้งหมด ในส่วนของห้างสรรพสินค้า และหากกลุ่มบุคคใดที่กังวลว่าตัวเองมีความเสี่ยง สามารถมาตรวจเชื้อที่รถพระราชทานได้

 

 

ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่า พล.ร.ท.กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผอ.ท่าอากาศยานอู่ตะเภา  ให้ข้อมูลว่าเครื่องบินทหารอียิปต์  เข้ามาในไทยโดยการขออนุญาตแวะเพื่อเติมน้ำมันและหยุดพัก  แต่ทราบภายหลังทราบว่ามีลูกเรือบางคนฝ่าฝืนออกไปเที่ยวนอกที่พัก และกำลังกลายเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้

 

นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า  เครื่องบินลำดังกล่าว   ทางกองทัพอียิปต์  ได้ประสานผ่าน สถานทูตอียิปต์ ในประเทศไทย ให้แจ้งขออนุญาต กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ของไทย จากนั้นกองทัพอากาศไทย ได้พิจารณาอนุมัติให้บินเข้าประเทศได้ภายใต้ ข้อพิจารณาด้าน ความมั่นคงปลอดภัยทางการทหาร และความเป็นพันธมิตร ทางทหารที่มีต่อกัน

แต่ขณะเดียวกัน  สถานทูตอียิปต์ กับกระทรวงการต่างประเทศ  ได้มีการเน้นย้ำแล้วว่า ประเทศไทยมี มาตรการเรื่อง State Quarantine ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และขอให้ผู้ที่เดินทางเข้ามาปฏิบัติตัวตามประกาศ/ข้อบังคับของ ศบค. แต่สุดท้ายก็ยังมีการฝ่าฝืน

 

ขณะที่  ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก  ชี้แจงว่า  " ทบ.ปฎิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้นกับทหารอียิปต์ที่ติดเชื้อโควิต ระบุ " มีผู้ไม่หวังดีกล่าวหาและติด #ในโซเชียลมีเดีย เชื่อมโยงทำให้เข้าใจผิด"  โดยให้รายละเอียดว่า  ด้วยขณะนี้ปรากฏมีการสร้างกระแสโดยติดเทรนด์ #ในทวิตเตอร์ และ  social media กล่าวหาและเชื่อมโยงให้เข้าใจผิดว่า  กองทัพบกหรือผู้บัญชาการทหารบก มีส่วนเกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้ทหารอียิปต์   ซึ่งเดินทางโดยเครื่องบินเข้ามาในไทยและได้เข้าพักชั่วคราวใน สถานที่กักตัว ที่ จ.ระยอง ต่อมาถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิต19 นั้น

ขอเรียนว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง กองทัพบกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับการเดินทางของทหารอียิปต์  ที่มีการระบุว่ามีการติดเชื้อโควิด  ขอประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ เพราะเป็นการกล่าวหาโดยปราศจากข้อเท็จจริง เชื่อมโยงในลักษณะชี้นำ หวังให้เกิดความเข้าใจผิด   วอนผู้ใช้โซเชียลมีเดียยุติการส่งข้อความต่อหรือติด #ในข้อความดังกล่าว เพราะไม่ใช่เรื่องจริงและอาจตกเป็นเครื่องมือของผู้ที่มีเจตนาบิดเบือนให้ร้ายต่อกองทัพบก   ทั้งนี้ขอให้รับฟังการชี้แจงข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือ ศบค.เป็นสำคัญ

 

 

นอกจากนี้  เฟซบุ๊กเพจ เทศบาลนครระยอง ได้เผยแพร่ประกาศเทศบาลระยอง โดยระบุว่า จากที่มีข่าวการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 เกิดขึ้นใน จ.ระยอง เพื่อเป็นการป้องกันการเผยแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 เทศบาลนครระยองจึงปิดการสอนโรงเรียนในสังกัดเทศบาลนครระยองทั้ง 6 โรงเรียน และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กจำนวน 2 ศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.2563 ดังนี้

โรงเรียนสาธิตเทศบาลนครระยอง
โรงเรียนนครระยองวิทยาคม
โรงเรียนเทศบาลบ้านปากคลอง
โรงเรียนเทศบาลวัดปากน้ำ
โรงเรียนวัดโขดทิมธาราม
โรงเรียนเทศบาลวัดลุ่ม
ศูนย์เด็กเล็กวัดเนินพระ
ศูนย์เด็กเล็กวัดป่าประดู่

โดยให้เรียนทางออนไลน์แทน ยกเว้นศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก แต่หากมีการเปลี่ยนเปลงจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบทันที