หนุ่มขับรถกลับบ้านเกิดช่วงสงกรานต์ เจอเจ้าตูบข้างทาง ถูกชะตาเลยพาไปอยู่ด้วยกัน

เมื่อหนุ่มรายหนึ่งเดินทางกลับบ้าน ช่วงหยุดยาววันสงกรานต์กับครอบครัว แล้วระหว่างทาง ได้พบกับเจ้าตูบที่ถูกทอดทิ้ง เมื่อเห็นหน้าแล้วถูกชะตา จึงพากลับไปอยู่บ้านด้วยกัน

ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความน่ารัก ของมนุษย์ที่มีความเมตตาต่อเจ้าตูบน้อย เมื่อหนุ่มรายหนึ่งเดินทางกลับบ้าน ช่วงหยุดยาววันสงกรานต์กับครอบครัว แล้วระหว่างทาง ได้พบกับเจ้าตูบที่ถูกทอดทิ้ง เมื่อเห็นหน้าแล้วถูกชะตา จึงพากลับไปอยู่บ้านด้วยกัน 
 

ตูบถูกทิงไว้ข้างทาง หนุ่มใจดี พาไปอยู่ด้วย

 

โดยเรื่องราวน่ารักๆ ถูกเผยแพร่ผ่านทางเฟซบุ๊ก Kreingkrai Nop ได้เจ้าตัวได้โพสต์ภาพขณะไปเจอเจ้าตูบน้อย พร้อมเล่าว่า "ให้ชื่อว่า รอดล้อ หรือสงกรานต์ดี ระหว่างทางกลับบ้าน  หมาน้อยนั่งอยู่ขอบทาง เกือบเป็นเศษหมา ดีหลบทัน แล้วก็วิ่งหนีเข้าป่าไป แถวนั้น ไม่มีบ้านคน มีแต่ป่า พ่อแม่ญาติมันไม่มี เลยเอากลับสวนดีกว่า"
 

 

หนุ่มขับรถกลับบ้านเกิดช่วงสงกรานต์ เจอเจ้าตูบข้างทาง ถูกชะตาเลยพาไปอยู่ด้วยกัน

 

เจ้าตูบตัวนี้ มีสีดำผสมน้ำตาล หน้าตาน่ารัก น่าชัง โดยครอบครัวนี้ได้เข้าไปอุ้มมันออกมาจากโพรงหญ้าข้างถนน เพราะหากทิ้งมันไว้ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องอยู่ตรงนี้อีกนานเท่าไหร่ ไม่มีอาหาร และไม่มีใครดูแล ขาดว่าอาจจะถูกนำมาทิ้ง 

 

หนุ่มขับรถกลับบ้านเกิดช่วงสงกรานต์ เจอเจ้าตูบข้างทาง ถูกชะตาเลยพาไปอยู่ด้วยกัน

 

 

หนุ่มขับรถกลับบ้านเกิดช่วงสงกรานต์ เจอเจ้าตูบข้างทาง ถูกชะตาเลยพาไปอยู่ด้วยกัน

หน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดูมากเลยจ้า 

 

 

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าว ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีชาวโซเชียลและบรรดาคนรักน้องหมา เข้ามาคอมเม้นต์ใต้โพสต์ดังกล่าว ว่าเป็นวาสนาของน้องหมาและเจ้าของที่ได้เจอกัน ขอบคุณที่เมตตาตูบตัวน้อยให้มีบ้านอยู่ พร้อมทั้งโหวตชื่อให้ว่า น้องสงกรานต์ อีกด้วย

 

หนุ่มขับรถกลับบ้านเกิดช่วงสงกรานต์ เจอเจ้าตูบข้างทาง ถูกชะตาเลยพาไปอยู่ด้วยกัน

หนุ่มขับรถกลับบ้านเกิดช่วงสงกรานต์ เจอเจ้าตูบข้างทาง ถูกชะตาเลยพาไปอยู่ด้วยกัน

 

หนุ่มขับรถกลับบ้านเกิดช่วงสงกรานต์ เจอเจ้าตูบข้างทาง ถูกชะตาเลยพาไปอยู่ด้วยกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชาวหนองคายฉลองแชมป์ล่วงหน้า "ลิเวอร์พูล" ในช่วงสงกรานต์(คลิป)

หนุ่มน้อยเล่นสงกรานต์ พร้อมเลี้ยงน้องไปด้วย

คลิปดัง "Kill This Love หล่มสัก" ไวรัลที่แชร์มากที่สุดในสงกรานต์นี้(คลิป)

 

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Kreingkrai Nop