- 30 ม.ค. 2560
รู้จริง...รู้แจ้ง...ทุกเรื่องราวแห่งพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th
พ.ศ. ๒๔๘๕ "หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน" (ในพรรษาที่ ๙) ได้เดินทางไปพบ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ที่จังหวัดสกลนคร พร้อมทั้งฝากตัวเป็นศิษย์
ณ วันที่ได้พบกับหลวงปู่มั่นอย่างประจันหน้ากัน ประดาความรู้สึกลึก ๆ ข้างในของหลวงตามหาบัวก็บอกว่า การเดินทางเพื่อแสวงหาอาจารย์ได้สิ้นสุดลงแล้ว เหมือนนกที่พบรมณียสถานเพื่อการพำนักตลอดไปแล้ว สถานที่แห่งนี้ก็คือร่มเงาแห่งพระอาจารย์มั่นนั่นเอง
ต่อไปนี้คือคำแนะนำต่าง ๆ ที่หลวงปู่มั่นมีให้แก่หลวงตามหาบัวในค่ำคืนแรกของความเป็นศิษย์กับอาจารย์ เพื่อให้ความสงสัยคลางแคลงใจในเรื่อง "มรรคผลและนิพพาน" ของหลวงตามหาบัวอันตรธานไปสิ้น
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
"... ท่านมาหามรรคผลนิพพาน มรรคผลนิพพานอยู่ที่ไหน?
ดินเป็นดิน น้ำเป็นน้ำ ลมเป็นลม ไฟเป็นไฟ ฟ้าอากาศเป็นฟ้าอากาศ แร่ธาตุต่าง ๆ เป็นของเขาเอง เขาไม่ได้เป็นมรรคผลนิพพาน เขาไม่ได้เป็นกิเลส
กิเลสจริง ๆ มรรคผลนิพพานจริง ๆ อยู่ที่หัวใจ ขอให้ท่านกำหนดจิตจ่อด้วยสติที่หัวใจ ท่านจะเห็นความเคลื่อนไหวของทั้งธรรมของทั้งกิเลสอยู่ภายในใจ แล้วขณะเดียวกัน ท่านจะเห็นมรรคผลนิพพานไปโดยลำดับ ...
ท่านมหาก็นับว่าเรียนมาพอสมควร จนปรากฏนามเป็นมหา ผมจะพูดธรรมให้ฟังเพื่อเป็นข้อคิด
แต่อย่าเข้าใจว่าผมประมาทธรรมของพระพุทธเจ้านะ เวลานี้ ธรรมที่ท่านเรียนมาได้มากได้น้อยยังไม่อำนวยประโยชน์ให้ท่านสมภูมิที่เป็นเปรียญ นอกจากจะเป็นอุปสรรคต่อการภาวนาของท่านในเวลานี้เท่านั้น เพราะท่านจะอดเป็นกังวลและนำธรรมที่เรียนมานั้นเข้ามาเทียบเคียงไม่ได้ในขณะที่ทำใจให้สงบ
ดังนั้น เพื่อความสะดวกในเวลาจะทำความสงบให้แก่ใจ ขอให้ท่านที่จะทำใจให้สงบยกบูชาไว้ก่อนในบรรดาธรรมที่ท่านได้เรียนมา
ต่อเมื่อถึงกาลที่ธรรมซึ่งท่านเรียนมาจะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้ท่านได้รับประโยชน์มากขึ้นแล้ว ธรรมที่เรียนมาทั้งหมดจะวิ่งเข้ามาประสานกันกับทางด้านปฏิบัติและกลมกลืนกันได้อย่างสนิท ทั้งเป็นธรรมแบบพิมพ์ ซึ่งเราควรจะพยายามปรับปรุงจิตใจให้เป็นไปตามนั้น
แต่เวลานี้ ผมยังไม่อยากจะให้ท่านเป็นอารมณ์กับธรรมที่ท่านเล่าเรียนมา
อย่างไรจิตจะสงบลงได้ หรือจะใช้ปัญญาคิดค้นในขันธ์ ก็ขอให้ท่านทำอยู่ในวงกายนี้ก่อน เพราะธรรมในตำราท่านชี้เข้ามาในขันธ์ทั้งนั้น
แต่หลักฐานของจิตยังไม่มี จึงไม่สามารถนำธรรมที่เรียนมาจากตำราน้อมเข้ามาเป็นประโยชน์แก่ตนได้ และยังจะกลายเป็นสัญญาอารมณ์คาดคะเนไปที่อื่น จนกลายเป็นคนไม่มีหลัก เพราะจิตติดปริยัติในลักษณะไม่ใช่ทางของพระพุทธเจ้า
ขอให้ท่านนำธรรมที่ผมพูดให้ฟังไปคิดดู ถ้าท่านตั้งใจปฏิบัติ ไม่ท้อถอย วันหนึ่งข้างหน้า ธรรมที่กล่าวนี้จะประทับใจท่านแน่นอน ..."
ความสงสัยคลางแคลงใจในเรื่องมรรคผลและนิพพานที่ค้างคาอยู่ในใจของหลวงตามหาบัวมานาน บัดนี้มีแต่ความกระจ่างชัด
ในเมื่อมรรคผลและนิพพานได้รับการยืนยันโดยหลวงปู่มั่นแล้วว่าเป็น "ของจริง" ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่ความจริงของสิ่งเหล่านั้นแล้ว แต่อยู่ที่หลวงตามหาบัวเองว่าจะจริงจังกับ "ของจริง" เหล่านั้นได้มากแค่ไหน
คำถามที่หลวงตามหาบัวตั้งไว้ในตอนแรกจึงย้อนกลับมาหาคำตอบที่ตัวท่านเองด้วย ...
"แล้วเราจะจริงไหม?"
และดูเหมือนว่าท่านจะมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ...
"ต้องจริงซี
ถ้าไม่จริง.. ให้ตาย อย่าอยู่ให้หนักศาสนาและหนักแผ่นดินต่อไป ...
หากว่าท่านอาจารย์มั่นยังมีชีวิตอยู่ตราบใดแล้ว เราจะไม่หนีจากท่าน จนกระทั่งวันท่านล่วงไป หรือเราล่วงไป"
และนี่ก็คือ จุดเริ่มต้นของการหันเหชีวิตจาก "สังสารวัฏ" ไปสู่ "นิพพาน" ของหลวงตามหาบัว!!
-------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : หนังสือ "วินาทีบรรลุธรรม พระอรหันต์มีจริง ๕ : นิพพานแล้วไม่สูญ" โดย ปัญญาญาณ
ณัฐวุฒิ/สำนักข่าวทีนิวส์ : รายงาน