เรื่องเป็นอย่างนี้!!! แพทย์ศิริราชแถลงสรุปผลผ่าศพหาเหตุเซลส์แมนตาย ไม่ได้เกิดจากถูกทำร้าย แต่อวัยวะภายในเสียหายเพราะเหตุอื่น??

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

คณะแพทย์โรงพยาบาลศิริราชได้แถลงถึงกรณีการเสียชีวิตของ นายรัติภูมิ พิมใจใส โดยทางโรงพยาบาล ได้รับตัวไว้รักษาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ผ่านมาซึ่งคนไข้อยู่ในสภาพหมดสติไม่รู้สึกตัว และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม ที่ผ่านมา จึงส่งศพไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่ภาควิชานิติเวช พบคนไข้มีภาวะ ตับและไตวาย นอกจากนี้ตามร่างกายมีบาดแผลฉีดขาดเล็กน้อยที่ศีรษะและรอยขีดข่วนบนใบหน้า ที่ไม่ทำให้ถึงกับเสียชีวิต นอกจากนี้จากการตรวจผลตรวจเลือดพบสารเมทาเฟตามีน (สารเสพติด) 

 

 

 

เรื่องเป็นอย่างนี้!!! แพทย์ศิริราชแถลงสรุปผลผ่าศพหาเหตุเซลส์แมนตาย ไม่ได้เกิดจากถูกทำร้าย แต่อวัยวะภายในเสียหายเพราะเหตุอื่น??

 

โดยทางครอบครัวของนายรัติภูมิไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตและจะนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดในจังหวัดสุพรรณบุรี ส่วน พลตำรวจโทศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลที่เดินทางมาดูสภาพศพด้วยกล่าวว่า  การเสียชีวิตของนายรัติภูมิ พิมใจใส  เซลแมนขายรถยนต์ ต้องรอผลการแถลงของแพทย์ ว่าเสียชีวิตด้วยสาเหตุ ถ้าเป็นการตายแบบผิดธรรมชาติก็จะมีการชันสูตร 

 

 

 

เรื่องเป็นอย่างนี้!!! แพทย์ศิริราชแถลงสรุปผลผ่าศพหาเหตุเซลส์แมนตาย ไม่ได้เกิดจากถูกทำร้าย แต่อวัยวะภายในเสียหายเพราะเหตุอื่น??

 

เบื้องต้นตำรวจยังไม่พบความผิดปกติใดๆ นอกจากตำรวจได้เรียกสอบปากคำเจ้าหน้าที่อปพร. ไปแล้ว โดยตัวอปพร.ยืนยันว่านายรัติภูมิมีอาการคลุ้มคลั้งเหมือนคนวิกลจริต จากที่มีกระแสข่าวว่ามีตำรวจสน.ตลิ่งชันควบคุมตัวนายรัตภูมิ ไว้นั้น ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจะมีการหย่อนยานหรือผิดวินัยการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ 

 

 

 

เรื่องเป็นอย่างนี้!!! แพทย์ศิริราชแถลงสรุปผลผ่าศพหาเหตุเซลส์แมนตาย ไม่ได้เกิดจากถูกทำร้าย แต่อวัยวะภายในเสียหายเพราะเหตุอื่น??

 

 

 

ส่วนประเด็นว่านายรัติภูมินั้นจะเสียชีวิตจากปมขัดแย้ง และเป็นมูลเหตุทำให้ให้เกิดการเสียชีวิตหรือไม่นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์. ส่วนทางด้านครอบครัว กล่าวว่า วันนี้ทางครอบครัว มาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายรัติภูมิและมั่นใจกระบวนการปฎิบัติยุติธรรม นอกจากนี้ทางญาติยืนยันว่า นายรัติภูมิไม่มีประวัติการใช้ยาเสพติด ทันทีที่ญาติเห็นศพนายรัติภูมิ ถึงกับปล่อยโฮ เพราะมั่นใจว่าใช้

 

 

 

เรื่องเป็นอย่างนี้!!! แพทย์ศิริราชแถลงสรุปผลผ่าศพหาเหตุเซลส์แมนตาย ไม่ได้เกิดจากถูกทำร้าย แต่อวัยวะภายในเสียหายเพราะเหตุอื่น??

 

 

 

 

ก่อนหน้านั้น จากกรณีมีข่าวเซลล์แมนหายตัว ล่าสุดพบศพแล้ว เบิร์ด รัติภูมิ พิมใจใส เป็นศพไร้ญาติที่ รพ.ศิริราช ตรวจวงจรปิดก่อนหายตัว พบออกจากบ้าน มิ้ว วิ่งกระสับกระส่าย ตำรวจเร่งตรวจสอบ

 

การหายตัวไปของเซลล์แมนหนุ่มวัย 34 ปี หลังเจ้าหน้าที่เร่งควานหาอยู่หลายวัน จนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (6 กุมภาพันธ์ 2560) ที่ผ่านมา มีรายงานว่าเจอศพของนายรัติภูมิ พิมใจใส หรือ เบิร์ด พนักงานขายรถยนต์ย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ ที่หายตัวไปอย่างปริศนา ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2559 โดยพบเป็นศพไร้ญาติอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช และพบว่าเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2559

สำหรับลำดับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้นั้น ทางคุณพ่อของเบิร์ด คาดว่าลูกชายน่าจะถูกอุ้มเพราะเรื่องชู้สาว เนื่องจากสาวคนสนิทที่ลูกไปติดพัน มีสามีเป็นคนมีสี และก่อนหน้านี้ก็ได้เตือนลูกชายแล้ว แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะมีความเป็นไปได้ทั้งเรื่องชู้สาว และการขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ พร้อมกับเร่งหาตัวเบิร์ดอย่างต่อเนื่อง

 

ขณะที่การสอบปากคำภรรยาของเบิร์ด ก็พบไม่พิรุธใดๆ เจ้าตัวยอมรับว่า ก่อนที่สามีจะหายตัวไปนั้นมีปากเสียงกันจริง และสามีได้ขนของออกจากบ้านไประหว่างที่ตนไม่อยู่บ้าน นอกจากนี้การตรวจสอบโทรศัพท์ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ

 

ในเวลาต่อมา "มิ้ว" สาวที่ตกเป็นข่าวถูกอ้างว่าเป็นคนที่เบิร์ดกำลังติดพันอยู่ ได้เปิดเผยว่า ตนยืนยัน ไม่ได้มีความสัมพันธ์เรื่องชู้สาวแต่อย่างใด เป็นเพียงเพื่อนที่รู้จักกันเท่านั้น ก่อนเกิดเหตุนายรัติภูมิทะเลาะกับภรรยาและถูกไล่ออกจากบ้าน มาขออาศัยนอนที่บ้านตน แต่เบิร์ดกลับทำอาการลุ่มล่ามใส่และจะลวนลาม ตนจึงไล่ออกจากบ้านไป

 

แต่นอกจากมิ้วแล้วเบิร์ดยังติดพันสาวคนอื่นด้วย โดยเป็นการให้ข้อมูลจาก "แป้ง" หัวหน้างานของเบิร์ด ระบุว่า เบิร์ดมีลักษณะเป็นคนเจ้าชู้ และตนทราบมาว่า เบิร์ด ไปชอบผู้หญิงอีกคนหนึ่งนอกเหนือจากภรรยาและมิ้ว โดยสาวรายนี้หน้าตาดี มีฐานะ ซึ่งตนได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้มีครอบครัวแล้วอีกเช่นกัน และที่สำคัญคือ ก่อนที่ เบิร์ด จะหายตัวไป เบิร์ด ได้โทร. มาบอกตนว่า ช่วยด้วย พร้อมมีลักษณะเหมือนกำลังวิ่ง รวมถึงได้ส่งโลเคชั่นมาให้ ก่อนที่สุดท้ายจะได้ยินเสียงสั่นสะเทือนเหมือนโทรศัพท์ตก ซึ่งระหว่างนั้น เบิร์ด ก็ไม่ได้บอกว่ากำลังหนีใครอยู่


ทั้งนี้ มีข้อมูลจากกู้ภัยด้วยว่า พนักงานปั๊มน้ำมันได้แจ้งมายังกู้ภัยว่าเจอคนหมดสติ ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2559 ลักษณะคล้ายคนวิกลจริต วิ่งไปวิ่งมา คลุ้มคลั่งโวยวาย ก่อนจะไปสลบอยู่ที่เกาะกลางถนน กู้ภัยจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล ตรงกับข้อมูลที่ติดต่อเบิร์ดไม่ได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม

 

ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลศิริราช เผยว่า ได้รับตัวชายไม่ทราบชื่อมาจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิ เบื้องต้นพบว่ามีอาการชักเกร็ง ใบหน้าเขียวช้ำ และมีบริเวณมือพบสารสีขาว ลักษณะคล้ายยาเสพติด ประมาณ 1 กรัม โดยผู้ป่วยรายนี้ได้เสียชีวิตลง เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2559 

 

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต. ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์  ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 (ผบก.น.7. ) กล่าวว่า จากที่ตนเองเดินทางไปตรวจสอบศพของผู้เสียชีวิตที่ นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช ตามคำบอกเล่าของพยานที่ตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิด เบื้องต้นค่อนข้างมั่นใจว่าผู้เสียชีวิต คือนายรัติภูมิ เนื่องจากตามคำให้การของภรรยา เล่าว่า นายรัติภูมิมีรอยสักอยู่บริเวณแขนด้านซ้าย และมีแผลเป็นอยู่บริเวณนิ้วด้านขวา โดยตำหนิที่พบตามร่างของผู้ตาย ตรงกับคำให้การ 

 

 

 

 

 

เรียบเรียง : นิตติยา  สำนักข่าวทีนิวส์