“จากนี้ขออย่าขัดแย้งกันอีกเลย เป็นพระราชอัธยาศัยของพระองค์ที่ทรงพิจารณาเอง” เปิดพระจริยวัตรพระสังฆราชองค์ที่20 สงฆ์ผู้สมถะ พระผู้ไม่สะสม

ติดตามรายละเอียด http://deeps.tnews.co.th

       จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กล่าวถึงการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชว่า ได้นำรายชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติดำรงตำแหน่งพระสังฆราช 5 องค์ ให้สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพิจารณาและเมื่อคืนวันที่ 6 กุมภาพันธ์  ตนได้รับแจ้งว่าทรงโปรดเกล้าฯ สมเด็จพระมหามุณีวงศ์ วัดราชบพิธ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่  ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ จะจัดงานพิธีสถาปนาในวันที่ 12 ก.พ.  เวลา 17.00 น. ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพิธีตามพระราชประเพณี  “ จากนี้ขอให้อย่าขัดแย้งกันอีกเลย ที่เลือกมาก็ดูเรื่องการปฏิบัติงานและคุณสมบัติอื่น ที่สำคัญเป็นพระราชอัธยาศัยของพระองค์ที่ทรงพิจารณาเอง ”

 

       ทั้งนี้ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร)ได้รับสถาปนาเป็น สมเด็จพระราชาคณะ เมื่อปี 2552 นามเดิม อัมพร ประสัตถพงศ์ เป็นสมเด็จพระราชา คณะฝ่ายธรรมยุติกนิกาย ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม และรองแม่กองงานสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2470 (ปัจจุบันอายุ 90 ปี) ณ ตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี โยมบิดาชื่อนายนับ ประสัตถพงศ์ โยมมารดาชื่อนางตาล ประสัตถพงศ์ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย

“จากนี้ขออย่าขัดแย้งกันอีกเลย เป็นพระราชอัธยาศัยของพระองค์ที่ทรงพิจารณาเอง” เปิดพระจริยวัตรพระสังฆราชองค์ที่20 สงฆ์ผู้สมถะ พระผู้ไม่สะสม

       สำหรับสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร)ไม่มีประวัติใดๆที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย และยังพบว่าท่านนั้นฯเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร พระธุดงค์กรรมฐานชื่อดังในจังหวัดสกลนครด้วย  โดยสมเด็จพระมหามุนีวงศ์  ยังเป็นพระธรรมทูตไปต่างประเทศรุ่นแรกของคณะสงฆ์ธรรมยุต และเป็นหัวหน้านำพระพุทธศาสนาจากประเทศไทยไปเผยแผ่ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย โดยได้วางรากฐานพระพุทธศาสนาจนมั่นคง มีวัดและพระสงฆ์ไทยอยู่ประจำ ณ นครซิดนีย์ มาจนถึงปัจจุบัน และได้ขยายไปยังเมืองใหญ่อีกหลายเมือง เช่น กรุงแคนเบอร์รา นครเมลเบิร์น และเมืองดาร์วิน เป็นต้น

“จากนี้ขออย่าขัดแย้งกันอีกเลย เป็นพระราชอัธยาศัยของพระองค์ที่ทรงพิจารณาเอง” เปิดพระจริยวัตรพระสังฆราชองค์ที่20 สงฆ์ผู้สมถะ พระผู้ไม่สะสม

       ที่ผ่านมามีเรื่องเล่าเกี่ยวกับวัตรปฏิบัติของ  สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ด้วยว่า “ มีโยมท่านหนึ่งกราบเรียนถามท่านเจ้าประคุณสมเด็จว่า ท่านอาจารย์ ปัจจัยมากๆ ท่านอาจารย์ใช้ปัจจัยอย่างไรครับผม  ท่านเจ้าประคุณสมเด็จท่านก็เมตตาพูดให้ฟังว่า ปัจจัยที่เราได้มานั้น

 

1.นำเข้ามูลนิธิหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่ท่านเป็นประธานอยู่

 

2.นำไปช่วยเหลือโรงเรียนวัดราชบพิธ ที่ท่านเป็นประธานอยู่

 

3.นำมาสงเคราะห์ให้กับพระเณร ที่อาศัยอยู่ในวัดราชบพิธ และช่วยเหลือผู้คนที่ยากไร้

 

        สุดท้ายท่านเจ้าประคุณสมเด็จได้กล่าวไว้ว่า เราไม่มีแม้สักแดงเดียวนะ เราไม่สะสม แม้แต่เหรียญอาจารย์ฝั้นสักเหรียญเรายังไม่มี รถเราก็ไม่มี

“จากนี้ขออย่าขัดแย้งกันอีกเลย เป็นพระราชอัธยาศัยของพระองค์ที่ทรงพิจารณาเอง” เปิดพระจริยวัตรพระสังฆราชองค์ที่20 สงฆ์ผู้สมถะ พระผู้ไม่สะสม

       อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติผ่านความเห็นชอบร่างแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2535 ให้พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง และให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระราชโองการ ตามที่ คณะกรรมาธิการการศาสนาศิลปวัฒนธรรมและการ ท่องเที่ยว เป็นผู้เสนอโดยตัดขั้นตอนการพิจารณาเสนอชื่อสมเด็จพระราชาคณะที่มีอาวุโสสูงสุดโดยมหาเถรสมาคมออกไปโดย พ.ร.บ.ฉบับที่ได้มีการแก้ไขดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ การบัญญัติให้ พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง และให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ จากเดิมที่ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2535 กำหนดให้สถาปนาสมเด็จพระสังฆราชนั้น จะต้องผ่านการพิจารณาให้ความเห็นชอบของมหาเถรสมาคมก่อน โดยให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคมเสนอนาม สมเด็จพระราชาคณะผู้มีอาวุโสสูงสุดโดยสมณศักดิ์และนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช

“จากนี้ขออย่าขัดแย้งกันอีกเลย เป็นพระราชอัธยาศัยของพระองค์ที่ทรงพิจารณาเอง” เปิดพระจริยวัตรพระสังฆราชองค์ที่20 สงฆ์ผู้สมถะ พระผู้ไม่สะสม

 

 

 

 

 

เรียบเรียงโดย : ศิริพงศ์ สำนักข่าวทีนิวส์