ดุเดือดทุกคำพูด "บิ๊กตู่"ยืนยันหนักแน่น!? ไม่ยกเลิกคำสั่งม.44 พร้อมซัดหนัก ถ้าธัมมชโยบริสุทธิ์จริงทำไมไม่มามอบตัว (รายละเอียด)

ดุเดือดทุกคำพูด "บิ๊กตู่"ยืนยันหนักแน่น!? ไม่ยกเลิกคำสั่งม.44 พร้อมซัดหนัก ถ้าธัมมชโยบริสุทธิ์จริงทำไมไม่มามอบตัว (รายละเอียด)

โดยจากกรณีที่มีคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 5/2560 ระบุว่า ตามที่ได้ปรากฏว่ามีบุคคลบางคนหรือบางกลุ่มมีข้อกล่าวหาว่ากระทําความผิดอาญาอันมีผลกระทบ ต่อความสงบเรียบร้อยของสังคมและบ้านเมือง ซึ่งการกระทําความผิดดังกล่าวนําไปสู่การออกหมาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาแล้ว แต่มิได้ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามหมาย ของพนักงานสอบสวนหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตํารวจชั้นผู้ใหญ่หรือของศาล แล้วแต่กรณี ทั้งยังมี การขัดขวาง ปิดบัง ซ่อนเร้น ตลอดจนปิดกั้นพื้นที่มิให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติงานได้ และการขัดขวาง ดังกล่าวยังขยายอาณาบริเวณกว้างขวาง หรือมีกลุ่มคนจํานวนมากเข้ามาสมทบหรือชุมนุมกันจนน่าวิตก ว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น เป็นเหตุให้การบังคับใช้กฎหมายไม่บรรลุผล และทําลายความสงบเรียบร้อยของส่วนรวมจึงจําเป็นต้องกําหนดมาตรการให้อํานาจในการควบคุมพื้นที่ขึ้นเป็นการชั่วคราวเท่าที่จําเป็นเพื่อให้ การบังคับใช้กฎหมายในส่วนของกระบวนการยุติธรรมทางอาญาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดความ สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง รวมทั้งเพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวม
 

เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงปัญหาการตรวจค้นวัดพระธรรมกายว่า วันนี้โทรทัศน์บางช่อง พิธีกรบางคน ระบุว่าใช้มาตรา 44 กับวัดพระธรรมกายแล้วก็ไม่มีความหมาย กลายเป็นว่ารัฐบาลไม่มีน้ำยา ซึ่งเรื่องนี้หากไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ปัญหาก็จะเกิด กลายเป็นเชียร์มวย ดูกันว่าใครจะชนะระหว่างพระกับเจ้าหน้าที่ ถามว่าเกิดประโยชน์อะไรกับบ้านเมืองบ้าง เรื่องนี้เป็นคดีความ ถ้าสู้กันตามกระบวนการ ทุกอย่างก็จบ
            “เมื่อตำรวจบอกว่า 7 วัน คือหมายความว่าต้องรู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป วันนี้มีการทำงานร่วมกันทั้งสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) มหาเถรสมาคม(มส.) ก็ลงมาหารือร่วมกันเพื่อทำให้วัดพระธรรมกายเป็นสถานที่ที่ประชาชนสามารถเข้าไป ไม่แปลกประหลาดหรือแตกต่างจากที่อื่น ส่วนคดีความเป็นเรื่องของบุคคล ใครทำผิดก็ว่ากันไป ขอร้องอย่าพูดเหมือนเดิมพันใครจะชนะ เพราะบ้านเมืองจะแพ้ตลอด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
            ส่วนกรณีที่วัดพระธรรมกายมีการต่อเติมอาคารและใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คนทำผิดกฎหมายยังไม่มาขึ้นศาลตามกระบวนการ จึงอย่าเพิ่งถามว่าผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ที่เกี่ยวข้องจะมีความผิดหรือไม่ ดังนั้นสื่อมวลชนจึงควรบอกผู้ที่กระทำความผิดให้มามอบตัว เพราะเป็นหน้าที่ของสื่อ ที่จะต้องไปบอกว่า ขอให้พระสงฆ์เอาผ้าปิดจมูกออก
            “ได้ที่ไหน เป็นพระปิดหน้าปิดตา เหมาะสมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ส่วนที่ขอให้ยกเลิกมาตรา 44 ยืนยันว่าผมไม่ยกเลิก เพราะยังไม่จบเรื่องแล้วจะยกเลิกได้อย่างไร กฎหมายเลิกได้ที่ไหน ในเมื่อยังนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีไม่ได้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องควบคุมไปตลอดจนกว่าพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสจะมอบตัวหรือดำเนินคดีได้ พร้อมบริหารจัดการใหม่และอย่ามาบอกว่าผมจะไปยึดพระทองคำ เพราะไม่รู้อะไรอยู่ไหน มีหรือเปล่าก็ไม่รู้ และแน่ใจอย่างไรว่าเป็นพระแท้ เป็นไปได้หรือที่นำทองคำไปหล่อพระขนาดนั้น เพราะขนาดสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นยังรั่วเลย คิดแบบนี้ก็จะรู้คำตอบเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว