- 17 ม.ค. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th
ถ้ำเขาจั๊กจั่น วัดถ้ำทอง จ.ลพบุรี ถล่มทับชาวบ้านเสียชีวิต ขณะกำลังหาขี้ค้างคาวเอาไปขาย คาดเกิดจากฝนตกหนักก่อนนี้ทำให้น้ำเซาะดินจนหิดเกิดการเคลื่อนตัว
วันนี้ ( 17 ม.ค.) ลพบุรี - พ.ต.ท.สุเวช ม่วงทอง พนักงานสอบสวน สภ.หนองม่วง จ.ลพบุรี รับแจ้งเหตุหินปากถ้ำบนเขาจั้กจั่น หลังวัดถ้ำสิทธิตราราม หรือ วัดถ้ำทอง หมู่ที่ 4 ต.ชอนสรเดช อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี พังถล่ม มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย นายภานุ แย้มศรี ผวจ.ลพบุรี นายสมยศ มะลิลา นอภ.หนองม่วง นายธนะ พรหมด้วง หน.ศูนย์ ปภ.เขต 1 พล.ต.ต.สืบพงษ์ ภาษยะวรรณ ผบก.ภ.จว.ลพบุรี พ.ต.อ.ปรารถนา แผ่นผ่า ผกก.สภ.หนองม่วง และประสานหน่วยกู้ภัยในพื้นที่
สถานที่เกิดเหตุอยู่ในถ้ำอยู่บนเขาและลึกลงไปประมาณ 10 เมตร จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีชาย 4 คน ประกอบด้วย นายอุทัย ทองใบ อายุ 50 ปี นายประสงค์ วงศ์มณี อายุ 47 ปี นายวิไล วงศ์มณี อายุ 44 ปี และ นายเสถียร วิมล (ไม่ทราบอายุ) ได้เดินทางมาหาขี้ค้างคาวในถ้ำดังกล่าว เพื่อนำไปขายให้กับเกษตรกรไปทำเป็นปุ๋ยใส่ในแปลงพืชไร่ ซึ่งทั้งหมดเดินทางมาหาเป็นประจำ และในวันนี้ได้มากันแต่เช้า โดยมีนายอุทัย กับ นายเสถียร อยู่ด้านบนปากถ้ำ ส่วน นายประสงค์ และ นายวิไล นำถุงปุ๋ยไต่เชือกลงไปในถ้ำ โดยปากถ้ำมีความกว้างประมาณ 1 เมตร ซึ่งระหว่างช่วงที่ นายอุทัย กำลังดึงถุงขี้ค้างคาวขึ้นมานั้น หินที่นายอุทัย เหยียบอยู่ตรงปากถ้ำได้เกิดพังถล่มลงไป ทำให้ นายอุทัย เสียหลักตกลงไปในถ้ำและถูกก้อนถินที่ถล่มลงมาทับซ้ำจนบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ส่วน นายประสงค์ และ นายวิไล ที่อยู่ในถ้ำก่อนแล้วหลบทันจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ ทั้งคู่จึงปีนเชือกขึ้นมาได้และไปบอกให้ชาวบ้านช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการช่วยเหลือ
หลังจากได้ข้อมูล เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้เชือกโรยตัวลงไปค้นหาร่างของ นายอุทัย โดยใช้เวลากว่า 8 ชม.กว่าจะค้นหาและนำศพขึ้นมา เบื้องต้นคาดว่า สาเหตุของหินปากถ้ำถล่มในครั้งนี้ น่าจะมาจากที่ในช่วงก่อนหน้านี้ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ดินที่ประคองก้อนหินอยู่ถูกน้ำเซาะ เป็นเหตุให้ก้อนหินเกิดการเคลื่อนตัว
ด้าน นายภานุ ผู้ว่าราชการ จ.ลพบุรี กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวต้องฝากให้ทางผู้นำชุมชนไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านที่มีอาชีพเก็บขี้ค้างคาวขาย หรือนำไปใส่ในสวน ไร่ นา อย่างมุ่งแต่ของที่จะได้แต่ขอให้ดูแลในเรื่องของความปลอดภัยของตัวเองด้วย
ขอบคุณภาพจาก มูลนิธิโคกสำโรงสงเคราะห์