สั่งย้ายแล้ว!!ผู้พิพากษาขาวีน ระบุป่วยทางจิควบคุมอารมณ์ไม่ได้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.tnews.co.th

โฆษกศาลยุติธรรม ยอมรับผู้หญิงในคลิปอาละวาดที่กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้พพากษาจริง ระบุมีประวัติป่วยทางจิต ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงและย้ายกลับไปประจำสำนักงานศาลยุติธรรม


จากกรณีมีการแพร่คลิปหญิงสาวรายหนึ่ง เป็นผู้พิพากษาไปติดต่องานภายในอาคาร 1 กรมการขนส่งหมอชิต เรื่องรถถูกสวมทะเบียน แต่จอดรถกีดขวาง แล้วถูกเจ้าหน้าที่ขนส่งออกใบสั่งและติดไว้ที่รถ โดยเจ้าตัวแสดงอาการไม่พอใจพร้อมกับโวยวายและปาสิ่งของ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลาประมาณ 14.00 น. ของวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา และปรากฏว่าชาวเน็ตที่เข้าไปดูคลิป ได้แสดงความคิดเห็นถึงความไม่เหมาะสม พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบว่าเป็นผู้พิพากษาจริงหรือไม่

 

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 21 ม.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 12 สำนักงานศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก  เมื่อเวลา 12.30 น. นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม  กล่าวยอมรับว่าผู้หญิงที่ปรากฎในคลิปวิดีโอ คือ น.ส.ชิดชนก แผ่นสุวรรณ อายุ 45 ปี ผู้พิพากษาประจำสำนักงานศาลยุติธรรม ช่วยทำงานในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้น  ประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์  ซึ่งมีประวัติป่วยทางจิต ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ และต้องทานยารักษาตลอดเวลา โดยมีอาการดังกล่าวมาประมาณ 2 ปี แล้ว และทราบว่าก่อนเกิดเหตุนางสาวชิดชนกไม่ได้ทานยา อาการป่วยจึงกำเริบ ไม่สามารถควบคุมสติอารมณ์ได้

 
นายสืบพงษ์  กล่าวต่อว่า ขณะนี้ นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา นายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ทราบเรื่องแล้ว และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว  พร้อมมีคำสั่งให้กลับมาปฎิบัติหน้าที่ที่สำนักงานศาลยุติธรรม ระหว่างรอผลการสอบสวน หากพบว่าบกพร่องต่อหน้าที่ จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ หรือหย่อนความสามารถในการทำงาน มีโทษสูงสุด คือให้ออกจากราชการ แต่มีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญ


โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า น.ส.ชิดชนก ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษามากว่า 10 ปีแล้ว และเคยถูกดำเนินคดี ฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงาน กรณีจอดรถกีดขวางการจราจร บริเวณถนนพหลโยธิน หน้าศาลอาญา เมื่อ ปี 2555 ถูกศาลพิพากษาปรับ 1 พันบาท และยังถูกดำเนินคดีฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานและทำให้เสียทรัพย์  กรณีปาข้าวกล่องใส่รถ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ขณะดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อปี 2556 และศาลพิพากษา จำคุก 2 เดือน ปรับ 2 พันบาท แต่รับสารภาพมีเหตุลดโทษ โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี และจากกรณีดังกล่าว สำนักงานศาลยุติธรรม  ได้มีคำสั่งให้นางสาวชิดชนก ไปช่วยทำงานในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้น ประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยทำงานด้านเอกสาร ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาคดี